14 นิมิตรพลิกชะตา
จูมี่เอินยืนก้มตัวรอรับขบวนเสด็จ ระหว่างรอนั้นที่หางตาก็เห็นผู้ที่เดินนำมาหน้าสุด ปลายอาภรณ์ของเขาเป็นสีทองสะท้อนกับแสงแดดจนแสบตา เจิดจ้าจนนางต้องหลี่ตาลงหลบแสงสีทองรอบตัวของคนผู้นั้น
นี่สินะคือฮ่องเต้ของแคว้น คนที่มีบุญธิการเหนือผู้คนนับหมื่นนับแสน สมแล้วที่มีสายเลือดมังกร เพียงแค่เห็นปลายของฉลองพระองค์ยังทำให้ผู้คนหวั่นเกรงได้ถึงขนาดนี้
พรึบๆ
จูมี่เอินภาวนาไม่ให้เห็นภาพนิมิตรตอนทำพิธีเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด กลับไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ดั่งใจนึก
ภาพนั้นชัดเจน เป็นครั้งที่สองที่เห็นสีสันเช่นนั้นในนิมิตรของตน
นิมิตรที่นางเห็นคือบุรุษผู้นั้น ผู้ที่ทรงสวมอาภรณ์สีทองสว่างจนแสบตา นางมองเห็นแท่นพิธี ต่อมาก็เห็นแท่นพิธีพังลง ร่างสูงใหญ่เพียงร่างเดียวที่อยู่บนนั้นก็ตกลงไปด้วย เขาถูกแผ่นไม้ที่สร้างแท่นพิธีขึ้นมาทับถมหายไปในซากไม้ ยามนั้นก็มีฝนตกลงมาห่าใหญ่โดยไม่มีการตั้งเค้าจากฝนมาก่อน
หมับ
แต่ยังไม่ทันได้สติกลับมาจากในนิมิตรดี ขาสั้นๆ ก็ก้าวออกมาแทรกผ่านนักบวชคนอื่นจากแถวหลังขึ้นมาด้านหน้าด้วยสัญชาตญาณ จูมี่เอินเอื้อมมือออกไปคว้าแขนคนนั้นๆ ที่กำลังจะเดินผ่านนางไป ยามนั้นเองนางก็เงยหน้าขึ้นโดยยังไร้สติที่ครบถ้วน
เหรินโยว่หลุนที่ถูกรั้งไว้ก็ก้มมองลงมาด้วยสายตานิ่งเฉย แม้จะมีความประหลาดใจไม่น้อยแต่ก็ยังรักษาท่าทีไว้ได้ไม่ตกหล่น เพียงแค่สบถในใจว่า ใครมันช่างบัง... แต่เขาก็ยังไม่ทันได้นึกคำพูดในหัวได้จบก็นิ่งค้างไป ลืมคำพูดเหล่านั้นไปจนสิ้น เมื่อครู่เขาทันได้เห็นดวงตาสีทองสว่างของนักบวชหญิงเข้าพอดี
เป็นนาง!
ไม่มีทางที่เขาจะจำผิด สายตาคู่ที่มีแสงสีทองของเด็กหญิงตัวเล็กที่ช่วยเขาในวันนั้น เขาให้คนตามหานางมานานถึงสามปีแต่กลับไม่พบนางอยู่ในหมู่บ้านจิ้งแห่งนี้เลย แถวบริเวณหมู่บ้านโดยรอบก็ลองหาแล้วกลับไม่พบ ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวคนนั้นกลับเป็นนักบวช! มิน่าที่เขาถึงตามหานางไม่เจอ
เสียงกลองหยุดลง ผู้คนต่างตกใจเงยหน้าไปมองทางขบวนที่หยุดชะงัก เหล่านักบวชและชาวบ้านต่างเห็นกันหมดว่านักบวชหญิงกำลังรั้งแขนของฮ่องเต้ไว้อย่างใจกล้า
พรึบๆ
จูมี่เอินถูกดึงกลับมาแล้ว นางรีบพูดออกไปว่า
"อย่าขึ้นไป อันตราย ฝนตกแน่" ด้วยความเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว พอสนทนากับคนที่ไม่สนิทก็พูดแต่เรื่องสำคัญ เมื่อพูดจบนางก็ได้สติกลับมาอย่างครบถ้วนมากกว่าเมื่อครู่ จึงรีบก้มหน้าลงเพราะรู้ตัวว่าคนที่นางรั้งไว้คือใคร!นางเห็นแค่แขนเสื้อของเขาก็รู้ได้ว่าเขาคือฮ่องเต้ของแคว้นนี้ คนที่นางไม่อาจจับต้องได้ตามใจชอบ
แย่แล้ว ไยนางถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ยามปกตินางเห็นนิมิตรนางจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจคิด ทำไมครั้งนี้ถึงได้ทำอะไรเช่นนี้เล่า แถมคนตรงหน้าที่นางจับก็เป็นคนที่นางไม่ควรไปยุ่งด้วยมากที่สุดอีก
"มี่เอิน เหตุใดเจ้า..." เหล่าศิษย์พี่ที่อยู่ห่างออกไปต่างพากันตกใจ นางทำให้พิธีการชะงัก ยามนี้ฮ่องเต้ควรเดินถึงแท่นพิธีแล้วแต่กลับโดนนางรั้งตัวไว้ ในใจของพวกเขาต่างร่ำร้องว่าซวยแล้วกันเป็นแถว
'อ่ะ มือข้า' จูมี่เอินตกใจเพิ่งนึกได้ว่านางยังดึงเสื้อของคนตรงหน้าไว้อยู่จึงรีบดึงมือคืน
หมับ
เหรินโย่วหลุนคว้ามือเล็กที่กำแขนของตนไว้เมื่อรู้ว่านางกำลังจะดึงมือกลับไป มือหนึ่งที่ว่างก็ยกมือห้ามองค์รักษ์ของตนที่กำลังจะเข้ามากันนักบวชหญิงออกไป
ด้านองครักษ์เห็นดังนั้นก็ก้าวถอยกลับไปยืนที่เดิม
"ทำไมถึงไม่ให้ขึ้นไป?" เหรินโยว่หลุนถามนางออกไป ครานั้นเขารู้สึกว่านางแตกต่างจากผู้อื่น เมื่อได้เห็นดวงตาสีทองของนางอีกครั้งทำให้เขารู้ว่าเมื่อสามปีก่อนเขาไม่ได้ตาฟาดไป นางมีดวงตาสีทองจริงๆและการช่วยเหลือของนางในครั้งนั้นก็ทำให้เขารอดตายมาได้
"แท่นพิธีไม่แข็งแรง เมื่อวานไม่มีใครขึ้นไปลองยืนบนนั้นเพราะเป็นที่ซึ่งฝ่าบาทเท่านั้นที่ขึ้นไปได้" หลังจากมีการตั้งกระถางธูปและเครื่องบวงสรวงแล้วก็ไม่มีใครขึ้นไปอีกเลย "ที่ขาของแท่นพิธีถูกเลื่อยตัดไว้ ไม่สามารถรับน้ำหนักได้เพิ่มอีกแล้ว" นางก้มตาลงต่ำรู้ตัวว่าทำอะไรพลาดไป คนตัวเล็กพยายามจะดึงมือตนเองกลับแต่ก็ไม่สามารถทำได้
แล้วเหตุใดเขาถึงรั้งนางไว้ จังหวะนั้นนางลืมตัวเงยหน้ามองผู้ที่ดึงมือนางไว้ ก็ได้เห็นใบหน้าที่โดดเด่นเกินคนใคร นางจำเขาได้ทันที!
เขาคือบุรุษผู้งดงามคนนั้นที่ตนเห็นเมื่อสามปีก่อน งั้นเขาก็คือฮ่องเต้!
ในนิมิตรเมื่อครู่ที่นางเห็นก็เป็นตอนที่เขาหันหลังขึ้นไปบนแท่นพิธี ยามร่วงลงมาก็ไม่อาจเห็นหน้าเขาได้ชัด มารู้เอาตอนนี้เองว่าหน้าตาของฮ่องเต้นั้นเป็นเช่นไร
เหรินโย่วหลุนเห็นความประหลาดใจในดวงตาของนางอย่างชัดเจน นางจำเขาได้? ถ้าหากเขาเป็นนางเขาเองก็คงตกใจเช่นกัน แต่พอเห็นเช่นนี้แล้วก็รู้ว่าที่นางเข้าหาเขาในตอนนั้นไม่ใช่เพราะรู้ฐานะของเขามาก่อน นางตั้งใจช่วยเขาไว้จริงๆ
ดังนั้นเมื่อนางบอกถึงความผิดปกติของแท่นพิธีเขาก็เชื่อนางอย่างหมดใจ
"ฝนจะตกตอนไหน" เขาอยากลองดู อยากรู้ว่าสิ่งที่ตนเชื่อในตัวนางนั้นถูกต้องรึไม่
จูมี่เอินกระพริบตาถี่ด้วยความประหม่า หันมองไปที่แท่นพิธีก่อนจะหันกลับมามองเขา ตอนนี้ถ้านางไม่ดึงเขาไว้เขาคงขึ้นไปบนแท่นพิธีเรียบร้อยแล้ว จากนั้นบุรุษผู้สูงส่งคนนี้ก็จะตกลงมา แล้วฝนก็ตกลงใน...
"ซาน เอ้อร์ อี" นางนับเลขถอยหลังให้เขาฟัง
