บท
ตั้งค่า

29 หาใช่คนรักกลับเป็นนักบวชหญิงท่านหนึ่ง

ระหว่างเดินทางกลับวังหลวง เหรินโย่วหลุนก็ได้รับรายงานการสอบสวนอวี้ซูหนี่ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป พบว่านางไม่ได้มีส่วนรู้เห็น จึงสั่งให้ส่งนางกลับได้ และการสอบสวนด้านการลอบปลงพระชนม์กลางป่าก็ไม่ได้ความเช่นกัน มือธนูพอถูกจับได้ก็ฆ่าตัวตายทันที การลอบโจมตีในครั้งนั้นไม่มีใครรอดชีวิตมาให้เขาสอบสวนสักคน เหลือแค่อีกทางเดียวเท่านั้นคือด้านคนที่ตัดขาแท่นพิธีที่ยังจับไม่ได้ ไม่แน่บางทีอาจถูกสั่งเก็บไปแล้ว และเรื่องทั้งหมดน่าจะมาจากคนๆ เดียวกัน แต่เหรินโยว่หลุนไม่รีบอยู่ในวังมานานเจอเรื่องแบบนี้จนชินชาไปแล้ว

ส่วนทางด้านจูมี่เอินนั้นเงียบมาก เงียบมาตลอดทาง นอกจากนั่งสมาธิเงียบๆ ในรถม้าแล้วก็ไม่ทำอันใดอีกเลย ไม่พูดไม่จาราวกลับคนใบ้ เหรินโย่วหลุนเห็นแล้วก็รู้สึกแปลกตา น้อยมากที่จะได้เห็นนักบวชหญิง แถมท่าทางของนางก็น่าเลื่อมใสยิ่งนัก

เขาเองก็รักความสงบ ยามอยู่ด้วยกันในรถม้าเขาก็อ่านฎีกาบ้าง ตำราพิชัยสงครามบ้าง กลายเป็นว่าห้าวันที่ผ่านมาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากเลย

จนกระทั่งมาถึงวังหลวง จูมี่เอินเดินตามนางกำนัลฝาแฝดไปที่ตำหนักด้านหลังในวัง ส่วนของนักบวชและโหราศาสตร์

ยามจากกัน เหรินโย่วหลุนบอกเพียงว่าหากนางเห็นอะไรเกี่ยวกับตัวเขาให้มาหาเขาได้ตลอดเวลา ทั้งยังได้มอบตำแหน่งนักบวชหลวงให้นางอีกด้วย

ถิงถิงและเพยเพยสบตากันระหว่างพาจูมี่เอินไปด้านหลังวัง

สรุปนางเป็นนักบวชจริงๆ แล้วพอกลับมาที่วังฝ่าบาทก็ทำเหมือนไม่ได้สนใจนางเลยสักนิด งั้นที่ผ่านมาที่พวกเขาคิดกันมาตลอดว่านางอาจเป็นคนรักของฝ่าบาทก็ไม่จริงนะสิ แต่ถึงยังไงตอนนี้สตรีตัวเล็กผู้นี้ก็มีตำแหน่งที่สูงกว่านางกำนัลทั่วไป ทำให้ทุกคนต่างก็ยังมีความเกรงใจและเคารพนางอยู่บ้าง

.........

จูมี่เอินมาพบหัวหน้านักบวชหลวง หรือก็คือนักบวชหลวงที่ทำหน้าที่ดูแลงานพิธีในวันนั้น

ส่วนสองแฝดพอมาส่งนักบวชหญิงเสร็จก็ขอตัวจากไป

"เหตุดะ...เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้" เมื่อเห็นเรื่องที่ทำให้หัวหลุดจากบ่าเคลื่อนที่มาถึงวังหลวงได้เขาก็อดแปลกใจที่จะถามไม่ได้ เขาเองก็เดินทางกลับมาก่อนฮ่องเต้เมื่อวานนี่เอง ยังไม่ทันได้หายเหนื่อยก็ต้องมาพบเจอเรื่องยากลำบากเข้าแล้ว "ทั้งยังได้รับตำแหน่งนักบวชหลวงอีก หรือเจ้าได้เข้าพิธีบวชแล้ว?" ฉือเจาเบาเสียงลง หันมองซ้ายขวา ในห้องทำงานของนักบวชหลวงที่ถูกออกแบบคล้ายอารามไม่มีใครอยู่ก็จริง แต่ก็ยิ่งต้องเบาเสียงลงให้ได้มากที่สุดเพราะเสียงในห้องค่อนข้างที่จะกังวาล

"..." จูมี่เอินส่ายหน้า นางไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าทำไมตนถึงมาอยู่ที่นี่ และรู้ว่าท่านนักบวชหลวงนั้นกำลังกังวลเรื่องอะไร "ท่านก็บวชให้ข้าสิเจ้าคะ" จูมี่เอินพูดด้วยความจริงจัง นางไม่ได้กังวลว่าเรื่องที่นางไม่ได้บวชจะถูกเปิดเผย เพราะนางไม่เห็นเหตุการณ์ร้ายๆ กับท่านนักบวชหลวงผู้นี้เลย แสดงว่าเรื่องที่นางไม่ใช่นักบวชจริงๆ นั้นคงจะสามารถตบตาฮ่องเต้ได้ และถ้าหากนางได้บวชจริงเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็เงียบไว้ไม่มีใครรู้แน่ ไม่ใช่ว่านางอยากโกหก แต่ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไปคนที่เดือดร้อนไม่ได้มีแค่นางเท่านั้น

"ได้ ข้าจะหาเวลาดู แต่คงทำพิธีให้เจ้าที่นี่ไม่ได้ ถ้าเกิดมีคนรู้ขึ้นมาเราจะแย่เอา"

จูมี่เอินพยักหน้าเข้าใจ คนตรงหน้าของนางภายหลังนางได้ทราบชื่อของเขามีนามว่า ฉือเจา อายุน้อยกว่าอาจารย์ของนางอยู่มาก คราแรกที่พบก็ว่าน่าเลื่อมใส แต่ก็กลับต่างจากอาจารย์ของนางมาก นึกถึงอาจารย์ลู่ยามนั้นที่นางมองเห็นความตายของเขา

อาจารย์ลู่นั้นนิ่งเฉยคล้ายปลงตกแล้ว แต่กับหัวหน้านักบวชผู้นี้ยังคงมีความกลัวอยู่บ้าง หาไม่แล้วยามเจอหน้านางในวังเมื่อครู่คงไม่ตกใจเช่นนี้

ฉือเจามองหญิงสาวที่ถูกเขานำตัวมาอยู่ในขบวนเพื่อหลอกเบื้องสูง ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ดูแลอารามของหมู่บ้านไม่ยอมบวชให้นาง ท่าทางของนางก็เหมือนนักบวชไม่มีผิด ได้ยินว่านางอาศัยอยู่ที่อารามนานแล้วด้วย หรือมีเรื่องอะไรที่เขาควรรู้แต่ยังไม่รู้กันแน่ เขาจึงคิดจะจับตามองนางอีกสักพัก แต่ก็จะไม่ทิ้งเรื่องการบวชของนางไว้นานจนเกินไป หาไม่แล้วคงเป็นเขาที่ตกที่นั่งลำบาก

........

หลายวันผ่านไปเหรินโย่วหลุนรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ เขาบอกให้จูมี่เอินมาหาเขาได้ทุกเมื่อ แต่นางกลับไม่มาให้เห็นแม้แต่เงา วันนี้เลยตัดสินใจเดินทางไปอารามหลวงด้วยตนเอง บอกขบวนที่เดินตามหลังมาว่าจะไปนั่งสงบใจในอารามเสียหน่อย

พอมาถึงก็สั่งให้คนอื่นรอด้านนอก เขาจะเข้าไปในห้องนั่งสมาธิเพียงคนเดียว คิดว่าเดี๋ยวจะแอบหลบคนของตนออกไปหาจูมี่เอินเสียหน่อย ใครจะไปคิดว่าเมื่อมาถึงก็เห็นคนที่ต้องการพบนั่งสมาธิอยู่ในนั้นแล้ว

จูมี่เอินเองเมื่อก่อนไม่ได้มีเวลาว่างมาก นางมักจะทำงานในอารามเสียส่วนใหญ่ นั่งสมาธิแค่ช่วงเช้า แต่ตอนนี้มีคนคอยทำทุกอย่างให้ มีนางกำนัลปัดกวาดเช็ดถูอยู่ทั่ววัง นางเลยมีเวลาว่างค่อนข้างมาก จึงมานั่งสมาธิอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่นี่

เหรินโยว่หลุนรออยู่นานเห็นนางนั่งสมาธิอยู่ก็ไม่อยากกวน แต่ผ่านไปสักพักนางก็ไม่เห็นมีท่าทีว่าจะเลิกนั่งเลย จนเขาอดทนรอไม่ไหว

"ท่านนักบวชจูมี่เอิน"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel