24 คนรักของฝ่าบาท
ร่างสูงของฮ่องเต้เดินวนไปมารอบรถม้าใบหน้านิ่งเฉยแต่ท่าทางนั้นดูอย่างกระวนกระวาย กงกงเองเพิ่งเคยเห็นฝ่าบาทเก็บอาการไม่อยู่เช่นนี้เป็นครั้งแรก
คล้ายผ่านไปนานมากแล้ว ในที่สุดหมอหลวงก็ออกมาเสียที
เหรินโย่วหลุนที่รออยู่นานแล้วรีบวิ่งเข้าไปในรถม้า แต่เพียงแค่เปิดม่านออกก็กลับรีบกลับออกมาทันที บนใบหน้าดูแปลกไปเล็กน้อย ดวงตาเบิกโตกว่าปกติ
ทำไม ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ว่านางแต่งตัวไม่เรียบร้อย
เมื่อครู่เข้าไปก็เห็นนางนอนหลับอยู่ที่พื้นของรถม้า แม้จะมีเสื้อผ้าปิดไว้ที่หน้าอกลงไปถึงข้อเท้า แต่ก็เห็นไหลมนขาวนวลของนางได้อย่างเต็มตา
เหรินโย่วหลุนลอบกลืนน้ำลายตีหน้านิ่ง ส่งเสียงเรียกนางกำนัลไปช่วยกันดูแลนักบวชหญิง ส่วนตัวเองก็เดินไปหาหมอหลวงแทน ก่อนไปยังปรับสีหน้ากลับมาตามเดิม
"นางเป็นไงบ้าง" ถึงจะเห็นเต็มตาแล้วว่านางยังไม่ตายแต่ก็ต้องถามอาการไว้เผื่อบ้าง
"นางปลอดภัยแล้ว เพียงแค่เสียเลือดมาก ยามนี้จึงสลบไป แต่การเดินทางอาจทำให้แผลของนางระบมได้ ทางที่ดีคงต้องให้นางพักรักษาตัวก่อนพะยะค่ะ" หูจางหมิ่นยามรายงานอาการของคนเจ็บออกไปก็ลอบมองสีพระพักตร์ของฮ่องเต้ไปด้วย พลางเม้มปากแน่นเมื่อพูดจบเพื่อกลั้นรอยยิ้มไว้
"กระหม่อมจะหาที่พักให้นางเอง ฮ่องเต้ทรงกลับวังหลวงไปก่อน ทิ้งนางไว้ที่นี่เถิดพะยะค่ะ" กงกงรีบเสนอ แถวนี้ไม่อาจปลอดภัยได้นาน รีบส่งฮ่องเต้กลับวังหลวงให้ไวที่สุดเห็นจะดีกว่า
เหรินโย่วหลุนเลิกคิ้วขึ้น กงกงบอกเขาเขาทิ้งนางไว้? เหอะ ต่อให้เขาจะถูกพวกสนมนินทาว่าเย็นชาแค่ไหน แต่คนในรถม้าเป็นคนช่วยเขาไว้จะให้เขาทิ้งนางไปได้ยังไงกัน แถมนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางช่วยเขาไว้ หากลองนับดูแล้วก็เกินสี่ครั้งแล้วที่เขารอดมาได้เพราะนาง จะให้เขาใจจืดใจดำขนาดนั้นได้ยังไงกัน
"ถ้าค่อยๆ ไปละจะเป็นไรไหม บาดแผลของนางจะแย่ลงหรือไม่?" เหรินโย่วหลุนมองค้อนกงกงแล้วหันไปคุยกับหมอหลวง ยังไงก็จะนำนางกลับไปพร้อมกันให้ได้
กงกงเบิกตาค้าง เมื่อครู่ถ้าเขามองไม่ผิดฮ่องเต้ทำท่างอนเขาหรือ คนที่วันๆ เอาแต่ตีหน้านิ่งกลับรู้จักมองค้อนคนอื่นเพราะนักบวชหญิงผู้นั้น? นี่ใช่ฮ่องเต้ของเขาหรือไม่ คงมิได้ดมควันไฟมากไปจนเลอะเลือนกระมัง หรือถูกตาต้องใจในความงามของนักบวชหญิงกันนะ กงกงเองก็ไม่รู้ว่าทำไมฮ่องเต้ถึงต้องพานางไปให้ได้ ถึงนางจะงดงามเพียงใดแต่นางก็เป็นนักบวช
และฮ่องเต้นั้นขึ้นชื่อว่าบุรุษที่เย็นชาเพราะพระองค์มีสนมงดงามนับสิบยี่สิบคนแต่ก็ไม่เคยชายตามองพวกนางด้วยซ้ำ เหตุใดยามนี้กลับคล้ายคนละคน รู้จักห่วงใยผู้อื่น เขาพาฮ่องเต้กลับมาผิดคนหรือไร
"ได้พะยะค่ะ แต่ต้องระวังอย่าให้รถม้าสะเทือนมากเกินไป" หมอหลวงกล่าวทูลออกไป จบประโยคร่างสูงของฮ่องเต้ก็หายวับไปแล้ว
"ไม่ใช่ข้าพาฮ่องเต้มาผิดคนหรือ?" กงกงยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ตนเองเพิ่งได้รับรู้มา มองตามร่างสูงสง่าของคนที่ตนเห็นมาตั้งแต่เล็กจากไป ร่างนั้น สุรเสียงนั้น เป็นฮ่องเต้ของเขาไม่ผิด ไยความรู้สึกตอนนี้กลับต่างออกไป
"พระองค์ทรงมีความรัก" หูจางหมิ่นหันมายักคิ้วหลิ่วตาแถมยิ้มกรุ่งกริ่มให้กงกง
"หา?" กงกงอ้าปากค้างไปแล้ว
"ไม่ต้องหาแล้ว คนรักพระองค์ไม่ใช่อยู่ในรถม้าหรอกหรือ" หูจางหมิ่นพอคิดว่าตนจะได้ทำคลอดองค์หญิงน้อย องค์ชายน้อยเสียทีก็ดีใจยกใหญ่ พูดจบก็ทอดตามองไปยังรถม้าที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ เห็นร่างสูงสง่าในชุดดำดิ้นทองเดินไปหยุดอยู่หน้ารถม้าก็กล่าวต่อว่า "เห็นไหมข้าบอกท่านแล้ว"
หันมายิ้มกับกงกงอีกรอบเพื่อยืนยันสิ่งที่ตนพูดออกไป บัดนี้ก็ได้เห็นสีหน้าของกงกงที่ไม่อยากเชื่อ แต่เพราะกงกงนั้นคิดมากเกินไป มัวแต่คิดว่าเรื่องนั้นควรเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ควรทำแบบนั้น แต่หูจางหมิ่นเจอผู้คนมาเยอะแยะทำไมจะมองอาการเช่นนี้ที่ฮ่องเต้กำลังเป็นอยู่ไม่ออก
หูจางหมิ่นคงไม่รู้เลยว่าตอนนี้นั้นคนที่เข้าใจฮ่องเต้ดีที่สุดกลับเป็นเขาเอง ขนาดเจ้าตัวก็ยังไม่รู้เรื่องนี้
ผ่านไปพักใหญ่เห็นนางกำนัลยกผ้าเปื้อนเลือดและน้ำที่โดนย้อมจนเป็นสีแดงออกไป ต่อมาก็นางกำนัลอีกคนก็โผล่ออกมาจากรถม้า ลงมาย่อตัวต่อหน้าฮ่องเต้ ซึ่งสองคนที่เข้าไปดูแลนักบวชหญิงนั้นคือนางกำนัลฝาแฝดที่มีหน้าตาเหมือนกัน นามว่าเพยเพยและถิงถิง
"ฝ่าบาท เรียบร้อยแล้วเพคะ" เพยเพยก้มหน้าลงต่ำรายงานออกไป
เหรินโย่วหลุนพยักหน้าส่งเสียง 'อืม' ในลำคอหนึ่งที ทำท่าคล้ายไม่สนใจ ไม่ก้าวขึ้นรถม้าไปดู เพียงยืนอยู่แถวนั้นจนหันไปเห็นหมอหลวงต้มยาส่งให้นางกำนัลเอาไปป้อนคนเจ็บ
ถิงถิงพอเห็นฮ่องเต้ยืนอยู่หน้าทางเข้าก็ลังเล หยุดยืนรอคำสั่งจากฮ่องเต้ เพราะนางคิดว่าฝ่าบาทของตนอาจจะเข้าไปป้อนยาให้หญิงนางนั้นด้วยตนเอง เนื่องจากตอนนางได้รับยามาหมอหลวงบอกกับนางว่า
'เอายาไปป้อนให้คนรักของฝ่าบาทที'
"เข้าไปเถอะ" เหรินโย่วหลุนกลับไม่ได้รู้ว่าตนถูกพูดไปถึงไหนต่อไหนแล้วว่ามีคนรัก เพียงขยับตัวออกห่างจากทางขึ้นรถม้าให้นางกำนัลใต้อาณัติเดินผ่านไป
"เพคะฝ่าบาท" ถิงถิงก้มหน้าลงต่ำย่อตัวแล้วเดินขึ้นรถม้าไป
ไม่นานก็จะค่ำแล้วแต่คนด้านในรถม้ากลับยังไม่ฟื้น เหรินโย่วหลุนเลยสั่งให้ค้างแรมแถวนั้นไปก่อนชั่วคราว
ทหารก็เตรียมตั้งกระโจมให้ฝ่าบาทได้พักผ่อน กระโจมนั้นถูกเตรียมมาจากวังหลวงแค่สามหลังเท่านั้น กระโจมใหญ่เป็นของฮ่องเต้หนึ่งกระโจม กระโจมเล็กที่สองสำหรับนางกำนัล กระโจมเล็กที่สามเป็นของหมอหลวงอยู่กับขันทีและกงกง
