ตอนที่ 8 ข้อต่อรองสุดท้าย
“เจ้า! นี่ถึงขนาดกล้าตะคอกใส่ข้าเลยงั้นหรือนางตัวดี ไม่ตบไม่ตีไม่ดีขึ้นเลยสินะ!”
“ฮูหยิน! เจ้าอย่าลืมสิว่าที่นี่คือที่ใด หลินอิงเจ้าหมายความว่าอย่างไร นี่เจ้ากลัวว่าข้าจะไม่ทำตามที่รับปากเอาไว้งั้นหรือ”
“นั่นย่อมแน่นอนอยู่แล้ว ท่านพ่อก็รู้ว่าที่นี่คือจวนแม่ทัพ ข้าเพียงแค่บอกพวกเขาให้ไปสืบข่าวที่จวนสกุลเมิ่งในตอนนี้ ก็จะรู้ทันทีว่าความเป็นอยู่ของท่านแม่ในเวลานี้เป็นอย่างไร หากว่าข้าไม่มั่นใจว่านางอยู่ดีกินดีตามที่พวกท่านลั่นวาจารับปากเอาไว้ เช่นนั้นตราตั้งนี้…”
“เจ้า! นี่ข้าเป็นพ่อของเจ้านะ”
“แม่ของข้าก็เป็นภรรยาคนหนึ่งของท่าน และข้าก็เป็นบุตรสาวด้วยเช่นกัน หากท่านยังไม่ลืม ข้าแค่ถามว่าพวกท่านทำสิ่งที่รับปากข้าเอาไว้แล้วหรือยัง ถึงได้กล้ามาทวงถามตราตั้งของข้า”
“เจ้า!”
“สายของแม่ทัพหลิวบอกข้ามาว่า ก่อนหน้าที่ท่านจะเหยียบเข้าจวนสกุลหลิวมาหาข้า แม่ของข้ายังอยู่ในเรือนไม้ผุพังหลังเดิม ไม่ได้รับการดูแล และยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นี่หรือคือสิ่งที่พวกท่านรับปากเอาไว้”
“คือเรื่องนี้พ่อ… พ่อยังไม่มีเวลาจัดการให้ แต่ว่าหากได้ตราตั้งกลับไป ข้ารับรองว่าจะจัดการเรื่องของแม่เจ้าให้เหมาะสม”
“เช่นนั้นรบกวนท่านพ่อ… ไปจัดการให้เหมาะสมอย่างที่ท่านพูดเสียก่อน แล้วค่อยมาถามเอาตราตั้งกับข้าเถิด”
“เมิ่งหลินอิง มันจะมากเกินไปแล้วนะ”
“ท่านแม่ ท่านเริ่มทนไม่ไหวแล้วหรือ อยากจะร้องตะโกนแล้วลงมือกับข้าอีกงั้นหรือ ก็เอาสิ”
“เจ้า!”
“ฮูหยิน! อย่าวู่วาม เมิ่งหลินอิงนี่เจ้าแค่แต่งงานกับแม่ทัพหลิวไม่กี่วัน เจ้ากล้าใช้ชื่อของเขามาข่มขู่พวกข้าเลยงั้นหรือ”
“เป็นพวกท่านที่ผลักไสให้ข้าแต่งงานกับท่านแม่ทัพ เพื่อเปิดทางให้ “เมิ่งหลูซื่อ” ได้อภิเษกกับท่านอ๋องมิใช่หรือ มาตอนนี้ท่านยังจะมาไม่พอใจสิ่งใดอีก อ้อจริงสินะ เห็นว่าท่านอ๋องจะแต่งนางเข้าไปในฐานะชายารอง ศักดิ์ศรีแม้จะมากกว่าฮูหยินแม่ทัพ แต่กลับช่วยเรื่องการค้าไม่ได้เท่าตราตั้งระดับสี่ ที่พระราชทานมาจากฮ่องเต้"
“เมิ่งหลินอิง… นางสารเลว!”
“ฮูหยิน อย่านะเจ้าคะที่นี่จวนแม่ทัพ”
“หลีกไป!”
หวังลี่จงมิได้เข้ามาตบตีนาง แต่เล็บที่ยาวจิกเข้าไปในแขนจนหลินอิงรู้สึกเจ็บ สายตาของทั้งคู่บ่งบอกได้ว่าเกลียดกันมากขนาดไหน
“ฮูหยินใหญ่ ท่านรับบทท่านแม่ได้ไม่แนบเนียนเอาเสียเลย มันคงจะฝืนใจท่านมากสินะ ข้าจะบอกท่านเอาไว้อีกอย่าง ที่นี่เป็นจวนแม่ทัพ มีองครักษ์ลับทุกที่ไม่ว่าจะบนหลังคา ด้านหน้าและรอบ ๆ จวน หากว่าข้าได้รับบาดเจ็บหรือมีแผลแม่แต่นิดเดียวเกรงว่า…”
“ฮูหยินถอยออกมา เมิ่งหลินอิงครั้งนี้ข้าจะยอมให้เจ้าก่อน ข้าจะรีบจัดการย้ายแม่ของเจ้า ไปที่เรือนตะวันตกตามที่รับปากเอาไว้”
“เรื่องหมอ”
“ทั้งหมอ ทั้งยา อาหารและสาวใช้ ข้าจะจัดให้สมเกียรติ”
“หากข้าให้คนไปสืบรอบนี้แล้ว พวกท่านไม่ทำตามที่รับปากเอาไว้ละก็ แม้แต่ตราตั้งก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นอีกเลย”
“เจ้า! ได้… ถือว่าครั้งนี้เจ้าได้เปรียบ ฮูหยินเรากลับเถอะ”
“ไม่ส่งนะเจ้าคะ”
ทั้งสองคนเดินออกมาด้วยท่าทางโมโห เมื่อลับตาคนแล้ว เมิ่งหลินอิงก็ล้มตัวลงที่เก้าอี้ในทันที ผิงเพ่ยรีบเข้ามาพยุงนางทันที
“คุณหนูเจ้าคะ!”
“ข้าไม่เป็นไร ก็แค่… ไม่ชินเท่านั้นเอง หวังว่าจะช่วยท่านแม่ได้นะ”
“แต่ว่าคุณหนู หากว่าหลังจากที่ท่านให้ตราตั้งไปแล้ว พวกเขาไม่ทำตามที่รับปากเอาไว้เล่าเจ้าคะท่านจะทำเช่นไร ฮูหยินมิต้องทรมานในจวนนั้นอีกครั้งหรอกหรือ”
“ไม่มีทาง รอให้ท่านแม่หายดีเสียก่อน ข้าจะรีบพาท่านแม่ออกมาจากจวนทันที โชคดีที่ให้เจ้าไปสืบมาก่อน มิเช่นนั้นตราตั้งนั่นก็คงเสียไปง่าย ๆ โดยที่ข้าไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน ดูแล้วพวกเขาต้องการมันมากจริง ๆ”
“คุณหนูท่านเจ็บหรือไม่ รีบกลับเรือนไปทำแผลก่อนเถอะเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ช่างโหดร้ายยิ่งนัก ท่านแต่งงานออกมาอยู่นอกจวนแล้ว ก็ยังตามมาทำร้ายท่านได้”
“คนอย่างนางเคยมีความเมตตาให้ใครเสียที่ไหนกัน ครั้งนี้ไม่ตบตีข้าให้เห็นรอย ก็นับว่าปรานีมากแล้ว”
“รีบกลับเถอะเจ้าค่ะ”
พวกนางทั้งสองคนเดินกลับไปที่เรือนแล้ว ทุกอย่างไม่รอดพ้นสายตาของพ่อบ้านจิ่ว ซึ่งรับคำสั่งจากแม่ทัพหลิวให้มาคอยสอดส่องดูแล เขาเดินกลับไปที่เรือนใหญ่ทันที เพื่อรอท่านแม่ทัพกลับมาจากในวัง
เรือนเล็ก
“เจ็บหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่เป็นไร”
“เหตุใดพวกเขาถึงทำร้ายฮูหยินขนาดนี้ จิตใจทำด้วยอะไรกัน”
“เย่าชิงเจ้าอย่าพูดไปนะ”
“แต่ว่าแผลของท่าน เหตุใดจึงเหมือนกับถูกเสือข่วนเช่นนี้ แม้ว่าจะอยู่ในร่มผ้าที่มิอาจมองเห็น แต่ก็มิใช่แผลน้อย ๆ เลย”
ทั้งคู่ช่วยทำแผลให้หลินอิง เย่าชิงนำยารักษาแผลสดอย่างดีมาให้พวกนาง เมื่อรู้ว่าฮูหยินบาดเจ็บ แต่ก็ไม่รู้อะไรมากกว่านั้นมากนัก เพราะผิงเพ่ยและหลินอิงยังไม่ได้เล่าอะไรให้นางฟัง
“เอาละ ๆ พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าจะเปลี่ยนชุดสักหน่อย ชุดนี้คงใส่ไม่ได้แล้ว”
“ดูสิจิกจนชุดเป็นรูใหญ่ขนาดนี้ นางช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก”
“ข้าจะไปเอาผ้าพันแผลที่เรือนใหญ่มาเพิ่มนะเจ้าคะ ท่านไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ข้าจะปิดปากให้สนิท ตามที่พี่ผิงเพ่ยบอกเจ้าค่ะ”
“ขอบใจมากนะเย่าชิง”
“ขอแค่ท่านไม่ไล่ข้า ให้กลับไปเฝ้าครัวใหญ่ก็พอแล้วเจ้าค่ะ”
“รีบไปเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
เรือนใหญ่
“เจ้าบอกว่าวันนี้เมิ่งฉีมาหานางงั้นหรือ”
“ขอรับ มาเพียงไม่นานก็กลับไป”
“ที่จริงหลังแต่งงาน ก็ต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมเจ้าสาวอยู่แล้ว ที่เขารีบร้อนมานี่เพราะอะไรกัน”
หลิวเว่ยหยางมองหน้าพ่อบ้านที่นิ่งไป นั่นคือคำตอบที่ได้รับ
“วันนี้เรียกฮูหยินให้มากินข้าวเย็นกับข้าที่นี่ รีบไปสั่งก่อนที่พวกนางจะทำมื้อเย็น”
“ขอรับท่านแม่ทัพ”
เรือนเล็ก
“อะไรนะ ไปกินข้าวกับท่านแม่ทัพงั้นหรือ เหตุใดต้องเจาะจงเป็นวันนี้ด้วย คุณหนูข้าคิดว่าเรื่องนี้คงปิดไม่ได้แน่แล้ว พ่อบ้านนั่น…”
“เขาเป็นคนเก่าแก่ของที่นี่เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเรื่องที่บิดาของฮูหยินมาหาที่นี่ เขาคงรายงานท่านแม่ทัพแน่เจ้าค่ะ เพราะถึงอย่างไรพ่อบ้านจิ่วก็มีหน้าที่คอยดูแลจวน”
“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นเย่าชิงเจ้าไปกับข้าด้วย”
“เหตุใดพาเย่าชิงไปเจ้าคะ”
“ข้าจะต้องไปบอกท่านแม่ทัพก่อนว่ารับเจ้ามาอยู่ที่เรือน เขาจะได้รับทราบเอาไว้ หากไม่บอกจะกลายเป็นว่าข้าเห็นแก่หน้าของเขา”
“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะฮูหยิน”
“ไปกันเถอะ”
ทั้งสองเดินตามหลินอิงมายังเรือนหน้า เมื่อเข้าไปที่ห้องโถงเล็กในเรือน แม่ทัพหลิวก็หันมาพอดี
“เจ้ามาแล้วงั้นหรือ สาวใช้ของเจ้า…”
“ท่านแม่ทัพ เย่าชิงได้รับอนุญาตจากหัวหน้าสาวใช้ให้มาช่วยที่เรือน แต่ข้าเห็นว่าถึงอย่างไรก็ต้องแจ้งท่านก่อน ก็เลยพานางมาด้วย”
“อ้อ เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ต่อไปไม่ต้องบอกข้าก็ได้ ข้ารับรู้แล้วพวกเจ้าออกไปเถอะ”
""เจ้าค่ะ""
ทั้งสองหันมามองฮูหยินด้วยความเป็นห่วงจนแม่ทัพหลิวรู้สึกราวกับว่าพวกนางส่งเจ้านายมาตาย
“ข้าไม่กัดนางหรอก พวกเจ้ากลัวอันใดกัน ออกไปได้แล้ว”
