บท
ตั้งค่า

13 ไม่แม้แต่จะมอง

นางกัดฟันแน่น ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวไม่น่ามอง ดวงตามีความไม่พอใจอยู่หลายส่วน อวี้ซูหนี่ตื่นแต่เช้ามาเตรียมตัวขนาดนี้พระองค์ไม่แม้แต่จะมองมา นางทำได้เพียงมองชายเสื้อของฮ่องเต้จากไปด้วยใจที่ขุ่นเคือง

ไม่เป็นไรๆ พระองค์กำลังอยู่ในพิธีศักดิ์สิทธิ์ คงไม่มีเวลาสนใจรอบข้าง ยังไงหลังจากนี้นางยังมีโอกาสเอาตัวเองไปให้พระองค์ได้ยลโฉม เมื่อพิธีเสร็จสิ้นนางจะไปเดินไปหาฮ่องเต้ด้วยตนเอง เอาตัวเองไปอวดต่อหน้าพระพักตร์ จากนั้นก็ยกความดีความชอบในการจัดงานครั้งนี้มาเป็นของตน

ก่อนหน้านี้บิดาของนางเองก็คงได้บอกฮ่องเต้ไปแล้วว่านางมีส่วนช่วยดูแลงานในครั้งนี้ หากฝนตกต้องตามฤดูกาลนางก็จะได้ความดีความชอบมากขึ้นไปอีก เรื่องพิธีในวันนี้สามารถเป็นประโยชน์ต่อนางในการขึ้นเป็นฮองเฮาในอนาคตได้ พอคิดได้ดังนั้นนางก็ใจเย็นลง ทอดสายตามองเพียงชายเสื้อคลุมของฮ่องเต้ที่เริ่มจากไปไกลแล้ว

เมื่อฮ่องเต้เดินพ้นไปชาวบ้านที่มารอดูพิธีที่คราแรกก้มหัวลงถึงพื้นก็ยืดตัวขึ้น นั่งรอดูพิธีกรรมต่อไป

........

ทางด้านนักบวชที่ตั้งแถวอยู่ทั้งหมดสี่แถวก็แหวกออกเป็นสองฝั่ง ในมือของแต่ละคนจะถือของไม่เหมือนกัน บ้างเป็นรวงข้าว บ้างเป็นขวดน้ำที่ทำจากหยก บางคนถือกิ่งไผ่ ส่วนจูมี่เอินได้กิ่งของดอกไม้

ยามที่ฮ่องเต้เสด็จผ่านกลุ่มนักบวชไปยังแท่นพิธีที่มีกระถางธูปตั้งอยู่พวกเขาได้สิทธิ์พิเศษไม่ต้องก้มตัวลงนั่งกับพื้น สามารถยืนได้แต่ให้ก้มหัวลงยามฮ่องเต้เดินผ่านเท่านั้น

ตุ้มๆ

เสียงของกลองยังคงถูกตีเป็นจังหวะ สายลมโบกธงสัญลักษณ์ของแคว้นเซียวปลิวไสวราวกับตอบรับเสียงของกลองที่ดังกึงก้อง

ขบวนเสด็จเองก็ก้าวเดินตามเสียงกลองไปด้วย เสียงนั้นคล้ายกำหนดการเต้นของหัวใจผู้ฟัง

จูมี่เอินยืนอยู่แถวที่สองหลังสุดทางฝั่งซ้ายมือของฮ่องเต้ และเนื่องจากนางตัวเล็กมากคนด้านหน้าบังจนมิด แต่นั้นก็ไม่ช่วยให้นางลดความประหม่าลงไปได้แม้แต่น้อย มือทั้งสองเหงื่อออกตื่นเต้นจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง นางก้มหน้าลงมองเท้าของตนเอง ยื่นมือที่ถือกิ่งดอกไม้ไปด้านหน้าตามที่ได้เห็นนักบวชท่านอื่นทำ

นางหาใช่นักบวชไม่ ก่อนหน้านี้หวังวั่งซูกล่าวกับนางว่า นางต้องทำให้พิธีผ่านพ้นไปให้ได้ไม่งั้นนักบวชทุกคนในที่นี้อาจเดือดร้อน ที่ผ่านมานางทำให้บิดามารดา ศิษย์พี่ และอาจารย์ลู่เดือดร้อนเพราะนางมามากแล้ว ยามนี้นางตั้งใจอย่างมากในการทำพิธีครั้งนี้นางจะไม่ให้ใครมาเดือดร้อนเพราะนางอีก

........

เหรินโย่วหลุนฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของแคว้นเซียวมองแท่นพิธีกรรมด้านหน้าที่ยกสูงจากพื้น ซึ่งตอนนี้คือจุดหมายปลายทางของเขา

บนนั้นมีกระถางธูปและของทำพิธีมากมาย เดินทางมานานหลายวันได้พักเมื่อคืนเพียงชั่วครู่ วันนี้ก็ได้เดินทางมาร่วมพิธีตั้งแต่เช้าแต่ใบหน้างดงามนั้นก็ไม่ได้แสดงความเหนื่อยล้าออกมาให้ใครเห็น

เขาเองก็หวังว่าพิธีในครั้งนี้จะสำเร็จ ใช่ว่าเขาอยู่ในวังแล้วไม่รู้เรื่องที่ชาวบ้านพูดถึงตน แต่เขาก็ทำหูทวนลมมาตลอด พิธีในวันนี้ไม่อาจให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้

มองดูเหล่าชาวบ้านที่มารอดูพิธีการบวงสรวง ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มีความจงรักพักดีต่อเขาหรือต้องการมาดูเขาผิดพลาดในครั้งนี้กันแน่ เขาถอดถอนอยู่ในใจหลายต่อหลายครา บางทียังคิดไปแล้วว่าตนมีดวงกินบ้านกินเมืองหรือไม่ เหตุใดไม่มีฝนตกลงมาเลยตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมาบนบัลลังก์มังกรนี้

แม้เขาจะทำงานอย่างหนักมาตลอดเพื่อให้ชาวบ้านมีกินมีอยู่ แต่มีเพียงเรื่องฝนเท่านั้นที่เป็นข้อบกพร่องของเขา เพียงเพราะเรื่องเดียวกลับทำให้เขาเป็นฮ่องเต้ที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ พยายามอย่างหนักให้ตายก็ไม่อาจหลีกหนีคำว่าดาวหายนะได้เสียที

ตุ้มๆ

ร่างสูงของฮ่องเต้ก้าวเดินไปข้างหน้า ใบหน้าไร้ความกังวลคล้ายคนไม่คิดสิ่งใด ความสง่ารอบตัวเขาที่น้อยคนจะมี ยามนี้ทุกคนก็ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว

เหรินโยว่หลุนไม่ควรวอกแวก ทว่าสายตากลับไปสะดุดลงที่นักบวชคนแรกในแถวหลังของขบวนที่อยู่ด้านซ้ายมือของเขา

นักบวชคนนั้นตัวเล็กมาก หากไม่สังเกตดีๆ คงไม่อาจเห็นได้เพราะคนข้างหน้าบังไปจนมิดแล้ว ไหลก็ไม่กว้างคล้ายเด็กชายที่ยังไม่โต แต่ดวงตาและคิ้วที่โผล่พ้นจากผ้าปิดหน้านั้นมองแว็บเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่บุรุษ แต่เป็นสตรีที่งดงามคนหนึ่ง

เกิดอันใดขึ้นเขาไม่เห็นได้ยินว่ามีการใช้นักบวชหญิงในการทำพิธี เหรินโย่วหลุนถึงแม้จะสงสัยแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจมองผ่านนางไป พิธีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วไม่อาจไปสนใจสิ่งอื่นได้ แต่ขณะที่กำลังจะเดินผ่านไปนั้นกลับไม่คาดคาดว่าจะถูกใครบางคนดึงไว้

เหรินโย่วหลุนเบิกตาค้างหันกลับไปมองด้วยความไม่อยากเชื่อ ใครมันช่างบัง....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel