chapter 4 หนีหัวใจตัวเอง...
คอนโดฯ ริมน้ำชื่อดัง เอลี่ เปิดประตูให้เพื่อนสาวสองคนเข้ามา หญิงสาวเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างหมดแรง
“โอ๊ย น่ากลัวเป็นบ้าเลย พี่สรน่ากลัวมากแก นี่ฉันจะหลอกเขาได้อีกนานไหม เขาจ้องฉันตลอดเวลาที่เรากินข้าวเลยแก”
“บอกแกแล้วไงว่าพี่สรไม่ได้โง่ แล้วเขารู้จักแกดียิ่งกว่าแกรู้จักตัวเองอีก” กอหญ้าตบที่ไหล่เพื่อนสาว ที่ตอนนี้แม้ศัลยกรรมจะช่วยให้เพื่อนสาวเปลี่ยนไปราวกับคนละคน แต่คนที่ใกล้ชิดกันมากๆ ก็ต้องสังเกตเห็นว่าสองคนนี้มีอะไรที่เหมือนกัน
“ตายแน่ เอลี่ นี่แกต้องทำงานนี้กับพี่สรกี่เดือนกัน แผนการแก้แค้นของแก สงสัยจะโดนตลบหลังแน่ๆ” พัชราพูดจบก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน เมื่อมองใบหน้าที่เครียดของเพื่อนสาวคนสนิท
“สามเดือน คงเป็นสามเดือนที่แสนอึดอัด”
เสียงโทรศัพท์มือถือกอหญ้าดังขึ้น หญิงสาวถอนหายใจก่อนเดินหลบไปอีกมุมหนึ่ง ในขณะที่พัชราหลุดหัวเราะ
“สงสัยคุณกริชโทรตามล่ะ อันนี้ก็เหมือนกันห่างกันหน่อยไม่ได้ นี่ครั้งที่สี่แล้วนะแก ฉันว่าฉันเอาญ่าไปส่งก่อนนะ ไม่อยากมีปัญหากับพี่เขย..” เสียงพัชราหัวเราะเมื่อเห็นกอหญ้ากำลังเฟสไทม์กับสามี
“นี่คอนโดฯแกยังดีนะที่มีสัญญาณ wifi ตอนที่อยู่ที่ห้างแล้วญ่าหาสัญญาณไม่ได้นะแก เห็นญ่าเล่าว่ามีงอน เฮ้อ น่ารักเป็นบ้าเลย”
“เอลี่ ญ่ากลับก่อนนะ สามีกับลูกคิดถึงแล้ว โทรมาตามหลายครั้งแล้ว อย่าคิดมากล่ะ ไม่มีทางที่พี่สรจะจำแกได้ ขนาดคุณกริชยังจำแกไม่ได้เลย”
“รู้ได้ไง”
“เคยเอารูปให้ดู ไม่เห็นเฮียแกว่าไงเลย” กอหญ้าพูดถึงสามีในเชิงล้อเลียน ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าถือแล้วส่งสายตาให้พัชรา ว่าต้องกลับบ้านแล้ว
เพื่อนสาวทั้งสองกลับบ้านไปนานแล้ว เอลี่เดินมายืนมองพระจันทร์ ที่ระเบียง มือกอดอกร่างของหญิงสาวพิงที่เสา ในใจว้าวุ่นก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาช้าๆ
“พี่สรขา ลี่กลับมาแล้วนะ ลี่คิดถึงพี่สรมากก” เอลี่มองที่รูปอดีตแฟนที่ตนเองแอบเก็บไว้ในมือถือมือของหญิงสาวเอลี่ลูบไล้ที่ใบหน้าเคร่งขรึม ในรูปก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีสายเรียกเข้า เอลี่ขมวดคิ้วเมื่อเป็นเบอร์ไม่คุ้นเคย
“เอมิกา พูดค่ะ”
“นี่เบอร์ผมนะ เซฟเก็บไว้ด้วยช่วงนี้เราอาจต้องคุยกันบ่อย” อดิสรลอบยิ้มเมื่ออีกฝ่ายเงียบไปทันทีที่ได้ยินเสียงของตนเอง
“คุณเอาเบอร์ฉันมาจากไหน”
“ฉันถามว่าคุณได้เบอร์นี้จากใครมา” น้ำเสียงเอลี่หรือเอมิกาขุ่นมัว
อดิสรอมยิ้มเมื่อพยายามนึกจินตนาการภาพของหญิงสาวได้ดี น่าแปลกปกติตนเองไม่เคยชอบคุยกับผู้หญิงนานๆ แต่ทำไมหญิงสาวคนนี้ มีแรงดึงดูดแปลกๆ ทำให้อยากคุย อยากยั่ว นานๆ และมีแรงดึงดูดแปลกๆ ที่ทำให้อยากใกล้ชิด อดิสรไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน
“ผมได้ว่าจากใครไม่สำคัญ อย่าลืมเมมเบอร์ผมไว้ด้วย ผมไม่ได้สนใจอะไรคุณมากหรอกนะ เรื่องงานล้วนๆ” อดิสรพูดน้ำเสียงเรียบ
“อ้อ พรุ่งนี้เรามีนัดกันเก้าโมงเช้า อย่าลืมด้วยนะ” อดิสรพูดจบก็วางหูทันที
“เดี๋ยวสิคะ คุณอดิสร เดี๋ยวสิ” เอลี่ร้องเรียกแต่อีกฝ่ายก็วางหูไปแล้ว
“เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน บ้าอำนาจ เผด็จการ เอาแต่ใจตัวเอง นี่เอลี่ต้องทำงานกับพี่สรอีกสามเดือน มีหวังเอลี่อึดอัดตายแน่ๆ” ถึงแม้ปากสาวประเภทสองจะบอกว่าอึดอัด ภายในใจลึกๆ ก็อดดีใจไม่ได้ที่จะได้ใกล้ชิดอดีตคนรักอีกครั้ง
บริษัทวิภาคกรณ์ ในวันรุ่งขึ้น
เอมิกา หรือเอลี่ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแลคเข้ารูป สีดำ ทำให้เอมิกาดูเป็นสาวที่คล่องแคล่วมั่นใจ หญิงสาวก้มมองนาฬิกา แล้วถอนหายใจ นี่เลยเวลานัดมาเกือบครึ่งชั่วโมง แล้ว นึกแปลกใจปกติอดิสรเป็นคนที่ตรงเวลามาก เอลี่ก้มมองนิตยสารแล้วพลิกอ่านไปเรื่อยๆ ก่อนจะหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
“ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ พอดีผมติดประชุมเร่งด่วน แต่ไม่อยากเลื่อนนัดคุณ” อดิสรโยนแฟ้มบนโต๊ะก่อนจะเดินตรงมาที่หญิงสาว ที่วันนี้รวบผมตึง ใบหน้าแต่งมาเพียงเล็กน้อย ทำให้เห็นเครื่องหน้าเนียนขาวริมฝีปากสีชมพู ฟันขาวใส รวมไปถึงชุดทำงานที่ดูเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสแลคเข้ารูป เข็มขัดสีดำอันโต ทำให้เห็นเอวของหญิงสาวที่เล็กคอดเข้ารูปมาก อดิสรนึกแปลกใจตนเอง ว่าทำไมถึงมีกระแสหรือแรงแปลกๆ ทำให้ตนเอง อยากใกล้ชิดหญิงสาวตรงหน้า ทั้งๆ ที่ปกติ ไม่เคยคุยกับผู้หญิงได้นานเกินสิบนาทีเพียงเพราะรู้สึกว่าผู้หญิงจะพูดมากน่ารำคาญ ส่วนใหญ่หัวข้อที่คุยก็ไม่พ้นเรื่องกระเป๋า เสื้อผ้า ช้อปปิ้ง ทำให้การพูดคุยกับบรรดา สาวๆ ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ น่าแปลกว่าหญิงสาวตรงหน้ากลับทำให้ตนเองอยากค้นคว้าจนต้องทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อนในชั่วโมงที่ผ่านมา อดิสรอมยิ้มก่อนจะลงไปนั่งที่โซฟา ทำท่าแสนสบาย ซึ่งเอลี่ที่มองดูอยู่รู้สึกถึงกระแสแปลกๆ ที่ตนไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“คุณอดิสรนัดดิฉันมาอีกวันนี้ มีอะไรเพิ่มเติมกว่าเมื่อวานหรือเปล่าคะ” เอลี่พยายามดัดคำพูดให้เคร่งขรึมเป็นงานเป็นการ
“เดี๋ยวสักพัก ผมจะพาคุณไปดูโครงการที่วัชรพล แล้วก็สุขุมวิท อยากให้เห็นแนวทางคร่าวๆ ของเรา ผมอยากให้โครงการทุกโครงการมีจุดเด่นของตัวเอง ไม่เหมือนกัน แต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง” อดิสรอธิบาย ในขณะที่เห็นหญิงสาวจดโน๊ตสั้นๆ ผมที่รวบตึง ทำให้เห็นเครื่องหน้าที่ดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก จนทำให้อดิสรแทบไม่อยากละสายตา จากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า กลิ่นกายที่คุ้นเคยจนรู้สึกเสียววาบกับความรู้สึกตัวเอง แววตาของหญิงสาวทำให้นึกถึงอดีตคนรักอย่างจับใจ รวมไปถึงกริยาบางอย่างที่คุ้นเคย อารมณ์โกรธหรืองอนของหญิงสาวตรงหน้าช่างเหมือนอดีตคนรักอย่างแปลกเพียงแต่รูปร่างภายนอกเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน อดิสรมองไปที่ข้อมือ แล้วขมวดคิ้ว
“วันนี้คุณไม่สวมสร้อยอันนั้นมาเหรอ”
เอลี่ปากกาหล่นจากมือ จนต้องก้มเก็บ ในขณะที่อดิสรก็ช่วยเก็บด้วยเช่นกัน ศีรษะโขกกันเล็กน้อย เอลี่ร้องโอ๊ย ก่อนจะกุมหน้าผาก ในขณะที่อดิสรตกใจ จนรีบเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ๆ เอลี่ตกใจ รีบถอยหนี
“ให้ผมดูหน่อยเจ็บตรงไหน ผมขอโทษจะช่วยคุณเก็บปากกา” อดิสรพูดรัวเร็ว
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง” เอลี่ หรือเอมิกา ถอยจนเก็บตกโซฟา
“เอ คุณนี่กลัวอะไรผมหรือเปล่า ผมบอกให้ผมดูหน่อย” อดิสรเขยิบมาจนใกล้ เห็นหน้าผากขาวที่ผัดแป้งนวล เป็นรอยแดงขึ้นมา อดิสรทำเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลุกเดินตรงไปห้องน้ำ ในขณะที่เอลี่เป่าปากอย่างโล่งอก
อดิสรกลับเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูสีขาว ผืนเล็ก “เอานี่ประคบไว้ จะได้หายเจ็บ” อดิสรพูดน้ำเสียงขรึม
แววตาตื่นตระหนก ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ กับปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้า แอบขัดใจทำไมต้องทำท่ารังเกียจขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตนเองค่อนข้างมั่นใจว่าตนเอง มีหน้าตาและบุคลิกที่ดี ที่มีแต่สาวๆ มากรี๊ด แต่ทำไม หญิงสาวคนนี้ทำท่าเหมือนตัวเองเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง ให้นึกทำให้อดิสรรู้สึกหงุดหงิดแล้วอยากเอาชนะอะไรบางอย่างที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าอะไร
“ไป ผมจะพาไปดูห้องทำงานของคุณ” อดิสรเอื้อมมือไปคว้ามือของหญิงสาว แล้วก็รู้สึกเหมือนประกายร้อนบางอย่าง แล่นไปทั่วร่างกาย ทำให้รู้สึกร้อนแบบประหลาด จนทำให้จ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง เอมิกาหรือเอลี่ พยายามบิดข้อมือออก แต่เหมือนว่าชายหนุ่มจับแน่น
“ห้องทำงานฉัน ห้องทำงานฉันเหรอค่ะ ทำไมห้องทำงานฉันมาอยู่ในบริษัทคุณล่ะ ฉันแค่มารับงานแค่นั้น”
“อ้าว เจ้านายคุณยังไม่บอกเหรอ ว่าผมขอให้คุณมาทำงานที่นี่ เพราะตอนนี้คุณรับงานนี้งานเดียว ตารางคุณก็แน่นแล้ว งานนี้โปรเจคใหญ่มากนะคุณ ผมไม่ชอบให้คุณรับงานซ้ำซ้อน ดังนั้น ช่วงระยะเวลาที่คุณทำงานให้ผม ต้องมาทำที่นี่ เพราะโปรเจคนี้เป็นความลับ ผมไม่อยากให้ข้อมูลรั่วออกไป ...ไม่ๆๆ อย่าเข้าใจผิดนะคุณ ว่าผมจะใส่ร้ายคุณว่าคุณเอางานผมไปขาย รอบคอบไว้ก็น่าจะดีกว่า” อดิสรร่ายยาว ในขณะที่เอลี่ อ้าปากค้าง
“ไม่ได้หรอก ฉันจะมาทำงานที่นี่ได้ไง อุปกรณ์ฉันอยู่ที่บริษัท ..ฉันต้องใช้โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานตกแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งแพงมากกก”
“ผมรู้แล้ว ผมให้คนจัดให้คุณ เหมือนกัน สเป็คเดียวกันกับที่คุณใช้ที่บริษัท แพงกว่า ใหม่กว่า ทุกอย่าง” อดิสรกอดอก แล้วมองใบหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนยาขม
“คุณมีอะไรกับผมแน่ๆ คุณเอมิกา” อดิสรหรี่ตามองหญิงสาวอย่างสงสัย เมื่อมองเห็นปฏิกิริยาต่อต้านของหญิงสาวที่ไม่อยากทำงานใกล้ชิดกับตนเอง
เอลี่ตกใจ รีบปฏิเสธเสียงหลง “ไม่มีค่ะ ไม่มี”
“งั้นก็ทำงานที่นี่ ในห้องนี้” อดิสรผลักห้องที่อยู่ถัดจากห้องของตนเข้าไปในขณะที่เอลี่ตื่นตา เมื่อมองเห็นโต๊ะเขียนแบบสุดสวย คอมพิวเตอร์แบรนด์ดังจอใหญ่กว่าของเธอที่อ๊อฟฟิศ พร้อมกระดาษเครื่องเขียนพร้อม ด้วยสายตาสดใส ตื่นตาตื่นใจพร้อมวิวด้านหลัง เป็นกระจกใส มองเห็นวิวทิวทัศน์กรุงเทพฯ สุดตา
“สวยจังค่ะ ขอบคุณนะคะ จริงๆ ไม่เห็นต้องลำบากขนาดนี้”
“เชิญคุณทำงานเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา เรามีเวลาน้อย เดี๋ยวบ่ายๆ จะพาไปดูไซด์งาน” อดิสรพูดจบแล้วเดินจากไป
สาวประเภทสองในร่างสาวสวย ล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ “โอ๊ย ทำงานร่วมกันก็แย่แล้ว นี่ต้องมาอยู่ใกล้กันแค่นี้อีก แล้วเอลี่จะทำยังไง ตายแน่ตายคราวนี้แน่ๆ อย่านะอย่าไปหลงเสน่ห์เขาอีก เขาจะทำให้เรารักและถีบหัวเราส่งเหมือนคราวก่อน เจ็บแล้วต้องจำสิเอลี่” สาวประเภทสองบีบที่แขนตัวเองแน่นๆ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธตัวเองได้ว่าการใกล้ชิดกันมันทำให้ตนเองมีความสุขมากๆ แต่ก็พยายามหักห้ามใจตัวเอง
