บท
ตั้งค่า

16 ใครบอกว่าเจ้ามีดวงเป็นฮองเฮา?

โรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง

อวี้ซูหนี่โกรธจัด ฝนบ้านั้นจู่ๆ ก็ตกลงมา แถมยังเกิดเรื่องผิดพลาดในงานขึ้นอีก แท่นพิธีดันล้มลงมาไม่เป็นท่า นางอุตส่าห์แต่งตัวกว่าหลายชั่วยามจนออกมาเป็นที่พอใจ พอจะได้ให้ฮ่องเต้ยลโฉมหน่อยฝนพวกนั้นก็ตกลงมาจนหน้าของนางเสียโฉมไปหมด

"โอ้ย!" บ่าวโชคร้ายคนหนึ่งกลับถูกนางตีเพราะเรื่องในวันนี้ไม่ได้ดั่งใจ มือเรียวที่ถือแส้หวดออกไปไม่ยั้ง ไม่สามารถคลายโทสะในใจให้หายไปได้เลยสักนิด

จนนางเหนื่อยไปแล้วนั้นแหละถึงยอมรามือ ร่างของบ่าวผู้โชคร้ายถูกหามออกไป จังหวะนั้นกลับมีทหารบุกเข้ามาในห้องของนาง ไม่ทันได้พูดอะไรบอกนางแม้สักนิด อวี้ซูหนี่ก็โดยลากตัวออกไปแล้ว

"จะทำอะไร ปล่อยข้า ปล่อย! รู้หรือไม่ว่าบิดาของข้าเป็นใคร ข้าจะจัดการพวกเจ้าเสีย ปล่อยข้า! พวกชั้นต่ำเอามือสกปรกออกไปนะ ข้าจะสั่งตัดมือพวกเจ้าซะ!" นางโวยวายและดิ้นไปมา ซ้ำร้ายยังออกปากด่าทอทหารของฮ่องเต้เสียๆ หายๆ ไม่หยุดตลอดทาง

บ่าวรับใช้ของนางที่ตัวยังเปียกน้ำฝนอยู่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แต่ตามเจ้านายที่ถูกลากออกไป คนกลุ่มนั้นดูก็รู้ว่าเป็นคนของทางการ ใครจะกล้าไปขัดขวาง

คุณหนูของพวกเขานั้นเรื่องดีที่สุดก็มีแต่เรื่องที่วางแผนเจ้าเล่ห์ ครานี้พอเกิดเรื่องกับงานพิธีที่ตนเป็นคนดูแลก็ไม่ทันฉุกคิดถึงสิ่งที่ตามมา เพียงเห็นหน้าตัวเองเปื้อนเครื่องประทินโฉมดูไม่ได้ก็โมโห อารมณ์ไม่ดีมาลงกับบ่าวรับใช้ แทนที่จะเอาเวลาไปหาทางแก้ในสิ่งที่ผิดพลาดของงานที่ตนดูแล ยามนี้ทหารพวกนั้นไม่ทันได้ถามก็ลากนางออกไปโดยไม่สนว่านางเป็นบุตรสาวบ้านไหน ดูท่าฮองเฮาในอนาคตที่คนต่างพูดถึงในเมืองหลวงยามนี้คงได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นแน่

"โอ้ย!" อวี้ซูหนี่ร้องโอดโอยออกมาเมื่อถูกลากมาแล้วโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี เพราะมัวแต่หาคำมาด่าคนที่ลากนางมาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าถูกพามาที่ไหน ยามมาก็ยังมองหน้าคนลากมาเพื่อจดจำให้ขึ้นใจรอวันได้แก้แค้นคืน พอล้มลงไปที่พื้นก็รีบยันตัวขึ้นหันไปด่าต่อ "ไอ้ทหารเฮงซวย ไอ้พวกชั้นต่ำ พวกแกกล้ามากนะที่มาทำเช่นนี้กับข้า" จนกระทั่งได้ยินเสียงกระแอมไอของใครบางคนนางถึงได้สติ

"อะฮึ่ม" เป็นกงกงที่ทนดูความเสียมารยาทของนางไม่ได้อีกต่อไป มาถึงยังไม่ทันทำความเคารพฮ่องเต้ก็เอาแต่ด่าทอผู้อื่น แต่ละคำที่ออกมาจากปากนางแทบไม่เชื่อว่านางคือบุตรของผู้ที่มาจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ นึกว่าแม่ค้าปากตลาดที่ไหนเสียอีก ขนาดเขายังทนฟังไม่ได้ แล้วฮ่องเต้เล่าจะคิดเช่นไร

"ฝ่า...ฝ่าบาท" อวี้ซูหนี่เมื่อรู้ว่าคนที่สวมชุดทองซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้คือใครก็รีบเปลี่ยนท่าทีทันที จนคนที่อยู่ในห้องต่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น "ถวายบังคมเพคะ" นางก้มตัวลงจนหัวติดพื้นท่าทางนอบน้อมอ่อนหวาน น้ำเสียงไพเราะเสนาะหู ขัดกับสภาพที่ดูไม่ได้เพราะเปียกฝนมา ทั้งยังมีแอบชำเลืองมองพระพักตร์ของฮ่องเต้อีกด้วย ครั้นได้เห็นใบหน้ารูปงามของอีกฝ่ายก็มีท่าทีขวยเขินขึ้นมา

เหรินโย่วหลุนไม่อยากแม้แต่จะใช้สายตามองนางให้เสียเวลาเขาถามนางออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"เจ้าเป็นคนที่อัครเสนาบดีอวี้ให้มาช่วยดูแลพิธีการสินะ"

เมื่อได้ยินดังนั้นอวี้ซูหนี่ก็ยิ้มชอบใจ ถึงใบหน้าจะเลอะจนแทบดูไม่ได้แต่รอยยิ้มที่ฝึกมานานก็ถือว่างดงามอยู่บ้าง ยามนี้ฝนก็ตกแล้ว นางได้ยินชาวบ้านต่างพากันสรรเสริญฮ่องเต้ว่าเป็นผู้ปกครองแคว้นที่มีบุญญาธิการมากขนาดไหน ในใจลืมนึกถึงความผิดพลาดในการลอบปลงพระชนม์ไปเสียสนิท เอาแต่นึกถึงคราที่ตนปรึกษากับบิดาว่าถ้าทำเรื่องนี้สำเร็จแล้วจะร้องขอความดีความชอบเช่นไรเพื่อให้ฝ่าบาทประทับใจในตนเอง ยามนี้เลยคิดไปว่าที่ฝ่าบาทตรัสถามนางออกมาเช่นนั้นอวี้ซูหนี่ก็คิดว่าตนนั้นทำสำเร็จแล้ว นางก็ดัดเสียงให้น่าฟังตอบออกไปว่า

"เป็นหม่อมฉันเอง แต่หม่อมฉันไม่ได้ต้องการสิ่งใดตอบแทนเลยเพคะฝ่าบาท" ใช่ นี่คือประโยคที่นางซ้อมมาอย่างดิบดี

"เหอะ" เหรินโย่วหลุนรู้สึกทนฟังน้ำเสียงของนางไม่ไหว ต่อให้น้ำเสียงนั้นจะน่าฟังแค่ไหนแต่เมื่อครู่ที่นางออกปากด่าทหารของเขานั้นคนละเรื่องเลย ดูก็รู้ว่านางเสแสร้ง

อวี้ซูหนี่หุบยิ้มลง เมื่อครู่นางได้ยินผิดรึไม่ เหตุใดฮ่องเต้ไม่ทรงตรัสอันใดเลย ไยไม่ชื่นชมนางเหมือนที่นางวางแผนไว้เล่า?

"ลากนางออกไป ส่งให้ฟางอี้ตรวจสอบ" เหรินโย่วหลุนส่งตัวนางไปให้องค์รักษ์คนสนิทของตนตรวจสอบอีกที คราแรกยังคิดว่าจะทำการสอบสวนเอง แต่พอเห็นนางแล้วก็นึกถึงกลับเปลี่ยนใจทันที แค่เห็นตัวนาง เห็นหน้านาง เขาก็หงุดหงิดแล้ว จะมาสอบสงสอบสวนอันใด ไม่ทำแล้ว!

"ทรงตรัสว่าอย่างไรนะเพคะ?" อวี้ซูหนี่เงยหน้าขึ้นมองผู้ออกคำสั่งทันที เผลอมองหน้าฮ่องเต้โดยตรง ขนาดกงกงที่อยู่ใกล้ฝ่าบาทมานานยังตกใจกับการกระทำอันไร้มารยาทของนาง

ในตอนนั้นทหารกลุ่มเดิมกลับมาลากนางออกไปตามคำสั่ง

"ไม่ ต้องไม่ใช่แบบนี้ หม่อมฉันมีความดีความชอบ ทำไมถึงต้องถูกสอบสวน! พระองค์ทรงเข้าใจผิดอันใดรึไม่เพคะ?" อวี้ซูหนี่ยังคงไม่รู้ตัว ตะโกนถามฮ่องเต้โดยตรง ท่าทางงดงามเมื่อครู่ไม่มีอีกต่อไป นางดิ้นสุดแรงพยายามหนีจากมือของทหารทั้งสองคนที่จับนางอยู่ เสื้อผ้าหน้าผมดูไม่ได้ยิ่งกว่านักโทษที่ถูกเนรเทศเสียอีก

"หม่อมฉันมีดาวนำโชคเกื้อหนุน ต้องได้เป็นฮองเฮาในอนาคตแน่ ไม่มีทางต้องถูกกระทำเช่นนี้! ปล่อยนะไอ้พวกรากหญ้าสกปรก" นางโมโหมาก โมโหจนลืมตัวว่าตนอยู่ต่อหน้าคนที่เป็นใหญ่ที่สุดของแคว้น คนที่ตนหมายปองให้เป็นสามีในอนาคต เผลอทำนิสัยเช่นเดิมที่มีมานานออกไป

ใครดูดวงให้นางกัน? เหรินโย่วหลุนแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตนได้ยิน มีคนที่คิดเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ เข้าข้างตัวเองขนาดไหนเชียวถึงกล้าคิดการใหญ่ขนาดนั้น

กลับไปเขาคงต้องไปสอบถามเสนาบดีอวี้อย่างชัดเจนเสียแล้ว การที่บุตรสาวของท่านเสนาบดีอวี้มีความเชื่อเช่นนั้นถือเป็นเรื่องผิด ใครอยากมีดาวนำโชคในวันเกิดของตนเองก็จ้างหมอดูมาทำนานทายทักแล้วมาป่าวประกาศว่าตนเองคือฮองเฮาของเขามันได้ที่ไหน ทำเช่นนี้มันหมิ่นเกียรติของเขาเกินไปหรือไม่?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel