บท
ตั้งค่า

3 จำต้องจากไป

"นางปีศาจ นางเป็นปีศาจ นางอยู่ทางนี้!" ชายผู้นั้นตะโกนไม่เลิก เพราะกลัวจูมี่เอินจะมาทำร้ายตนเอง

จูมี่เอินใจสั่นขาอ่อน แต่จำต้องหันหลังวิ่งหนี นางไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่เหลือมาถึง ชายผู้ที่พบนางเป็นคนแรกนั้นหวาดกลัวนางไม่กล้าเข้าใกล้ หากแต่มนุษย์นั้นเมื่ออยู่กันเป็นกลุ่มก็คล้ายฝูงสุนัข กัดไม่เลือก ยอมตายไม่ยอมถอย เมื่อถึงเวลานั้นนางที่ไร้ที่พึ่งคงไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ ในหัวน้อยๆ ตอนนี้มีเพียงคำว่า 'หนี' เท่านั้น

เท้าเล็กออกวิ่งไปในป่าด้วยความกลัว หนีจากคนเหล่านั้นเข้าไปลึกกว่าตอนแรกเสียอีก ปากก็ยังคงเรียกหามารดา อยู่ร่ำไป ทั้งที่รู้ว่าตนเรียกไปก็เท่านั้น นางไม่ได้อยากให้มารดาออกมาตอนนี้ เพราะกลัวมารดาจะเดือดร้อนไปด้วย

ตุ๊บๆๆ

จูมี่เอินไม่ระวังกลิ้งตกเนินไปหลายต่อหลายรอบ นางยังเด็กไร้ประสบการณ์ ไร้ความเคยชินในป่า กลิ้งตกเนินอยู่แบบนั้นจนหนีพ้นกลุ่มคนเหล่านั้นได้ในที่สุด

เนื้อตัวที่คราแรกเปื้อนดินยามขุดหลุม ยามนี้ก็เปื้อนดินที่ตนกลิ้งใส่ แถมตามเนื้อตัวยังมีรอยเลือดจากการโดนบาดด้วยหินและกิ่งไม้ที่พื้นอีก สภาพนางตอนนี้น่ากลัวเสียยิ่งกลัวน่ากลัวไปแล้ว ผมเผ้านางดูไม่ได้ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เลือดไหลย้อมตัวหลายจุด แถมไม่มีสิ่งใดติดตัวมาสักอย่าง

นางไม่อาจกลับไปได้แล้ว ไม่อาจทำให้ท่านแม่เดือดร้อนเพราะนางได้อีกต่อไป ท่านพ่อก็จากไปแล้ว ท่านแม่ก็เศร้าขนาดนั้น หากยังต้องมากังวลเรื่องของตนอีกจะเป็นเช่นไร

แต่นางควรทำยังไงต่อ จักไปอยู่ที่ใดได้อีก ไม่สิ เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าการนางต้องหาทางออกจากป่าแห่งนี้ให้ได้ก่อน แต่นางเคยเข้ามาลึกขนาดนี้ ไม่แน่อาจจะยังไม่ทันหาทางออกได้ก็คงตายเสียก่อน

"ฮึกๆ" นางทิ้งตัวนั่งร้องไห้ให้กับชะตากรรมของตนเองอยู่นานจนเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น

เช้าแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถออกจากป่าได้

ค่ำแล้ว ก็ยังไม่สามารถออกจากป่าได้เช่นเดิม

หลังจากเดินจากเช้าจนค่ำ นางตัดสินใจหลบอยู่ในโพรงไม้ กอดเข่าตัวเองซบหน้าร้องไห้อีกครั้ง ร้องจนปากแห้งขาดน้ำ ตาบวมก็ยังไม่เลิกร้อง จนกระทั่งได้ยินเสียงสัตว์ป่าเท่านั้นแหละ นางก็เงียบลงทันที มือเล็กที่มีแต่แผลสั่นไม่หยุด ดวงตากวาดมองรอบตัว ในความมืดมีเพียงดวงตาของนางเท่านั้นที่เด่นชัดที่สุด

นางต้องอยู่กับความกลัวเช่นนั้นนานหลายวัน เดินป่ารอนแรมด้วยความเหนื่อยล้า จนกระทั่งในที่สุดก็พบอารามแห่งหนึ่งจนได้

หลายวันที่ผ่านมานางประทังชีวิตด้วยน้ำค้างเพียงน้อยนิดจนรอดมาได้ สภาพตอนนี้คล้ายศพเดินได้ พยายามประคองตัวเองไปที่อาราม ทว่าอยู่ในป่าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันทำให้นางทนไม่ไหวอีกต่อไป

ร่างเล็กที่สะบักสะบอมล้มตัวลงดัง "ตุบ" ลงข้างหน้าปากทางของป่าที่ห่างจากอารามเพียงนิด ดวงตากลมโตจ้องมองอารามซึ่งเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวในสายตาด้วยความอาลัย อีกนิดก็จะถึงแล้ว แต่นางไม่มีแรงเหลืออีกต่อไป ดวงตาคู่เล็กปิดลงในที่สุด

เนิ่นนานหลายชั่วยามถึงเพิ่งมีคนมาพบ

จูมี่เอินตื่นมาเพราะตกใจกับความรู้สึกเปียกชื้นที่ปาก

"แค๊กๆ" นางสำลักน้ำที่กำลังถูกป้อนเข้าปากพอดี ไอจนตัวงอดูน่าเวทนา เมื่อเริ่มกลับมาหายใจปกติได้แล้วก็หันมองหน้าหญิงชราที่ป้อนน้ำให้ตน

นางป้อนอะไรให้ข้า? จูมี่เอินตกใจ ความกลัวที่ถูกชาวบ้านรังเกียจจนคิดไปว่าอาจมีคนเอายาพิษมาให้นางกินก็ทำให้นางระแวง ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งถอยร่นไปไกล ยกมือเล็กที่ถูกผ้าพันแผลไว้ทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากของตน

"เจ้าฟื้นเสียที" หญิงชรายิ้มจนตาเป็นเสี้ยวพระจันทร์

รอยยิ้มโล่งใจทำให้จูมี่เอินเผลอมองและลดความระแวงของตนลงไป ลองเลียริมฝีปากที่แห้งแตกก็พบว่าเป็นเพียงน้ำเปล่าเย็นๆ เท่านั้น ยามนั้นนางก็ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย มองหญิงชราไม่วางตา ทำท่าทางเก้ๆ กังๆ ยื่นมือออกไปหยิบถ้วยน้ำในมือของหญิงชรามา พอเห็นคนตรงหน้าไม่ยื้อไว้นางก็ดึงมันมาถือไว้ในมือ จากนั้นก็ยกกระดกเข้าปากด้วยความกระหาย

"หึๆ" หญิงชรายิ้มชอบใจกับท่าทางใสซื่อของนาง อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดเด็กตัวเล็กถึงเหมือนหลงทางมา เด็กตัวเล็กแค่นี้แต่แผลเต็มตัวไปหมด ไหนจะความขี้ระแวงคล้ายหวาดกลัวผู้คนนั้นอีก นางต้องพบเจอกับสิ่งใดมาถึงได้มีสภาพเช่นนั้นกัน ก่อนหน้านี้ที่ทำแผลให้ก็พร่ำบนในใจว่า

'นางเจอเหตุการณ์อันใดมานะ น่าสงสาร ช่างน่าสงสารจริงๆ'

"เจ้าหิวไหม?" หญิงชราหยิบแผ่นแป้งที่หัวเตียงยื่นให้เด็กน้อยด้วยความใจดี

จูมี่เอินดวงตาที่โตอยู่แล้วยิ่งเบิกตาโตขึ้นกว่าเดิม รีบคว้ามากินทันที ไม่ระแวงเรื่องใดอีกต่อไป ต่อให้นางตายเพราะกินแผ่นแป้งนี้นางก็ยอม หิวเหลือเกิน หิวมาก หิวจนแทบไม่มีแรงหายใจ หิวจนท้องรู้สึกเจ็บไปหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel