เกมส์ล่า ..ท้าหัวใจรัก

161.0K · จบแล้ว
Percila
77
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สี่ปีก่อน เขาเลิกกับเธอ เพียงเพราะฐานะทางสังคม ที่ไม่เท่าเทียมกัน เพราะคุณย่าของชายหนุ่ม ต้องการมีทายาทสืบสกุล เขาจึงเลือกที่จะเฉือนหัวใจตัวเอง เพื่อขับไล่ หญิงคนรักให้ออกจากชีวิต ตลอดกาล เพื่อรักษาเกียรติยศ หน้าตาของตระกูล สี่ปีต่อมา โชคชะตา เล่นตลกให้เธอกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครัง เขาจะจำเธอได้ไหม และเธอจะแก้แค้นเขาอย่างไร ตามพิสูจน์เรื่องราวได้ในนิยายค่ะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายYaoiนิยายรักประธานดีไซเนอร์เลขาพลิกชีวิตสัญญาทางรักผู้ชายอบอุ่นนักล่า

chapter 1 กลับมายืนที่เดิม..ที่ที่คุ้นเคย

สี่ปี ผ่านไป

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

เอมิกา โทมัสหรืออดีตช่างแต่งหน้า หรือที่รู้จักในกลุ่มเพื่อนชื่อว่าเอลี่เข็นรถที่มีกระเป๋าเสื้อผ้าสองใบ

ตามองหาเพื่อนรัก ก่อนจะโบกมือเมื่อเห็นสองสาวและหนึ่งหนุ่มน้อยยืนรอใบหน้ายิ้มแย้ม

“เฮ้...เอลี่ ทางนี้” กอหญ้าตะโกนพร้อมโบกมืออย่างดีใจ พัชรารีบเอามือปิดปากเพื่อนสาว พลางตามองเด็กชายกาย พิพัฒนพงค์ บุตรชายคนโตของกอหญ้าและกริชชัย ที่ตอนนี้อายุสามขวบแล้ว

“ญ่าระวังหน่อยสิ เอลี่มันเปลี่ยนชื่อแล้วนะแก”

“โถ ตรงนี้มีใครที่ไหน” กอหญ้าแก้ตัว มือยังโบกไปมาอย่างดีใจ สี่ปีที่จากกัน มีเพียงการพูดคุยผ่านวีดีโอคอลพอรู้ว่าเพื่อน จะกลับมาเมืองไทยถาวร กอหญ้าก็ดีใจมากเป็นพิเศษ

“แต่ถ้าน้องกาย เผลอไปพูดกับใคร แผนการที่เอลี่มันจะกลับมา มันจะล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มนะแก”

“เออ นั่นสิ ขอโทษทีคิดไม่ถึง”

“กายครับ นั่นป้าเอมี่ สวัสดีป้าสิครับ” เด็กชายกายยกมือไหว้ เสร็จแล้วก็ก้มเล่นของเล่นต่อ

เอมิกาหรือเอลี่ ยิ้มก่อนใช้มือจับแก้มเด็กชายกาย ลูกชายคนโตของเพื่อนสาวคนสนิท

“ต๊าย เหมือนพ่อมากเลย หล่อเป็นบ้าเลย”

“น้อยๆ หน่อย” พัชราแซวเพื่อนสาว ก่อนที่สามสาว หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

“นี่แกไปพักที่ไหนเอลี่ เออ เอมี่” กอหญ้าถามพลางช่วยเพื่อนสาวประเภทสองเข็นรถไปที่ลานจอดรถ

“พักคอนโดฯ บอสหาไว้ให้ไง”

“ที่แกเคยเล่าให้ฟัง มิสเตอร์ฟิลิปเหรอ”

“คอนโดฯ อยู่ใกล้ที่ทำงาน แค่หนึ่งบีทีเอส แค่สองป้ายสะดวกดี”

“ทำไมแกไม่ไปพักบ้านฉันก่อน” กอหญ้าถามด้วยความสงสัย

“ฉันมารายงานตัว เย็นนี้ฉันก็กะว่าจะไปภูเก็ต ไปชาร์ตแบตก่อน ก่อนจะมาเริ่มทำงานวันจันทร์ไงแก รู้ไหม งานแรกที่ฉันต้องทำงานอะไร”

“อะไร” พัชราและกอหญ้าพูดพร้อมๆกัน

“งานของบริษัทกรณ์วิภาค”

“หา......” เพื่อนสาวทั้งสองร้องเสียงดัง

“ฉันก็ว่า ยิ่งหนีเหมือนยิ่งต้องเจอ ขอเวลาไปทำใจสักสองวัน ดีนะเนี่ยคนที่ต้องทำงานด้วย ไม่ใช่พี่สร แต่เป็นคุณศวร” เอมิกาหรือเอลี่เล่าให้เพื่อนทั้งสอง

“แต่เอลี่เปลี่ยนไปมาก นี่ถ้าเราไม่คุยกันมาแล้วเห็นพัฒนาการมาเรื่อยๆ ไม่มีวันจำได้” พัชราโอบเอวเพื่อนสาวประเภทสอง ที่ตอนนี้มองภายนอกก็ดูเหมือนผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์

“ยังไงก็คงต้องโทรไปนัดกับคุณศวรก่อนว่าวันจันทร์จะเข้าไปพบ..”

“เอลี่ไม่อยากรู้เหรอ ว่าคุณสรเป็นไงบ้าง แน่ใจเหรอว่าจะไม่รับรู้อะไรเลย” พัชราเอ๋ยถามอย่างสงสัย ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาไม่ว่ากับเธอหรือ กอหญ้าจะพยายามเล่าแต่ว่าสาวประเภทสองปิดกั้นไม่ยอมรับรู้อะไรเลย...

ภูเก็ต

เอลี่หรือชื่อใหม่ว่า เอมิกา รู้สึกแปลกใจ เมื่อเธอเช็คอินที่โรงแรมที่ครั้งหนึ่งเธอและอดีตคนรักเคยมาพักอยู่ด้วยกัน แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากห้องดังกล่าวถูกเช่าโดยลูกค้าประจำที่จะมาแทบทุกปี

“เขาเช่าไว้ตลอดปีเลยหรือค่ะ” เอมิกาสอบถามกับพนักงานต้อนรับ

“ค่ะ เจ้าของห้องจะมาปีละ สองถึงสามครั้งค่ะ แต่ห้องนั้นไม่ได้เปิดให้คนเข้าพัก เกือบสี่ปีแล้วค่ะ” พนักงานสาวตอบด้วยท่าทางสุภาพ

“คุณช่วยติดต่อเจ้าของห้องได้ไหม ขอดิฉันเข้าไปดูแค่สิบนาที คือ..คือว่าห้องนี้ มันเป็นความจำดีๆของดิฉันค่ะ ถ้ายังไงติดต่อดิฉันที่เบอร์นี้นะคะ” เอลี่ หรือเอวิกายกมือขึ้นขอร้องพนักงานต้อนรับอย่างสุภาพ

“ค่ะ ดิฉันจะลองพยายามนะคะ แล้วจะติดต่อไปค่ะ”

บ้านกรณ์วิภาค

บรรยากาศครึกครื้นเพราะวันนี้อดิศวรและยาริกาพาลูกๆ ทั้งสามมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่า แม้ว่าบ้านจะอยู่บริเวณเดียวกัน แต่นานนับวันได้ที่จะได้พบปะสังสรรค์กันครบครอบครัว อดิศวรพาลูกชายแฝดสองคนอายุสามขวบและลูกสาว น้องแพรอายุหนึ่งขวบครึ่ง และยาริกากำลังตั้งครรภ์แฝด ซึ่งตอนนี้ก็ท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว อดิศวรและยาริกามีครอบครัวที่อบอุ่น ตอนนี้คุณหญิงแพรวและท่านนายพลสวัสดิ์ มีความสุขในการเลี้ยงหลานทั้งสาม อดิสรมักจะหาเวลาแทบทุกสองอาทิตย์มาเยี่ยมหลานๆ ที่บ้านแฝดผู้น้อง

“มานี่สิ อ้นมาให้ลุงอุ้ม ไหนมาถ่ายรูปกันหน่อยสิ สามขวบนี่ยังไม่มีรูปถ่ายด้วยกันเลยนะ” อดิสรอุ้มหลานชายขึ้นมาอุ้ม พร้อมอีกมือก็อุ้มแฝดอีกคน

“ศวรถ่ายรูปให้หน่อยสิ”

เอลี่ ก้มมองรูปอินสตาร์แกรม น้ำตาไหล อดีตชายคนรักในมืออุ้มเด็กชายแฝดหน้าตาน่ารัก หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้ง นี่เธอคงบ้าที่ตามเข้าไปแอบดูเฟสบุ๊คและอินสตราแกรมอีกฝ่าย โดยผ่านบัญชีเพื่อนรักที่เป็นเพื่อนของอีกฝ่าย

“พี่สรคงมีความสุขมากกับครอบครัวของพี่ เอลี่กลับมาแล้วนะ” น้ำเสียงหญิงสาวเศร้า น้ำตาคลอเบ้า

อดิสรรับโทรศัพท์ แล้วขมวดคิ้ว “ว่าไงนะ ใครจะขอดูห้อง คุณได้ถามชื่อไว้หรือเปล่า” อดิสรเดินปลีกตัวออกจากกลุ่มครอบครัว หัวใจเต้นแรง

“ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”

“ผู้หญิงค่ะ มิสซิสโทมัสเธอยืนยันว่าเธอจะขอดูแค่สิบนาที แล้วจะไม่ทำให้ห้องเสียหายค่ะ”

“ถ้าคุณรับรอง ทางผมก็โอเคไม่มีปัญหา” อดิสรถอนหายใจอย่างรู้สึกผิดหวัง

“สร วันจันทร์นายช่วยพบกับมัณฑนากรของบริษัท immee design แทนได้ไหม แยมมีนัดตรวจหมอด่วน ช่วงนี้เห็นบ่นปวดหลัง ปวดเอว นี่ท้องนี้ดูเหมือนแยมไม่ค่อยแข็งแรงเลย คิดว่าท้องนี้ก็ว่าจะทำหมันเลยดีกว่า สงสารแยม”

“ห้าคนก็พอแล้ว เดี๋ยวนี้เห็นไหมคุณย่าไม่บ่นขอให้เรามีแฟนอีกเลย”

“ว่าไง ไปแทนเราด้วยนะ สาวคนนี้เก่งมากได้เกียรตินิยมจากยูดัง แถมได้ทำงานอยู่เมืองนอกหลายปี ประสบการณ์เพียบ สวยอีกต่างหาก”

“ไม่ต้องมาบิ้ว เราไม่ชอบผู้หญิงบอกแล้วไงว่าผู้หญิงน่าเบื่อ บอกแล้วไงไม่ชอบคนพูดมาก มีผู้หญิงที่ไหนไม่พูดมากมีไหม”

“อยากดูรูปไหม เผื่อเจอวันจันทร์จะได้ไม่อึ้งในความสวยไง”

“ไม่...ไป น้องแพรไปเล่นกับลุงดีกว่า” อดิสรอุ้มเด็กหญิงแพร ซึ่งตอนนี้กำลังหัดเดิน ไว้ในอ้อมแขนแน่น

“จริงเหรอค่ะ เจ้าของห้องให้เข้าไปดูห้องได้เหรอคะ ขอบคุณค่ะ” เอลี่ดีใจเมื่อได้ยินคำตอบจากเจ้าหน้าที่โรงแรม

เอลี่เดินเข้าไปในห้องที่ครั้งหนึ่ง เคยเป็นห้องที่เธอและอดีตคนรักใช้เป็นที่พักอยู่ระหว่างที่ชายหนุ่มทำงานที่นี่ อดีตความรัก ความสุขตัดผ่านเข้ามาในความคิด เอลี่นั่งลงที่เตียงที่เคยใช้เป็นที่นอน มือเรียวยาวลูบไล้ไปมา

เสียงโทรศัพท์ ทำให้เอลี่รีบเช็ดน้ำตา “ว่าไงคะ บอส”

“เอมี่ค่ะ รู้แล้วค่ะบอสไว้เอมี่จะโทรไปคอนเฟิร์มกับคุณศวรค่ะ ไม่น่ามีปัญหานะคะ โอเคค่ะ” เอลี่ใช้ชื่อใหม่กับที่ทำงานเพื่อปกปิดอดีตของตนเอง

บ้านกรณ์วิภาค

เสียงโทรศัพท์มือถือของอดิศวรดังติดๆกันหลายครั้ง ชายหนุ่มกำลังอุ้มลูกสาว อีกมือหนึ่งก็กุมมือภรรยาสาวที่กำลังดูละครโปรดอย่างเอาใจ ไม่น่าเชื่อว่าอดิศวรจะกลายเป็นแฟมมิลี่แมน ในขณะที่ลูกชายอีกสองคนกำลังเล่นง่วนกับพี่เลี้ยง อดิสรมองภาพความสุขของครอบครัวน้องชายอย่างนึกอิจฉา เสียงโทรศัพท์มือถือยังดังติดๆกัน

“สร รับโทรศัพท์ให้หน่อยสิ รับเรื่องไว้ด้วยนะ”

“อืม” อดิสรหยิบโทรศัพท์ของน้องชายฝาแฝด

“ฮัลโหล”

“สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรมาจาก อิมมี่ ดีไซด์อยากมาคอนเฟิร์มกับคุณอดิศวรเรื่องนัดเราวันพรุ่งนี้ ตกลงเก้าโมงเช้าโอเคหรือเปล่าคะ พอดีตอนเย็นดิฉันมีนัดลูกค้าอีกคน”

“คุณชื่ออะไร” น้ำเสียงของอดิสรเคร่งขรึม เมื่อเสียงหวานทางปลายสาย ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ยังไม่ฟังอะไรอีกฝ่ายก็ร่ายยาว

“คุณไม่ใช่คุณอดิศวรนี่ งั้นดิฉันขอโทษไว้ดิฉันค่อยโทรไปใหม่ค่ะ นี่ถ้าคุณไม่ใช่คุณอดิศวรก็ไม่ควรปล่อยให้ดิฉันพูดพล่ามออกมาตั้งเยอะแยะ” เอลี่หรือเอมี่ เดาออกทันทีว่าใครอยู่ปลายสาย หญิงสาวรีบกดวางราวกับของร้อน เสียงหัวใจเต้นแรงเมื่อรู้ว่าปลายสายคืออดีตคนรัก

“นี่คุณ...คุณ”

“อะไรวะ ไม่มีมารยาท แล้วงี้จะทำงานกันได้เหรอ ยังคุยอะไรกันไม่รู้เรื่องเลย” เสียงอดิสรโวยวายทำให้อดิศวรชะเง้อมอง

“ศวร ตกลงพรุ่งนี้เราตกลงไปทำงานแทนนายนะ แล้วงานนี้นายยกเรื่องมาให้เรา แล้วหยุดดูแลคุณแยมไปเลย ทางบริษัทเดี๋ยวเราจะจัดการให้”

“เฮ้ย เกิดไรขึ้นวะ เมื่อกี้ยังอิดออดอยู่”

“หมั่นไส้คน..กลับล่ะ ต้องรีบนอน พรุ่งนี้เผื่อจะได้ลับฝีปากกับคน ชักสนุกล่ะ ไม่รู้สึกแบบนี้มาตั้งนานละ”

บริษัท กรณ์วิภาค

สาวประเภทสองในร่างหญิงสาวสวย เซ็กซี่ ชุดรัดรูปสีดำ ทำให้หญิงสาวในร่างสาวประเภทสองดูสวยเซ็กซี่ ผมยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนๆๆ อดิสรจ้องมองร่างของหญิงสาวเพียงด้านหลัง เรียวขายาวที่สวมรองเท้าส้นสูง กระโปรงผ้ายืดสีดำ ทำให้ร่างของหญิงสาวดูสูงสง่า รูปร่างผอมราวกลับนางแบบทำให้อดิสรถึงกับทึ่ง ชายหนุ่มทำเสียงกระแอมเบาๆ ก่อนพูด

“ขอโทษครับที่ผมมาสาย คุณ...คงเป็น”

อดิสรพูดไม่จบ เอลี่หรือเอมิกาในชื่อใหม่ว่า “เอมี่” หันหน้ามาช้าๆ อดิสรเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวสวยกว่าที่ตนเองคิด ผิวขาวส่งให้ริมฝีปากบางสีชมพูดูเด่นชัด ตากลมโต

อดิสรรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดกับแววตาคู่นี้คิ้วเข้ม ทำให้ใบหน้าคมสวยยิ่งขึ้น อดิสรจ้องมอง หญิงสาวที่ได้รับการแนะนำว่าเป็นมัณฑนากร มือใหม่แต่ผลงานดีเด่น จนอดิศวรชมไม่ขาดปาก คิ้วของอดิสรขมวด เมื่อเห็นแววตาที่จ้องมองเขม็งในขณะที่เอมิกาตกใจจนปากกาหล่นกลิ้งไปหยุดใต้เท้าของชายหนุ่ม มัณฑนากรสาวทำปากจู๋ อย่างที่อดิสรเห็นว่าน่ารัก เอลี่รีบปัดความคิดทุกอย่างทิ้ง สูดลมหายใจแล้วเดินเข้าไปเก็บปากกาของตนเอง ก่อนจะถอยหลังออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้สึกร่างของเธอและเขาจะยืนอยู่ใกล้กันเกินไป อดิสรมองท่าทางของหญิงสาว ที่ดูร้อนรนด้วยความแปลกใจแต่ก็กดรอยยิ้มไว้แค่มุมปาก แววตาเป็นประกายเมื่อรู้สึกคุ้นเคยกับท่าทาง แววตา และน้ำเสียงของหญิงสาวตรงหน้าอย่างที่ประหลาดใจตนเอง

“ดิฉันมาพบคุณอดิศวรค่ะ เลขาคุณศวรไม่บอกเหรอคะ”

อดิสรจ้องมองสาวสวยเซ็กซี่ตรงหน้า ก่อนจะรู้สึกคุ้นกับน้ำเสียงแบบนี้มากๆ แต่ไม่เชื่อตัวเองว่า คนสองคนที่ต่างกันมากมาย จะมีน้ำเสียงเหมือนกันได้

“ใครบอกคุณล่ะว่าผมไม่ใช่อดิศวร คุณคิดว่าผมเป็นใครล่ะคุณ อะไรนะ เอมิกา โทมัส” อดิสรก้มมอง ชื่อที่ถูกส่งมาจากเลขาส่วนตัว ก่อนจะนึกแปลกใจตัวเองอีกครั้งทำไมคุ้นกับรอยยิ้มและแววตาแบบนี้ จนน่าขนลุก

“เป็นไปไม่ได้” ชายหนุ่มพึมพำออกมา พร้อมมองที่มือของสาวสวยตรงหน้าอย่างสงสัย

“โอเค ถ้าคุณจะให้ฉันเชื่อว่าเป็นคุณ ศวร ก็ได้”

“เดี๋ยวก่อนคุณเอมิกาตกลงเราเคยเจอกันไหมผมว่าผมคุ้นกับน้ำเสียงและท่าทางคุณอย่างบอกไม่ถูก” อดิสรรู้สึกมึนเมื่อภาพในอดีตตัดย้อนเข้ามาในความคิด

เอลี่ใจหายวาบ แต่พยายามนิ่ง พร้อมปวดแปลบที่ใจ ทำไมจะจำผู้ชายที่เธอรักเพียงคนเดียวในชีวิต ผู้ชายที่ทำให้เธอผิดหวังจนต้องหนีไปต่างประเทศมาสามปี ผู้ชายที่แม้จะทำยังไงตนเองก็ไม่เคยลืม แม้ยามหลับยามตื่น

“ฉันจะรู้จักคุณได้ไง ในเมื่อฉันพึ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่ถึงเดือน” เอลี่ ในชื่อใหม่ว่าเอมิกา พูดน้ำเสียงแข็งกระด้าง

อดิสร เดินเข้ามาใกล้ เอมิกาหรือ เอลี่ ถอยห่างเล็กน้อย คิ้วของอดิสรขมวด ก่อนจะมองสาวสวยตรงหน้าอย่างแปลกใจ

“ผมรู้สึกคุ้นกับคุณอย่างประหลาดจริงๆนะ คุณแน่ใจว่าเราไม่เคยรู้จักกัน”

“พูดเรื่องงานดีกว่านะคะ ดิฉันไม่มีเวลามานั่งฟังเรื่องไร้สาระ” เอลี่พูดน้ำเสียงสะบัด

“ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย เอ..ผมชักสงสัยแล้วสิ คุณพูดแบบนี้กับลูกค้าทุกคนหรือเปล่าหรือเป็นแค่ผมคนเดียว ผมว่าคุณไม่ชอบผมนะเนี่ย” อดิสรรู้สึกแปลกใจที่ตนเองเซ้าซี้สาวสวยตรงหน้า ทั้งๆที่ปกติไม่ชอบทำงานกับผู้หญิงเพราะรู้สึกว่าเรื่องมาก แต่ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจทำไมชอบมองหน้างอๆ แววตาดุดันของสาวสวยตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งน้ำเสียงของเธอดันไปคล้ายกับ สาวประเภทสองที่เป็นคนรักเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในใจของชายหนุ่ม แม้ว่าจะผ่านมาหลายปี แต่แผลในหัวใจก็ยังไม่จางหาย อดิสรเฝ้าโทษตัวเอง เฝ้าทำร้ายตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา ว่าปล่อยให้รักแท้ให้หลุดลอยไป เพียงเพราะสนใจในสิ่งที่ไม่มีตัวตน และสัมผัสไม่ได้ ชายหนุ่มยังจำหน้าของอดีตคนรักในวันที่ตนเองขอบอกเลิกได้ดี ว่าทั้งน้ำตาทั้งแววตาที่ปวดร้าว เสียงร้องไห้เจียนจะขาดใจมันทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดเจียนตาย แต่ต้องตัดใจเดินหันหลัง พร้อมสลัดทุกอย่างเพียงแค่สนใจเปลือกนอก อดิสรคิดเพลินหัวใจปวดแปลบเมื่อคิดถึงอดีตคนรัก

“เราไม่เคยเจอกัน ไม่รู้จัก แล้วก็ไม่อยากจะรู้จักค่ะ ..ถ้าเป็นไปได้ดิฉันอยากคุยงานโดยตรงกับคุณอดิศวรตามที่ได้รับสั่งจากบอสมา จะดีกว่านะคะ” เอมิกาหรือชื่อเดิมเอลี่พูดน้ำเสียงหนักแน่น

“ตกลงไม่เชื่อจริงๆ ว่าผมคืออดิศวร”

“ก็คุณไม่ใช่จริงๆ”

“อะไรทำให้คุณคิดว่าผมไม่ใช่”

“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคุณ บอกมาดีกว่าว่าจะให้ฉันพบคุณศวรได้เมื่อไหร่”

“โอเค บอกก็ได้ นี่มีไม่กี่คนที่ผมสองคนพี่น้อง หลอกไม่ได้ ผมชักสงสัยแล้วสิว่าคุณเป็นใครกันแน่ แม้แต่พนักงานบางคน ยังจำเราไม่ได้ ” อดิสรมองแล้วหรี่ตาเล็กน้อย

“ถ้าคุณไม่คุยเรื่องงาน ฉันขอตัวกลับ เวลาของฉันสำคัญมากกว่าจะมาต่อปากต่อคำ กับคุณอดิสร กรณ์วิภาค” เอมิกาหรือเอลี่เอี้ยวตัวจะเดินกลับ

“เดี๋ยวสิ ก่อนจะทำงานด้วยกันก็ต้องทำความรู้จักกันบ้างสิ ...จริงไหม”

“ฉันไม่ต้องการรู้จักคุณ” เอมิกาหรือเอลี่เน้นคำพูด พร้อมเชิดหน้าริมฝีปากเม้มแน่น แววตาฉายแววแข็งกระด้าง

“แต่บังเอิญโปรเจคใหญ่เนี่ยเราต้องทำด้วยกันเสียด้วยสิครับ ฟิลิปไม่ได้บอกคุณงั้นเหรอ” อดิสรทำท่าทางยียวน แถมก้าวเข้ามาใกล้

เอลี่หรือเอมิกาถอยหลัง ริมฝีปากเม้มแน่น เมื่ออดิสรเดินผ่านตัวเองไปนั่งเก้าอี้ท่าทางยียวนกวนประสาทในความคิดของหญิงสาว

“นั่งก่อนสิครับคุณเอมิกา ผมว่าคุณคงจะเมื่อยถ้าจะต้องยืนบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วครึ่งตลอดเวลาที่เราคุยกัน”

“ถ้าวันนี้คุณอดิศวรไม่สะดวกจะคุยงานกับดิฉัน..ดิฉันจะมาอีกทีวันหลังค่ะ”

“ศวรลาพักร้อนสามเดือน ภรรยาเขากำลังจะคลอดใบลาพึ่งเซ็นอนุมัติเมื่อเช้านี้ โปรเจคนี้ถูกส่งต่อมาที่ผม บอสคุณไม่บอกหรือไง”

เอลี่มองอดีตคนรักตะลึง นี่ฉันต้องทำงานกับคุณงั้นเหรอ อีเอลี่จะบ้าตาย สามเดือนต้องทำงานกับเขาสามเดือนงั้นเหรอ ตายแน่ๆ

“ว่าไงคุณเอมิกา ตกลงเราจะคุยงานกันได้หรือยัง”

“จริงๆ ถ้าคุณไม่รีบ ดิฉันทำงานอื่นรอคุณศวรได้นะคะ”

“บังเอิญผมรีบด้วยสิ เอ ผมชักสงสัยแล้วสิ คุณมีอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย ผมว่าคุณแปลกๆนะ”

เอลี่หรือเอมิกาใจหายวาบ ริมฝีปากเม้มเล็กน้อย ก่อนตอบ “ไม่มีค่ะ ตกลงคุณจะให้ดิฉันเริ่มงานเมื่อไหร่คะ”

“ตอนนี้เลย เดี๋ยวนี้ด้วย” อดิสร ยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง ด้วยท่าทางสบาย ในขณะที่เอลี่ใจเต้นรัว กับแววตาที่มองมาอย่างแปลกๆ

เอลี่หลับตา แล้วหยิบเครื่องอัดเสียง เป็นแบบรุ่นใหม่ สีม่วงอ่อน สมุดจดงานเล่มเล็ก