ตอนที่ 4 ความเจ็บปวด
ตอนที่ 4
ความเจ็บปวด
@ผับหรูเอเดน
“เฮ้ย มึงเป็นไรวะ ดื่มเยอะเดี๋ยวก็เมาหรอก” เอเดนสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่ดื่ม ตั้งแต่มาเขาได้แต่เงียบเหมือนมีเรื่องบางอย่างในใจ แต่ก็ไม่ยอมพูดหรือระบายออกมา
“เออ ตั้งแต่มามึงไม่พูดไรสักคำ เครียดไรมาวะ” คลาสเสริมทัพอีกแรง
“ลูกสาวสุดที่รักพ่อกูมาอยู่บ้านแล้ววะ” พายุกัดฟันกรอด เขาแค้นใจนักเมื่อนึกถึงใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยว แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าเธอร้ายขนาดไหน
“น้องสาวมึงอะน่ะ” เอเดนถาม
“ไม่ใช่น้องกู!!” พายุตะคอกเสียงดัง
“เออ ๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่” เอเดนรีบเปลี่ยนคำพูดก่อนที่เพื่อนรักจะโมโหไปมากกว่านี้
“น้องเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เด็กแล้วนี่ ทำไมจู่ ๆ ถึงมาอยู่อีกล่ะ” พิมพ์มาดาถามขึ้นบ้าง
“คงจะมายึดสมบัติพ่อมั่ง ดูท่าน่าจะหลอกง่ายอยู่ด้วย” ยิ่งพ่อเขาตามใจสองแม่ลูกนั่นเท่าไรยิ่งแสดงให้เห็นว่าพ่อเขาพร้อมที่จะทำตามสองแม่ลูกนั่นทุกอย่าง
“บ้า! คิดมาก” พิมพ์มาดาพูดออกมา
“ใช่ บางทีน้องอาจจะไม่คิดอะไรก็ได้ แค่มาอยู่เฉย ๆ” คลาสเห็นด้วยกับเพื่อนสาวคนเดียวของกลุ่ม
“โอ้ นาน ๆ ทีมึงจะพูดมีสาระวะ” เอเดนทักเพื่อนซี้ทันที
“กูมีสาระนานล่ะเว้ย มึงแค่มองไม่เห็นเอง”
“แล้วไอ้เธอร์ไม่มาเหรอ” พายุถาม
“ตั้งแต่เจอตัวเมีย แม่งไม่แวะมาดื่มเลยวะ”
“ไม่คิดเลยว่าเสืออย่างไอ้เธอร์จะหยุดได้” คลาสเอ่ยขึ้น
“ใครจะเหมือนมึง กินไม่เลือก”
“เหมือนมึงไง”
“เฮ้ย ๆ จะไปไหนวะ” คลาสกับเอเดนเถียงกันจนพายุลุกขึ้นเดินออกไป
“กลับบ้าน” พายุเหลียวหน้ากลับมาตอบ
“เดี๋ยว! มึงไม่เคยกลับบ้านติด ๆ กันแบบนี้ คิดจะทำอะไร” เอเดนถามด้วยสงสัยและไม่อยากให้เป็นไปตามที่คิดไว้
“...” พายุได้แต่เงียบ
“พายุ พิมพ์ว่าไปนอนคอนโดก่อนเถอะช่วงนี้ น้องเขาคงไม่ได้คิดแบบที่ยุคิดหรอก” หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มเสนออย่างเป็นห่วง
“อืม กูว่าไปนอนกับณิชาเด็กมึงก็ได้ ดีกว่ากลับไปเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น” คลาสพูดต่อ เห็นด้วยกับเพื่อน ๆ
“กูยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย แค่อยากกลับไปหาป้าละอองเฉย ๆ” เขาตอบกลับไปทั้งที่ในใจไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยสักนิด ทำให้เพื่อน ๆ พยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้
ระหว่างที่เขาขับรถกลับบ้านอยู่นั่น สมองก็มีแต่เรื่องอดีตแว็บเข้ามาในหัวตลอดเวลา ภาพทุกอย่างมันชัดมาก มากเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้น... เด็กหนุ่มเดินเข้าห้องนอนแม่ตัวเองเพราะยิ่งดึกเขาก็ยิ่งคิดถึงอ้อมกอดของปิ่นมุก ตั้งแต่แม่จากไปมีเพียงเตียงของแม่เท่านั้นที่คลายความเหงาได้บ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องล้วนเป็นความทรงจำดี ๆ สำหรับเด็กหนุ่ม
พายุหยิบไดอารี่เล่มโปรดของแม่ขึ้นมา เขาไม่เคยคิดจะเปิดอ่านเลยสักครั้งเพราะรู้ดีว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแม่ แต่ขอแค่ได้หยิบจับสิ่งที่แม่ชอบเปิดมาอ่านด้านในเขาก็รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว
“รูปอะไรกัน”
พายุก้มมองพื้นที่มีรูปถ่ายใครบางคนหล่นออกมา เขาเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมาก่อนจะพลิกเพื่อดูรูป...
“...” ภาพที่เห็นคือปิ่นมุกกับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ย่างกรายเข้ามาแทนที่แม่ของเขา
“เป็นเพื่อนกันเหรอ” นอกจากรูปที่เขาเห็นยังมีข้อความอีกมากมายที่บ่งบอกว่าสองคนนั้นเป็นเพื่อนรักกัน!!
ในเมื่อแม่ของเธอเป็นคนเริ่มและแย่งชิงทุกอย่างที่ควรเป็นของแม่เขา เขาจะทำทุกอย่างให้สาสมกับสิ่งที่เขาและแม่ได้รับ ทุกคนต้องได้รับความเจ็บปวดเหมือนอย่างแม่ สิ้นความคิดพายุเร่งเครื่องมุ่งตรงไปคฤหาสน์ทันที
@คฤหาสน์เจริญกุล
“เป็นไงบ้าง ฝึกงานวันแรกสนุกไหม” ภาคภูมิเอ่ยถามน้ำขิงระหว่างร่วมโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำ
“สนุกดีค่ะ พี่ ๆ ใจดีกันทั้งนั้นเลย” น้ำขิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส
“ดีแล้ว แม่ก็ภาวนาให้ลูกเจอเพื่อนทำงานที่เข้ากับลูกแม่ได้” น้ำตาลเอื้อมมือลูบแขนลูกสาวด้วยความรักใคร่
“...” น้ำขิงยิ้มแฉ่งให้น้ำตาลแม่ของเธอ
“แต่ลุงก็อยากให้หนูมาฝึกที่บริษัทลุงมากกว่าอยู่ดี ลืมแล้วรึไงว่าลุงก็มีบริษัทอสังหา...”
“...ถ้าบอกลุงก่อน ไม่มีทางที่จะยอมให้ไปฝึกบริษัทคู่แข่งเด็ดขาด” และยิ่งเป็นบริษัทคู่แข่งที่ไม่ได้แข่งแค่เรื่องธุรกิจยิ่งทำให้ภาคภูมิรู้สึกลำบากใจขึ้นมา
“โธ่คุณ ก็ลูกไม่รู้นี่คะ” น้ำตาลหันไปบอกสามี
“ใช่ไง ถ้ารู้แล้วยังไปอีก ลุงน้อยใจจริง ๆ ด้วย”
“ฝึกแค่สี่เดือนเองค่ะ”
“เรียนจบมาทำงานที่บริษัทสิ อยากทำตำแหน่งอะไรเลือกได้เลย”
“ขิงแค่อยากมาเรียนรู้งานแล้วกลับไปหางานแถวภูเก็ตมากกว่าอะค่ะ ไม่อยากให้ยายอยู่คนเดียว” ใช่ น้ำขิงไม่ได้ต้องการมาอยู่ที่นี่ถาวรเธอแค่ต้องการฝึกงานเท่านั้น และเธอไม่ได้ต้องการอยู่บ้านหลังนี้ด้วยหลังจากจัดการเรื่องหอพักจบก็จะย้ายออกทันที
“พายายมาอยู่ด้วยกัน คนเยอะจะได้ไม่เหงา” ภาคภูมิจึงเสนอต่อ
“อย่าเลยค่ะคุณ ตาลไม่อยากมีปัญหากับคุณพายุ” น้ำตาลรีบแย่งพูดขึ้นมาเพราะกลัวลูกสาวจะเห็นด้วย
“จะไปสนใจมันทำไม อย่าพูดถึงเลยเสียบรรยากาศหมด”
เมื่อภาคภูมิพูดจบทุกคนได้แต่เงียบไม่มีใครกล้าเอ่ยต่อซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าทุกบทสนทนามีใครบางคนแอบฟังอยู่…
