บทที่ 3. ยิ่งใกล้กัน ..ยิ่งหวั่นไหว
“ใคร มันเป็นใคร” อนวินท์กระชากแขนทำเสียงข่มขู่ ในใจปวดแสบราวกับถูกทิงเจอร์ราดแผล
“พูดไป คุณก็ไม่รู้จัก หมดเวลาของคุณแล้วฉันต้องรีบไปทำงาน” ต้นน้ำรีบเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็วมือของหญิงสาวหยิบมือถือมือสั่น อนวินท์มองตามอย่างงุนงงปฏิกิริยาของหญิงสาว
เมื่อแยกตัวจากอนวินท์มาได้ ต้นน้ำรีบคิดวางแผนในอนาคตแล้วเดินมุ่งหน้าไปที่รถพร้อมกดโทรศัพท์
“เชอรี่เหรอ พี่จะมาช้าหน่อยช่วยบอกชบามาแทนพี่ก่อนสักชั่วโมงนะ มีธุระด่วนมากจ๊ะ” ต้นน้ำพูดขณะขับรถมุ่งตรงไปคอนโดเพื่อนรักมือสั่น
คอนโดมีเนียม ถนนนิมมานเหมินท์
เสียงกดกริ่งหน้าห้อง ทำให้ เรย์ รัตนชาติ บ่นหงุบหงิบกับเสียงกริ่งที่ดังสนั่นลั่นห้อง
“โอ๊ย มาแล้ว ทำไมกดซะดังลั่น” เรย์ เปิดประตูก็ต้องตกใจ ที่เพื่อนรักในชุดฟอร์มพยาบาล ยืนใบหน้าเคร่งขรึม
“อะไรน้ำ แกจะรีบไปที่ไหน กดกริ่งทำให้รูขุมขนฉันเต้นไปหมด”
“ก็มีธุระด่วนนะสิ”
“น้องนนท์ เป็นอะไรมากงั้นเหรอ” เพื่อนสาวประเภทสองหันมามองตาโต
“เปล่า ดีขึ้นแล้ว แต่มีเรื่องใหญ่กว่านั้นอีก”
“อะไรของแก อ้าวนั่งก่อนฉันกำลังหิวข้าว พูดไปกินไปได้ไหมเมื่อวานก็ไม่ได้ทานอะไร แล้วเมื่อคืนก็เฝ้าลูกแกทั้งคืน ฉันหิวมากกกก” เรย์ลากเสียงยาว
ต้นน้ำพยักหน้า พร้อมกับวางกระเป๋าข้างตัว “ฉันมีเรื่องให้แกช่วย ด่วนที่สุด”
“โอเค” เรย์คีบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าปาก พร้อมกับทำเสียงงึมงำ “ช่วยอะไร”
“แต่งงานกับฉัน” ต้นน้ำพูดน้ำเสียงจริงจัง
เรย์สำลักเส้นบะหมี่จนหน้าแดง จนต้องรีบเคี้ยว แล้วดื่มน้ำเข้าไป
“ไอ้น้ำ บ้าเหรอแก”
“ไม่บ้า แกฟังนะตอนนี้มันมีเรื่องแบบนี้..”ต้นน้ำเล่าให้เพื่อนฟังอย่างละเอียด
“แกบอกฉันว่าอยากได้เงินแสนไม่ใช่เหรอ ฉันจะให้ค่าจ้างแก สามแสนช่วยฉันนะเรย์ เราแค่อยู่กันหลอกๆ แกต้องไปอยู่บ้านฉัน”
“เฮ้ย น้ำ อะไรกันเนี่ย” เรย์ รัตน์ชาติโวยวาย
“สามแสนเรย์ แค่สามเดือนช่วงที่พี่หมอทำงานที่นี่ แกต้องช่วยชีวิตฉัน”
“แกคิดดีแล้วเหรอ” เรย์เอ่ยถาม อย่างเครียดๆ
“คิดดีแล้ว เราไปอำเภอตอนนี้เลย” ต้นน้ำลากแขนเพื่อนสนิท
“เฮ้ย เอางั้นเลยเหรอ”
“เย็นนี้แกต้องไปนอนบ้านฉัน แล้วเลิกใส่ขนตาปลอมสักพักหนึ่ง แล้วเสื้อผ้าแก...เดี๋ยวเย็นนี้เลิกงานฉันจะมาเลือกให้”
“เอาจริงเหรอน้ำ”
“จริงสิ ไม่งั้นพี่หมอ ต้องเข้ามาจัดการชีวิตฉันแน่ๆ ฉันไม่อยากจะกลับไปใช้ชีวิตเราสามคนแบบนั้นอีก”
“ทำไมแกไม่ถามเขา เรื่อง ยัยหมอคนนั้นว่าทำไมเขาต้องไปอยู่กับยัยนั้น ค่ำๆ มืดๆ”
“ไม่ ฉันไม่ถาม ที่เห็นด้วยตาก็มากเกินไปแล้ว ฉันจะไม่ลืมสิ่งที่พวกเขาทำกับฉัน อีกอย่างตอนนี้ฉันหลุดพ้นช่วงชีวิตแบบนั้นแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะกลับไปใช้ชีวิตบ้าๆแบบนั้นอีก” แววตาต้นน้ำมุ่งมั่น
“ตามใจแก...ที่ฉันช่วยแกไม่ใช่เพราะเงินนะ” เรย์หัวเราะกลบเกลื่อน เมื่อต้นน้ำเซ็นเช็คยื่นให้ แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะให้กัน
“อย่างงี้ฉันก็มีเงิน ทำสวยล่ะสิ” เรย์พยายามทำให้เพื่อนสาวคลายเครียด เมื่อเอาเช็คไปตบเบาๆ ที่หน้าอก แล้วเรย์ก็ปลื้ม เมื่อต้นน้ำหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนสาว
“ไป เราไปอำเภอกันเถอะฉันว่า พี่หมอไม่ปล่อยฉันไว้นานๆแน่ เราจะรีบทำก่อน”
“แล้วถ้าเขายังไม่ได้เซ็นต์หย่าเหมือนที่เขาบอกกับแกล่ะ” เรย์ รัตน์ชาติ ถามขณะขับรถมุ่งหน้าไปอำเภอ
“ไม่มีทาง ผู้หญิงอย่างคุณหมอนิภาไม่มีวันยอมปล่อยให้พี่หมอทำแบบนั้นหรอก”
“แกเนี่ย ไอ้น้ำ มีความคิดแผลงมาก” เรย์ บ่นก่อนจะหันไปกอดบ่าเพื่อน เมื่อเห็นน้ำตาร่วงลงมาช้าๆไหลอาบแก้ม ต้นน้ำปล่อยให้น้ำตาร่วงก่อนจะใช้มือปาดทิ้ง แววตามุ่งมั่น
“ฉันจะไม่มีวันเสียน้องนนท์ ถ้าเขาคิดจะแย่งลูกไป เขาจะได้รู้จักฉัน เมื่อก่อนฉันอาจจะเป็นต้นน้ำที่หัวอ่อน เรียบร้อย อ่อนหวานแต่คนคนนั้นตายไปตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว เพราะฝีมือของเขา” น้ำตาที่คลอในเบ้าตาไหลอาบแก้ม แต่แววตาหญิงสาวกลับแข็งแกร่ง แววตามุ่งมั่น อย่างที่เรย์ รัตนชาติมองแล้วขนลุกแทนอดีตสามีเพื่อนรัก
โรงพยาบาลพิงค์วราคม
อนวินท์ มองหาภรรยาสาว ถามจากคนใกล้ชิดเห็นเล่าว่าหญิงสาวทำงานอยู่แผนกผู้ป่วยนอก แต่เท่าที่เห็นกับไม่มีวี่แววภรรยาสาว อนวินท์เดินเข้าไปในกลุ่มพยาบาลสาว เมื่อมองเห็นว่าคนไข้บางตามากแล้ว
“ขอโทษครับ” อนวินท์ขยับแว่นก่อนพูดน้ำเสียงนุ่มนวล
สามพยาบาลสาวหันไปมองพร้อมกับอ้าปากค้าง เมื่อนายแพทย์หนุ่มหล่อที่เป็นที่เลื่องลือมาตลอดเช้ากลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
“ผมมาหาพยาบาลต้นน้ำ เห็นพวกที่วอร์ดในบอกว่าทำงานที่ส่วนนี้นี่ครับ”
“อ๋อ พี่น้ำเหรอคะ พี่น้ำออกไปธุระด่วนค่ะ อีกชั่วโมงคงจะกลับ” เชอรี่ พยาบาลรุ่นน้องคนสนิทตอบเสียงรัวเร็ว
อนวินท์พยักหน้าพร้อมๆกับขมวดคิ้ว “ไปไหนของเขานะ”
“ถ้าเขากลับเข้ามา ช่วยบอกให้เขาไปพบผมที่ห้องทำงานผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ” สามสาวประสานเสียงกัน
อนวินท์เดินกลับด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ชายหนุ่มเดินตรงไปที่วอร์ดเด็ก แล้วปรับอารมณ์ให้สดชื่นเมื่อนึกถึงใบหน้าของเด็กน้อย ชายหนุ่มมีรอยยิ้มอ่อนโยนอารมณ์เปลี่ยนทันทีที่นึกถึงใบหน้าเด็กชายน้อยที่ใบหน้าเหมือนตนเองตอนเด็กๆ ราวกับพิมพ์เดียวกัน
หน้าที่ว่าการอำเภอ หางดง
เรย์ก้มมองกระดาษทะเบียนสมรสระหว่างตนเอง และเพื่อนรักที่คบกันมากว่าสิบปี ใบหน้าของเรย์ รัตนชาติ เหมือนอมบอระเพ็ด ในขณะที่ต้นน้ำพับทะเบียนสมรสไปตั้งแต่ที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่
“แกรู้ไหม ถ้าไม่ใช่แกฉันจะไม่ยอมทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้ที่ฉันเคยอ่านจากนิยายน้ำเน่าเล่มละสิบบาทแต่พอมาเจอกับตัวเอง ฉันขำไม่ออกจริงๆ นะยะ น้ำ”
“เออน่า สามเดือนเท่านั้นเรย์ ฉันรับรอง แกก็รู้ฉันจะไม่ทำลายความบริสุทธิ์ของแก” ต้นน้ำพูดขณะขับรถ ใบหน้าอมยิ้มเมื่อมองใบหน้างอง้ำของเพื่อนสนิท
“แล้วถ้าฉันเจอพระเอกของฉัน แล้วเกิดเป็นรักแรกพบ แล้วเกิดเขามาขอแต่งงานกับฉัน แล้วฉันก็มาติดพันธะกับแก ฉันจะทำยังไงยัยน้ำ”
“โถ เรย์ เรย์ที่รัก ช่วยน้ำหน่อยนะ แกจะได้มี นมสวยๆ ตาสองชั้น ใบหน้าเรียวยาวเทรนเกาหลีสุดๆอีกอย่างช่วยชีวิตเพื่อน ที่แกบอกว่ารักมากกกกกกกกกกไง” ต้นน้ำลากเสียงยาว แล้วเอื้อมมือมาลูบแก้มชายหนุ่มเบาๆ อย่างหยอกเย้าและออดอ้อน ต้นน้ำรู้ว่าจุดอ่อนเพื่อนชายคนสนิท
“ร้องไห้หนักมากกก เคยฝันว่าการจดทะเบียนของฉัน จะต้องเป็นทอค์ลออฟเดอะทาวน์ แต่ต้องมาจดทะเบียนกับชะนีแบบแก ฉันนะอยากร้องไห้จริงๆ แต่ว่า มันก็คงดีที่ฉันจะทำความฝันให้เป็นจริง” เรย์พูดน้ำเสียงละห้อย
“เอาน่า เรย์ที่รักแค่สามเดือนเท่านั้น พี่หมอกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ ฉันจะคืนอิสระให้แกเชื่อฉันสิ”
“ก็ได้ เพื่อช่วยแกนะ แต่คืนนี้แกต้องไปเป็นเพื่อนฉันที่คลีนิคหมอศุภชัยนะแก ฉันมีนัดเลเซอร์หน้าอ่ะ” เรย์ รัตนชาติเปลี่ยนเรื่องคุย
“ได้สิ แต่ต้องหลังน้องนนท์เข้านอนนะแก”
“ชัวร์ คลีนิคหมอศุภชัย ปิดสามทุ่มครึ่ง” น้ำเสียงเรย์ รัตน์ชาติเปลี่ยนไปทันที
โรงพยาบาลพิงค์วราคม
ต้นน้ำ เดินมาหยุดที่หน้าห้องพิเศษที่ลูกชายสุดที่รักพักรักษาตัว ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงลูกชายหัวเราะเสียงดังประสานเสียงหัวเราะกับผู้ชาย จำได้ว่าเป็นเสียงหัวเราะของอดีตสามี หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดที่ชายหนุ่มเริ่มรุกหนักเริ่มมาตีสนิทกับบุตรชายของตน
“แก พี่หมออยู่ในห้อง แก”
“แล้วไง” เรย์ รัตนชาติ เลิกคิ้วตั้งคำถาม
“เราก็ต้องเริ่มเล่นละครฉากแรกแล้วไง” ต้นน้ำคว้ามือของเพื่อนสนิท พร้อมกับเปิดห้องพักทันที เรย์ถูกกระชากให้เดินตาม
อนวินท์เงยหน้ามอง เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เมื่ออดีตภรรยาสาวเดินจูงมือชายหนุ่มหน้าตาดีท่าทางสนิทสนม ชายหนุ่มกัดฟันในใจเดือดพล่านด้วยความหึงหวง เมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของทั้งสองคน แล้วยังท่าทางของหนุ่มน้อยหน้าตาดีที่กระซิบข้างแก้ม ยิ่งตอกย้ำคำพูดของหญิงสาวที่พูดกับตนเองช่วงเช้า
“แก ....เนี่ยเหรอ พระเอกแก หล่อว่ะ เพ้ออ่ะ” เรย์กระซิบข้างๆ หูเพื่อนสาว ตาจ้องมองแพทย์หนุ่มเขม็ง แต่อนวินท์กลับจ้องมองไปทางพยาบาลสาว แววตาดุดัน
“แม่ครับ แม่ดูนี่สิครับ คุณลุงช่วยซ่อมหุ่นยนต์ของผม” น้องนนท์ โชว์หุ่นยนต์ก่อนส่งเสียงเล่า
ต้นน้ำก้มลงจูบหน้าผากลูกชายสุดที่รัก สายตาตวัดค้อนชายหนุ่ม พร้อมกระซิบถาม
“คุณหมอมาทำอะไรที่นี่คะ น้องนนท์อาการก็ดีมากแล้ว คงไม่ต้องมานั่งเฝ้านานๆ ค่ะ” ต้นน้ำกระซิบขณะที่เด็กชายตัวน้อยกำลังเพลิดเพลินกับหุ่นยนต์ ตัวโปรด
“พี่ก็มาอยู่เป็นเพื่อนลูก” อนวินท์กระซิบบอก พลางปลายตาไปมองชายหนุ่มหน้าตาดีอีกคน อย่างหมั่นไส้ เพราะแม้จะพูดกับเขาแต่มือของภรรยาสาว ยังจับที่หนุ่มหน้าตาดีแน่น อนวินท์ใจเดือดพล่าน
“จะไม่แนะนำหน่อยหรือไง ว่าเขาเป็นใคร” อนวินท์กระซิบถามเสียงเครียด
“แฟนน้ำไงคะ นี่เรย์ รัตน์ชาติ องค์สุวรรณ เรย์คะ นี่คุณหมอที่มาแทนหมอสุชาติจ๊ะ” ต้นน้ำแนะนำให้สองหนุ่มรู้จักกัน
เรย์ยื่นมือให้นายแพทย์หนุ่มอย่างดีใจที่เห็นหนุ่มหล่อราวกับพระเอกหนุ่มซีรีย์เกาหลี ในขณะที่อนวินท์ นึกหมั่นไส้ชายหนุ่มรุ่นน้องจนเผลอบีบมือชายหนุ่มแรง
“โอ๊ย...” เรย์ ร้องเสียงดัง
“ขอโทษครับ ผมคงอินไปหน่อยไม่เคยเห็นน้ำมีเพื่อนผู้ชายสักที” อนวินท์กระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน ขณะมองภรรยาสาวเข้าไปอุ้มลูกชายให้นั่งตัก
“อ๋อ เราสนิทกันตั้งแต่มหาลัยครับพี่หมอ” เรย์ เรียกอนวินท์สนิทสนม จนอนวินท์เลิกคิ้วมองแววตาที่ส่งมามีประกายวิบวับประหลาด
ต้นน้ำมองสองหนุ่มแล้วถอนหายใจเฮือก หญิงสาวไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองทำผิดหรือถูก แต่ความกลัวที่จะเสียลูกชายสุดที่รัก ทำให้กล้าและเสี่ยงจะทำการที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิต
