บท
ตั้งค่า

17 แผนลอบสังหารที่พังไม่เป็นท่า

ห้องน้ำชาส่วนตัวแห่งหนึ่งในหมู่บ้านจิ้ง

ผ่านมาหลายชั่วยามแล้วสายฝนที่กระหน่ำลงมาเริ่มเบาบางลงแล้วและไม่นานก็หยุดลง ทิ้งไว้เพียงความเย็นชุ่มช่ำและหยาดน้ำฝนที่เกาะอยู่ทั่วบริเวณ

"ไม่สำเร็จ?" คนที่ลอบวางแผนในครั้งนี้ถึงกลับตามมาดูความสำเร็จของตนด้วยตนเอง ยามนี้เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างหันหลังให้คนที่มารายงาน คล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินจึงถามย้ำอีกรอบ ทั้งที่เขาวางแผนยัดเงินให้นักบวชคนนั้นแล้วแต่นักบวชหลวงก็ยังหาคนมาแทนได้ ฝนก็ดันตกลงมาอีก แถมแผนที่วางไว้เรื่องแท่นพิธีก็ไม่สำเร็จ ไม่มีเรื่องใดที่เป็นไปตามแผนเลยสักนิด

"มีนักบวชหญิงคนหนึ่งในงานพิธีรั้งฮ่องเต้ไว้ ไม่แน่บางทีนางอาจจะรู้เรื่องที่ข้าน้อยสั่งให้คนไปเลื่อยขาแท่นพิธีไว้ขอรับ" ชายรับใช้คนสนิทของเขารายงานอีกรอบ

ทั้งคู่อยู่ในห้องที่มืดสนิทมีเพียงแสงเล็กน้อยจากบานหน้าต่างที่ผู้เป็นนายเปิดไว้ ทำให้ยามนี้ไม่เห็นหน้าของทั้งคู่เลย คนหนึ่งหันหลัง ส่วนอีกคนหนึ่งอยู่ในมุมมืด

"ไปจัดการนักบวชหญิงเสีย"

"ขอรับ" สิ้นคำสั่งชายในมุมมืดก็จากไป

"ศิษย์พี่อี ท่านว่าอย่างไรนะ?" จูมี่เอินออกมาพบศิษย์พี่อีของตนที่มาเรียกนางอยู่ข้างหน้าห้อง ยามนี้นางสวมอาภรณ์สีเทาอ่อนที่เหมือนสีของชุดพวกศิษย์พี่ เพราะตัวอื่นนางเอาไปซักตากแต่ฝนดันตกลงมาเปียกไปหมดแล้วไม่อาจนำมาสวมได้

"ท่านนักบวชหลวงบอกฮ่องเต้ถามถึงเจ้า เขาขอร้องให้พวกเราโกหกออกไปว่าเจ้าเป็นนักบวชหญิงของอาราม" ศิษย์พี่อีได้อ่านจดหมายก็เข้าใจทันทีว่าพวกตนนั้นต้องทำอะไร หากมีคนมาถาม หาน้องเล็กก็ให้บอกออกไปว่านางเป็นนักบวชของที่นี่

ในงานพิธีขอฝนเห็นเพียงน้องเล็กของเขาดึงฮ่องเต้ไว้ ไม่รู้พูดอันใดกัน แต่แล้วฝนก็ตกลงมาจนแท่นพิธีหักโค่นลง ฮ่องเต้สั่งให้คนตรวจสอบคล้ายกับว่ามีการลอบปลงพระชนม์ ตอนนี้ทุกคนได้รู้ว่ามีนักบวชหญิงในอารามของหมู่บ้านแห่งนี้ และฮ่องเต้ก็ถามถึงนาง หากบอกความจริงออกไปว่านางเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา นักบวชในพิธีทั้งหมดที่รู้เรื่องนี้อาจโดนลงโทษไปด้วย

แม้การทำพิธีจะยังไม่เริ่มต้นขึ้นและมีฝนตกลงมาแล้วก็ตาม แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแน่ พระองค์ทรงถามถึงนาง ไม่นานนางอาจถูกเรียกตัวไป

"ข้า..." จูมี่เอินพยักหน้าเข้าใจ "ข้าเข้าใจแล้ว" นางบอกลาศิษย์พี่อีแล้วขออยู่ในห้องคนเดียว

จูมี่เอินได้ยินเสียงศิษย์พี่จากไป นางทรุดตัวลงที่พื้น หลังพิงประตูก้มหน้าลงกอดเข่าด้วยความกระวนกระวายใจ

เป็นอีกครั้งที่ภาพนิมิตรชัดเจนคล้ายตัวนางเองที่เป็นผู้ประสบเคราะห์กรรมนั้น หากแต่นางก็สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของฮ่องเต้ได้ถึงสองครา ไม่สิ คนที่เปลี่ยนชะตาของเขาก็คือเขาเอง หาใช่นางไม่ หรือเป็นเพราะเขาเชื่อใจนางกันแน่

นางเป็นเหมือนนกตัวหนึ่งเท่านั้น เป็นนกที่คอยส่งสารจากสวรรค์ให้ผู้คนบนโลกมนุษย์ แต่มนุษย์ที่นางเคยส่งสารให้กลับไม่เชื่อและปฏิเสธจดหมายเหล่านั้น เพียงเพราะนางคือนกธรรมดาไม่โดดเด่น มีเพียงเขาเท่านั้นที่เชื่อนาง

นั่นเลยเป็นสิ่งที่นางไม่เคยพบมาก่อน นางเองก็ดีใจที่ช่วยเขาได้ แต่ก็กลับรู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมา เพราะหากช่วยเขาได้แล้วยามนั้นที่บิดาของนางจากไปเล่า นางสามารถมองเห็นอนาคต สามารถช่วยบิดาได้ แต่นางกลับปล่อยให้บิดาจากไปทั้งอย่างนั้น ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยของนาง กับคนอื่นที่นางได้เห็นพวกเขาตกตายไปเช่นนั้นเล่า ทำไมนางไม่เคยช่วยไว้ได้ ไหนจะแม่เฒ่าเมิ่งอีก

จูมี่เอินสับสนจนเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิด สุดท้ายแล้วในตอนนี้นางก็ยังไม่รู้เลยว่าดวงตาวิเศษของนางนั้นเป็นโทษหรือเป็นพรจากสวรรค์กันแน่

นางนึกถึงเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต เรื่องนี้หากนางบอกเขา...ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันพระองค์นั้นจะเชื่อนางหรือไม่ หรือเขาจะเปลี่ยนไปกลายเป็นคนที่คิดว่านางเป็นลางร้ายเหมือนที่พวกชาวบ้านพูดถึงนางกัน ไม่ก็เขาจะโทษนางที่ไม่ยอมไปบอกเขาแล้วปล่อยให้บิดาของเขาเสียไปก็ได้

จูมี่เอินได้แต่ถอดถอนใจและรู้สึกผิดมากกว่าเดิม

ผ่านไปครู่ใหญ่นางยังไม่ทันได้ปลอบใจตนเอง ยังไม่ทันได้คิดว่าจะเอายังไงต่อ เสียงโวยวายด้านนอกก็ดังขึ้น

"ไฟไหม้!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel