บท
ตั้งค่า

6 เข้าใจถึงพรวิเศษ

จูมี่เอินนั้นนอกจากจะเย็บผ้าไม่เป็นแล้วทักษะด้านอื่นในการเป็นหญิงสาวนางก็พอมีบ้าง ทำอาหารก็ใช้ได้ งานบ้านก็เรียบร้อย อารามแห่งนี้แม่จะเก่าแต่ก็ถูกนางทำความสะอาดจนไม่มีแม้แต่ฝุ่น

แต่เพราะอารามตั้งอยู่ในเขตป่าทำให้มีใบไม้มากทีเดียว สิ่งที่ทำให้นางหนักใจที่สุดก็คือใบไม้พวกนี้นี่แหละที่กินเวลางานของนางมากกว่าสิ่งอื่น

วันนี้พอทำความสะอาดเสร็จนางก็ไปยกกองหนังสือมากองหนึ่ง ปักหลักลงใต้ต้นไม้ใหญ่กลางอาราม ที่ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของจูมี่เอิน นางนั่งอยู่ตรงนั้นล้อมรอบด้วยกองหนังสือที่อยู่ข้างกาย

หนังสือพวกนี้เป็นของคุณหนูท่านหนึ่งฝากให้บ่าวรับใช้นำมาบริจาคไว้ที่อารามเผื่อมีคนมาเอาไปอ่าน ซึ่งก็มี่แค่จูมี่เอินเท่านั้นที่สนใจ

ในกองหนังสือมีเล่มหนึ่งที่จูมี่เอินสนใจเป็นพิเศษ นั้นคือเรื่องราวของคนที่มีพรสวรรค์ คล้ายกับว่าได้รับพลังมากจากเทพเซียน

บางคนฝึกยุทธมีพลังลมปราณเหนือผู้อื่น

บางคนมีความสามารถในการดูดวงดาว แม่นยำ อ่านชีวิตของผู้อื่นได้

บางคนสามารถได้ยินไกลหลายลี้

ที่จูมี่เอินชอบที่สุดคงจะเป็นเรื่องเล่าของ หัตถ์เซียน นาม กู่เฟยเซียน ยาที่ผ่านมือ 'เขา' มีฤทธิ์มากกว่ายาธรรมดาสามเท่า แผลที่เขารักษาหายเร็วกว่าคนปกติถึงสี่เท่า

นี่มัน...เกินไปหรือไม่

จูมี่เอินรีบวิ่งไปหาอาจารย์ เรียกเขาด้วยความเคยชิน ในมือถือหนังสือเล่มนั้นมาด้วย แววตาทอประกายระยิบระยับราวกับคนที่ได้เจอความหวังครั้งใหม่ในชีวิต

"อาจารย์ลู่! อาจารย์ลู่!"

คนที่นั่งสมาธิอยู่ก็สะดุ้งตกใจลืมตาขึ้นมามอง ไม่เปลี่ยนจริงๆ นางโตขึ้นมาก นิสัยเด็กๆ หายไปเยอะแล้ว แม้มีความสุขุมคล้ายนักบวช แต่เรื่องเรียกอาจารย์ทั้งวันนั้นไม่เคยลดละเลยเสียจริง

"หัตถ์เซียนมีอยู่จริงรึไม่เจ้าคะ?" นางรีบนั่งลงตรงหน้าเขา พลิกหนังสือในมือให้เขาดูแว็บหนึ่งก่อนจะหันมาคืนแล้วก้มหน้าก้มตามองเรื่องราวในหนังสือไม่วางตา

"มีจริง ข้าเคยได้ยินมาอยู่บ้าง" หลี่ลู่ซือหลับตาลงท่าทางคล้ายนั่งสมาธิแต่ปากก็ขยับเอ่ยตอบจูมี่เอินออกไป

"เช่นนั้นเรียกว่าพรวิเศษรึไม่?" จูมี่เอินเดี๋ยวเงยหน้าเดี๋ยวก้มอ่านสลับไปมาด้วยความตื่นเต้น

"สมควรต้องเรียกเช่นนั้น"

"เรื่องที่หูได้ยินไกลเล่า?" นางยังคงถามไม่หยุดอย่างอยากรู้อยากเห็น

"เรื่องนั้นอาจเป็นความบกพร่องทางร่างกาย ไม่ก็ฝึกจากการใช้ลมปราณ" ด้านอาจารย์ลู่เองก็ตอบด้วยความใจเย็น ในน้ำเสียงนั้นน่าฟัง ไม่หงุดหงิดที่มีคนมารบกวนเวลานั่งสมาธิแม้แต่น้อย

"งั้นคนที่ฝึกลมปราณจนมีพลังมากกว่าคนอื่นเล่า เรียกว่าพรวิเศษหรือไม่"

"ลมปราณมีอยู่ในทุกคน อยู่ที่ว่าใครจะสามารถนำมาใช้ได้ ขึ้นอยู่กับความฝึกฝน ความหมั่นเพียร ความพยายาม ไม่อาจเรียกว่าพรวิเศษ"

หลี่ลู่ซือรู้ว่านางต้องการรู้สิ่งใด สิ่งที่นางมีไม่ใช่ความพยายามหมั่นเพียรเหมือนการใช้ลมปราณ แต่สิ่งที่เด็กสาวคนนี้มีคือพรวิเศษ เพียงแค่เพราะไม่มีใครมี นางเลยกลายเป็นที่แปลกประหลาด ถูกต่อต้านไร้คนยอมรับ ความจริงหลี่ลู่ซือก็รู้มานานแล้วเพียงแต่ไม่พูดอันใดออกไป

จูมี่เอินเริ่มแยกแยะได้ ในโลกของนางนั้นมีคนที่มีวิชากระบี่วิชาดาบที่สูง บางคนบอกพวกเขาสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ แต่นางคิดว่าน่าจะเกินไปหน่อย อาจเกิดจากการฝึกฝนทำให้กระโดดได้สูงกว่าผู้อื่นอยู่บ้าง แข็งแรงกว่าอยู่บ้าง ฉะนั้นสิ่งที่นางได้รู้ตอนนี้คือ

หัตถ์เซียนคือพรวิเศษ ไม่อาจฝึกได้ มีเพียงนอกจากเขาต้องหัดเรียนรู้เรื่องยาเรื่องโรคแล้ว ความสามารถด้านการรักษาที่ผ่านมือเขาก็คือสิ่งที่ติดตัวเขามา!

งั้นสิ่งที่นางเป็นเล่า ผู้อื่นที่มีความโดดเด่นต่างเป็นที่ยอมรับ แล้วความสามารถของนางไยถึงเป็นจุดด้อย

ผ่านมาหลายปีนางเริ่มเข้าใจ นางไม่ได้ผิด มันคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่อยู่แล้ว นางพยายามเตือนให้พวกเขาระวัง หากแต่ไม่มีใครเคยเชื่อนาง

พอนางได้มาอ่านเรื่องพรวิเศษของกู่เฟยเซียนแล้วก็เริ่มเข้าใจ ความสามารถของนาง คือดวงตาวิเศษ!

จูมี่เอินเบิกตาโต หัวใจเต้นรัว นางไม่ใช่ผู้ที่เป็นตัวกาลกิณี ไม่ใช่ลางร้าย บางทีนางอาจเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่น จูมี่เอินอยู่กับความรู้สึกผิดมานาน เมื่อได้เจอหนังสือเล่มนี้ก็มีความคิดมากกว่าครึ่งที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี

"ขอบคุณท่านอาจารย์ลู่!" จูมี่เอินทำความเคารพอาจารย์ก่อนจะวิ่งกลับไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกรอบ

หลี่ลู่ซือมองตามร่างบางออกไป ยามนี้แม้นางจะสิบสี่ปีแล้ว แต่กลับตัวเล็กเหมือนเด็กที่โตไม่ทันเพื่อน นางอยู่กับเขามาสี่ปีแล้วไม่เคยขี้เกียจสักวัน มีเพียงเรื่องการจากไปของแม่เฒ่าเมิ่งเท่านั้นที่ทำให้นางนอนร้องไห้ซมไปหลายวัน เวลาที่นางใช้ชีวิตที่นี่ก็ทำงานเอาเป็นเอาตาย ราวกลับกลัวว่าจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อในวันข้างหน้า เป็นคนที่ใช้ชีวิตได้คุ้มเสียยิ่งกว่าผู้ใด

ตัวเขาเองก็เป็นเพียงนักบวชธรรมดาที่ไม่ได้รู้เรื่องราวในโลกดีเท่าไหร่ ไม่อาจปลอบนางได้ สิ่งที่นางเป็นไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน หากพูดออกไปเกรงว่าจะทำให้นางเข้าใจผิด ความหมายแปลเป็นอื่น เขาเลยเลือกที่จะเงียบไว้ ให้นางเรียนรู้โลกใบนี้ด้วยตัวของนางเอง

หลี่ลู่ซือเข้าสู่สมาธิต่อ ตัดทางโลกออกจากใจ ปล่อยวางเรื่องราวรอบตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel