บท
ตั้งค่า

32 วันๆ คิดแต่จะจากไป

การกระทำของฮ่องเต้นั้นอยู่ในสายตาของเหรินเยว่เทียนทั้งหมด หากหญิงสาวข้างกายเขาไม่ใช่นักบวชเขาคงคิดว่าพี่ชายตนกำลังไม่พอใจอะไรในตัวนาง คล้ายคนกำลังหึงเพราะสายตาที่มองนางนั้นไม่เหมือนปกติ

"เกิดอะไรขึ้นหรือฝ่าบาท" เหรินเยว่เทียนพยายามช่วยทำลายความอึดอัดภายในห้อง ยามปกติพี่ชายเขามักจะมีสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงน่าฟัง แทบจะไม่ค่อยได้เห็นเขาเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย เมื่อถามออกไปก็เลือกใช้คำสุภาพเพื่อให้พี่ชายใจเย็นลงมาบ้าง

เหรินโยว่หลุนมองหน้าของน้องชาย ที่เขาถามว่ามาทำไมคือถามน้องชายเขา แต่หญิงสาวซื่อบื้อนั้นกลับคิดว่าถามตนเอง แถมยังเดินออกไปอีก วันๆ คิดแต่จะหนีจากเขาไป นางไปเอาความกล้านี้มาจากที่ใดกัน?ไหนจะเรื่องที่โกหกเขาว่าเป็นนักบวชอีก น่าหงุดหงิดยิ่งนัก

"เยว่เทียนเจ้ามาทำไม" คราวนี้เขาเลยเรียกชื่อแทน นักบวชปลอมนั้นจะได้ไม่เข้าใจผิดอีก แต่ตอนที่พูดประโยคนี้กับน้องชายเขากลับเอาแต่มองไปที่จูมี่เอินแทน คนที่กล้าหลอกหลวงเขาแต่กับซื้อบื้อขนาดนี้ เหอะ ทำไมเขาถึงโดนนางหลอกได้นะ

ต่อมาเหรินโย่วหลุนเบนสายตาออกจากร่างในชุดขาวของจูมี่เอิน หันมามองตัวตนเหตุที่ทำให้เขาอารมณ์เสียเมื่อครู่ ยิ่งมองน้องชายตนยื่นข้างนางก็ยิ่งร้อนรนในใจ

"ข้าแค่เดินมาส่งนักบวชหญิงเท่านั้น" เหรินเยว่เทียนบอกออกไปตามตรง ใบหน้าระรื่นคล้ายไม่สนใจอารมณ์ของพี่ชายตน

"เหอะ เจ้าชอบหลงทางรึไง ถึงต้องคอยให้คนนั้นคนนี้มาส่ง" คราวนี้เขาหันมองจูมี่เอินแทน

"..." จูมี่เอินไม่เคยได้เรียนรู้การวางตัวในวังหลวง นางไม่รู้ควรตอบออกไปเช่นไร และยามปกติที่เดินทางมากับฮ่องเต้เรื่องไหนไม่อยากตอบนางก็จะไม่พูด ครั้งนี้เลยเลือกที่จะเงียบแทน

เหรินเยว่เทียนแปลกใจที่จูมี่เอินไม่ตอบฮ่องเต้ออกไป นางก็กล้าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ

"ตอบ!" คราวนี้น้ำเสียงนั้นแฝงความกดดันมาด้วย

จูมี่เอินที่เคยรู้สึกแบบนี้เมื่อเยาว์วัยก็รับรู้ได้ทันที นางสั่งให้มือเล็กที่กำลังสั่นเมื่อครู่หยุดลง ยามเขาขึ้นเสียงทีนางก็ตกใจที

"ก็เคยหลงอยู่บ้างเพคะ" พอพูดตอบออกไปตามความจริงกลับรู้สึกว่าฮ่องเต้เหมือนจะไม่พอพระทัยยิ่งกว่าเก่าเสียอีก

"เหอะ" ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะพูดแบบนั้น ยามที่อยากมีชีวิตรอดในวังมีใครบ้างจะไม่รู้ว่าหากฮ่องเต้ตรัสถามแบบนั้น ควรตอบว่า 'หาไม่ได้เพคะ ขอพระองค์ทรงประทานอภัยในความผิดครั้งนี้ของหม่อมฉันด้วยเพคะ' แล้วนางเล่า ยั่วโมโหเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

"ฝ่าบาททรงเย็นพระทัยลงเถิดพะยะค่ะ" เหรินเยว่เทียนประสานมือขึ้นก้มหัวลง เมื่อรู้ว่าคำตอบของจูมี่เอินนั้นยิ่งทำให้พี่ชายของตนไม่พอใจ

"เหรินเยว่เทียนเจ้าหมดธุระแล้วก็ออกไปได้แล้ว" เหรินโยว่หลุนเบนสายตาหนีไปทางอื่น ไม่อยากมองน้องชายตนอีกแล้ว รู้สึกเหม็นขี้หน้ายิ่งนัก

"พะยะค่ะ" เหรินเยว่เทียนทำความเคารพพี่ชายของตนก่อนจะเดินออกไป ปกติเขาไม่ได้กลัวพี่ชายตนเองหรอก ยังไงเสียพี่ชายเขาก็ไม่เคยลงโทษอะไรเขาหนักๆ สักครั้ง แต่ที่เขารีบจากมาก็เพราะกลัวจะทำให้ฮ่องเต้ที่กำลังโมโหจะเอาความโมโหไปลงกับอีกคนในห้องมากกว่า แม้จะไม่ค่อยเข้าใจพี่ชายเท่าไหร่นัก แต่ก็ยอมจากไปในที่สุด

"ไม่ทำงานรึไง?" พอเห็นน้องชายจากไปแล้วเขาก็หันกลับมามองจูมี่เอินที่ยังใส่ชุดนักบวชแบบเดิมอยู่ ในใจไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม ได้แต่กำมือแน่นระงับอารามณ์ของตนไว้

เมื่อเช้าได้ยินกงกงบอกนางจะไม่ยอมรับหีบเงินที่เขามอบให้ จะรับไว้แค่ชุด ยามนี้เล่าชุดก็ไม่เห็นใส่มา

"เพคะ" จูมี่เอินไม่กล้าทำแบบเดิม ปกติเวลาเขาสั่งนางก็ทำเพียงแค่ยกมือขึ้นมารับคำสั่งไม่ได้พูดอะไร แต่อารมณ์ของเขาในยามนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก พาให้นางนึกถึงตอนที่โดนชาวบ้านรุมประนาม คราที่ต้องพบกับอารมณ์ที่รุนแรงของผู้อื่น นางไม่ชินเอาเสียเลย ไม่ชอบตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

ร่างบางเดินไปที่มุมเดิมอย่างเคยชิน ก้มหน้าเดินผ่านโต๊ะทำงานของฝ่าบาทไป แต่กลับพบว่ากระถางจุดธูปหอมหายไปแล้ว นางสอดส่ายสายตามองทั่วห้อง...ไม่พบ

พยายามหาอีกรอบจนหันไปทางที่ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่กับพบว่ากระถางธูปสลักลายดอกบัวอยู่ที่โต๊ะทรงงานของเขาแทน แล้วทำไมมันถึงย้ายไปอยู่ตรงนั้นได้เล่า?

เหรินโยว่หลุนรู้ดีว่านางมองหากระถางธูปมาสักพักแล้ว แต่นางไม่ได้มองมาทางเขา เขาเองก็ไม่ยอมบอกแต่แรก มองท่าทางเงอะงะของนางแล้วก็สบายใจขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง เพียงแค่เสี้ยวหนึ่งจริงๆ

ร่างบางเดินมาหยุดลงข้างเขา แม้จะยังกลัวเขาแต่ก็เอ่ยเตือนเรื่องที่ไม่ควรออกไป

"ธูปหอมอยู่ใกล้ฝ่าบาทเกินไปจะไม่ดีนะเพคะ" เพราะควันของมันอาจเข้าตาได้และกลิ่นจะรุนแรงกว่าปกติมากนัก เรื่องนี้นางได้เรียนรู้มากจากบิดาตั้งแต่เด็กแล้ว

"เราอยากวางตรงนี้ทำไมจะวางไม่ได้" เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เขาหลุดปากแทนตนเองแบบนั้น ฮ่องเต้หนุ่มขยับกายพิงแขนที่พนักแขนฝั่งที่จูมี่เอินยืนอยู่ พลางพูดกับนางใกล้ๆ ว่า "เจ้าจะห้ามรึ?" เสียงนั้นกระซิบแผ่วเบา

หากเป็นคนปกติคงได้รู้ถึงความนัยของน้ำเสียงนั้น แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับจูมี่เอิน

"หาไม่ได้เพคะ" จูมี่เอินรู้ว่ายามนี้คงตอบตอบออกไปตามนี้ก่อนเพื่อให้เขาไม่หงุดหงิด

พอได้ยินนางพูดแบบนั้นคล้ายอะไรก็คล้อยตามเขาก็ยกยิ้มขึ้นมา นางก็ไม่ได้โง่นี่ เมื่อครู่หากตอบแบบนี้แต่แรกก็จบแล้ว

จูมี่เอินยกฝาของกระถางออก หยิบแปรงปัดในถาดของตนที่นำมาด้วยมาปัดทำความสะอาดแล้วลงมือจุดธูปหอมที่เตรียมมาให้ฮ่องเต้

กึก

หลังจุดเสร็จแล้วกำลังยกถาดไม้จะไปเก็บก็โดนมือใหญ่ของเหรินโยว่หลุนดึงไว้เสียก่อน

จูมี่เอินตกใจเผลอเงยหน้ามองเขาโดนตรง ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด ยิ่งนางเป็นนักบวชหญิงด้วยแล้ว เออ...ถึงนางจะยังไม่ได้ผ่านพิธีกรรมก็เถอะ แต่ตอนนี้ฮ่องเต้ก็ทรงมอบฐานะนักบวชให้นาง เรื่องถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ไม่น่าเหมาะกระมัง

"ฝ่า..." นางยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไปแต่ก็โดนฮ่องเต้พูดแทรกว่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel