บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ขอบตาดำ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ชวนระทึกจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นไปกับการเปลื้องอาภรณ์ จนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าอันแสนจะเย้ายวนสายตาของเฮ่อหลิงเทียนนั้น ทำให้หลานเยวี่ยซินเกิดอาการหายใจไม่ทั่วท้อง หน้ามืดตาลายอยู่นาน ช่างเป็นคืนวันเข้าหอที่สร้างความทรงจำจนไม่อาจลืมเลือน เมื่อจิตใจสงบนางก็คิดว่าคงจะได้พักผ่อนเสียที ทว่าสิ่งที่นางคาดคิดกลับต้องพังทลายลงในชั่วพริบตา เมื่อเจ้าบ่าวของนางเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

เฮ่อหลิงเทียนลุกขึ้นจากที่นั่ง พร้อมกับประกาศกร้าวด้วยเสียงดังและท่าทางที่กระตือรือร้นราวกับจะได้เล่นสนุก

“เจ้าสาวของข้า! พวกเรามาเล่นกันเถอะ”

บุรุษใบหน้างดงาม รูปร่างสูงโปร่งตีฝ่ามือเข้าหากันด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ราวกับว่าเขาเพิ่งจะได้สหายร่วมเล่น

“ละ...เล่น เจ้าหมายถึงสิ่งใด นี่มันก็ดึกมากแล้ว พวกเราควรนอนไม่ใช่หรือ”

หลานเยวี่ยซินเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าอึ้ง ๆ ทั้งงุนงงและสงสัย อีกทั้งภายในใจยังคงหวาดระแวง กลัวว่าเขาจะคิดทำอะไรแผลง ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง

“พักผ่อนหรือ...ไม่เหมาะกระมัง คืนนี้เป็นคืนมงคลของเจ้ากับข้า จะนอนหลับเฉย ๆ ได้อย่างไรกัน”

เฮ่อหลิงเทียนยิ้มกว้างราวกับดรุณน้อยที่เพิ่งได้ของเล่นใหม่ ดวงตาของเขาทอประกายราวกับดวงดาวที่ลอยเด่นอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามในยามค่ำคืน ทุกถ้อยคำที่เขาเอ่ยออกมา เจ้าตัวก็ได้หารู้เลยว่ามันชักชวนให้เข้าใจผิดมากเพียงใด

หลานเยวี่ยซินส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ภายในใจก็รู้สึกขำขันไปกับกิริยาท่าทางอันแสนจะแปลกประหลาดของผู้เป็นสามี

“แล้วเจ้าจะเล่นอะไร...”

นางเอ่ยถามออกไปอย่างหวาดระแวง พยายามควบคุมอารมณ์ให้สงบ เพื่อรอดูว่าเขาจะทำเช่นไร

เฮ่อหลิงเทียนไม่รอช้า เขารีบเร่งเดินไปที่มุมห้องแล้วหยิบกล่องไม้สลักลายใบหนึ่งที่ซ่อนอยู่ด้านหลังฉากกั้นออกมา กล่องนั้นดูเหมือนจะหนักอยู่พอสมควร แต่ด้วยร่างกายสูงใหญ่จึงยกได้อย่างสบาย และเมื่อฝ่ามือหยาบเปิดมันออกจนมองเห็นของที่อัดแน่นอยู่ด้านใน หลานเยวี่ยซินถึงกับเบิกตากว้าง

“ดูสิ! ข้ามีของเล่นตั้งมากมาย เจ้าอยากเล่นสิ่งใด”

เฮ่อหลิงเทียนบอกกับนางด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเปล่งประกายไปด้วยรอยยิ้ม

หลานเยวี่ยซินปรายดวงตามองไปยังของเล่นที่อยู่ภายในกล่อง สายตาของนางจับจ้องไปที่ลูกข่าง เชือกกระโดด ลูกแก้ว และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่อัดแน่นอยู่ภายในกล่องไม้ใบนั้น ซึ่งนางไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจะมีอยู่ในเรือนหอของนางและเขา

“นี่มัน…ของเล่นเด็กนี่! จะให้ข้าเล่นสิ่งเหล่านี้กับเจ้าอย่างนั้นหรือ” นางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถามเฮ่อหลิงเทียนเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง

“ใช่แล้ว น่าสนุกไม่ใช่หรือ เจ้าดูสิ นี่ข้าฝึกหมุนลูกข่างมานานหลายปีเลยนะ” เฮ่อหลิงเทียนยิ้มกว้าง ก่อนจะหยิบลูกข่างขึ้นมาแล้วหมุนมันกลางพื้นด้วยความสนุกสนาน

หลานเยวี่ยซินได้แต่อ้าปากค้าง จ้องมองไปที่บุรุษรูปร่างสูงใหญ่กำลังหมุนลูกข่างด้วยท่าทางมุ่งมั่นราวกับกำลังท้าประลองกับตัวเอง

ตึ้ง โครม เคร้ง

ไม่นานนัก เสียงโครมครามก็ดังลั่นไปทั่วทั้งเรือนหอ ของใช้ภายในเรือน และของประดับตกแต่งบางอย่างตกแตกไป เพราะการกระทำที่เกินคาดของเฮ่อหลิงเทียน

“โอ๊ย! เจ้าโยนลูกแก้วไปผิดทางแล้ว”

หลานเยวี่ยซินร้องเสียงหลง เมื่อนางเห็นว่าเฮ่อหลิงเทียนขว้างลูกแก้วผิดทิศผิดทาง จนโดนแจกันตกแตกกระจาย

“อ๊ะ ข้าขอโทษ! อย่างนั้นลองกระโดดเชือกแทนดีหรือไม่”

เฮ่อหลิงเทียนพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง พร้อมกับหยิบเชือกกระโดดขึ้นมา ก่อนจะเริ่มกระโดดในทันทีโดยไม่รอความเห็นจากนางเลยแม้แต่น้อย ท่าทางที่ซุกซนทำให้หลานเยวี่ยซินรู้สึกปวดตื้อขมับ จนต้องยกฝ่ามือขึ้นมาบีบนวดให้ผ่อนคลาย

“พอเถอะ ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว!”

นางเอ่ยร้องขอต่อเขาอย่างหมดหนทาง ในขณะที่เขากระโดดเชือกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะแห่งความสุข

เสียงกระโดดเชือกดังเป็นจังหวะภายในห้องหอ ที่นางยังไม่คุ้นเคย ฝุ่นบาง ๆ ฟุ้งขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวของเขา และท่าทางที่สนุกสนานนั้นเป็นการย้ำเตือนว่า ค่ำคืนนี้นางคงจะไม่ได้นอนอย่างมีความสุขเป็นแน่

ท้ายที่สุดหลานเยวี่ยซินก็ถูกเขาพาให้เข้าร่วมการเล่นสนุกโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ นางจึงทำใจและยอมเล่นหมุนลูกข่างกับเขาเพื่อหวังว่า หากเขาเหนื่อยแล้ว นางคงจะได้พักผ่อน

แต่ดูเหมือนนางจะคิดผิด เฮ่อหลิงเทียนกลับมีความสุขที่มีสหายร่วมเล่น จนพื้นเรือนนั้นเต็มไปด้วยรอยหมุน ก่อนจะกระโดดเชือกจนเสื้อผ้าของเฮ่อหลิงเทียนหลุดลุ่ยอีกครั้ง เท่านั้นยังมีการโยนลูกแก้วกันจนเกิดเสียงดังไปทั้งจวน

หลานเยวี่ยซินรู้สึกได้ถึงความอ่อนล้า ราวกับกำลังจะสูญเสียพลังงานไปทั้งหมด เห็นทีค่ำคืนนี้คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปจากความวุ่นวายนี้ได้

แสงแดดสีส้มแกมแดงเริ่มส่องแสงลอดผ่านบานประตู บอกเวลาว่าเข้าสู่ยามอรุณรุ่งแห่งวันใหม่ หลานเยวี่ยซินทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง ความเมื่อยล้ากัดกินไปทั่วร่างกาย ขอบตานางดำคล้ำราวกับหมีในป่าไผ่ สภาพผมก็ยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งฟันฝ่าพายุมาหมาด ๆ 

ส่วนเฮ่อหลิงเทียนกลับนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างกายของนาง โดยมีลูกข่างอยู่ในมือ

“นี่หรือ…คืนเข้าหอของข้า”

นางพึมพำด้วยความอ่อนล้า เปลือกตานั้นหนักอึ้งประหนึ่งมีก้อนหินถ่วงเอาไว้ นางปรายมองไปยังสามีที่หลับสนิทอีกครั้ง 

ทว่ากลับมีรอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าอย่างน่าประหลาด ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกับเขา

“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ คืนแรกของนายท่านรองกับฮูหยิน…เสียงดังโครมครามกันทั้งคืน!”

“น่าจะ…ดุเดือดมากเป็นแน่”

“ดูสิ ฮูหยินขอบตาดำเลย!”

เสียงซุบซิบดังไปทั่วทั้งจวน ในขณะที่บ่าวรับใช้ต่างพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่โต เฮ่อหลิงเทียนกลับเดินออกมาจากเรือนหออย่างสบายใจ พร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มสดใส

“เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้างขอรับคุณชาย”

บุรุษที่อยู่ในวัยกลางคน ที่นางคาดว่าน่าจะเป็นพ่อบ้านเฮ่อที่เขาเคยบอกก่อนหน้านี้ กุนซือในการเข้าหอของเขา พ่อบ้านเฮ่อเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้

“มันดีที่สุด! พวกเจ้ารู้อะไรหรือไม่ ว่าเมื่อคืนเป็นข้าที่ชนะนาง” เฮ่อหลิงเทียนประกาศเสียงดัง พร้อมกับชูลูกข่างในมือด้วยท่าทางของผู้ชนะ

ทว่าบ่าวรับใช้ได้แต่พากันนิ่งอึ้ง ความหมายเดียวที่พวกเขาคิดได้ในตอนนี้มีเพียงเรื่องใต้สะดือเท่านั้น บ่าวรับใช้ที่เป็นสตรีมองเขาด้วยท่าทางเขินอายและคิดไปไกลว่าคุณชายบ้าผู้นี้มีลีลาบนเตียงที่ดุเดือดและเร่าร้อนเสียยิ่งนัก ในขณะที่บ่าวรับใช้ที่เป็นบุรุษต่างพากันหันมองไปยังหลานเยวี่ยซินที่เดินตามหลังเขาออกมาด้วยใบหน้าอมยิ้ม

หลานเยวี่ยซินหน้าแดงซ่านเพราะสายตาที่จับจ้องนั้นสื่อถึงความนึกคิดได้เป็นอย่างดี และนางไม่อาจเปลี่ยนแปลงความเข้าใจผิดเหล่านี้ได้ จึงทำได้เพียงถอนหายใจและยิ้มอ่อน

ในตอนนี้นางเริ่มเข้าใจแล้วว่าชีวิตของเฮ่อหลิงเทียนไม่เหมือนผู้ใด เพราะเขาคือบุรุษที่เต็มไปด้วยความสดใส สนุกสนาน และมีความไร้เดียงสา ทั้งหมดนี้ทำให้นางรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของความฝันที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน และนางเริ่มมีความสุขไปกับเขา

นางมองบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยความลึกซึ้ง และขบคิดอยู่ภายในใจว่า สามีของข้าผู้นี้...ไม่ได้เป็นบ้าหรอก เขาแค่เป็นดรุณน้อยในร่างบุรุษเท่านั้นเอง!
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel