ตอนที่ 4 ยอมรับความช่วยเหลือ[3]
“ข้านั้นถูกอดีตสามีขอหย่าและกำลังเดินทางไปยังเมืองผาซาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้าเจ้าค่ะ” หานว่านอี้เอ่ยตอบไปตามความทรงจำที่ได้รับมา
“โอ้! ช่างดียิ่ง จะดีหรือไม่ถ้าข้าขอเสนอให้เจ้าร่วมเดินทางไปด้วยกันกับข้าจนถึงเมืองผาซาน”
ชุยเทียนหนิงกล่าวชักชวน เขาไม่รู้ว่านางจะยังกลัวอยู่หรือไม่ อาจารย์หนุ่มรู้สึกถูกชะตาต้องใจและสงสารหญิงตรงหน้าตั้งแต่มองคราแรก ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้สติอยู่ก็ตาม เขาเป็นอาจารย์ในสำนักศึกษา เกิดมาอายุป่านนี้ยังไม่เคยมีความรักแม้แต่ครั้งเดียว แต่พอได้มองใบหน้าเล็กนั้นหัวใจของเขามันก็เต้นเร็วและแรงคล้ายกับกลองรบเสียอย่างนั้น มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่เขาอยากจะช่วยเหลือและปกป้องหญิงหม้ายคนนี้ตั้งแต่ตัดสินใจอุ้มร่างบางมาส่งยังโรงหมอและอยู่ค้างคืนที่นี่แล้ว
“เทียนหนิง ข้าชื่อชุยเทียนหนิง” บุรุษหนุ่มกล่าว “ข้าเป็นอาจารย์ในสำนักศึกษาฝูเถา”
“ข้าขอขอบคุณท่านชุยเทียนหนิงที่เมตตาช่วยเหลือ”
ทางด้านหานว่านอี้หลังจากได้ยินชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยแนะนำตนเอง ทั้งยังเสนอความช่วยเหลือนางจึงได้พิจารณาชายตรงหน้าอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก
เขาเป็นชายหนุ่มที่มีลักษณะคล้ายบัณฑิต ก็ต้องเป็นเช่นนั้นเพราะเขาแนะนำตนเองว่าเป็นอาจารย์ในสำนักศึกษา ชุดที่สวมใส่นั้นก็มีสัญลักษณ์ของสำนักศึกษาฝูเถาติดอยู่ด้วย อายุไม่น่าเกิน 30 ปี ผิวพรรณเรียบเนียน ผิวขาวดังหิมะ รูปร่างสง่างาม ท่าทางสุขุมนุ่มนวล
จากความทรงจำนางจำได้ว่าที่เมืองผาซานมีสำนักศึกษาฝูเถาจริง เป็นสำนักศึกษาอันดับหนึ่งของเมือง
“คุณชายขอบคุณที่เอ่ยชวนข้าให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน แต่ว่าจะเป็นการรบกวนคุณชายเกินไปหรือไม่” หานว่านอี้หลังจากที่คิดพิจารณาอยู่สักครู่จึงได้เอ่ยถามออกไป
