บทที่ 20 เจ้าสิปีศาจ
เขาค่อยๆ ยกกระบี่ขึ้นด้วยท่าทางแข็งทื่อ แล้วชี้ไปที่หยุนฉือ เมื่อเห็นเขายกแขนขึ้นแล้วรางถึงพบว่าที่เสื้อแพรสีม่วงบริเวณหลังใกล้รักแร้เขามีรอยเลือดเป็นวงกว้าง
นี่ก็คือแผลที่เขากระแทกประตูหินในตอนนั้น? เลือดไหลเยอะขนาดนี้เชียวหรือนี่...
หยุนฉือจ้องเขม็ง แล้วสลัดความสงสารในสมองออกไป เขาจะฆ่านางอยู่แล้ว ยังจะสงสารอีก?
นางมองเขา แม้จะตื่นตระหนก แต่ใบหน้าก็ยังยิ้มหวานปานบุปผา ถึงจะมอมแมมไปหน่อย ทั้งยังมองท่าทางนางไม่ออก แต่เมื่อยิ้มอย่างนี้แล้วก็ช่างงามหาใดเสมอเหมือน รู้สึกเหมือนมีแสงทอประกาย
“ท่านฆ่าข้าลงจริงเหรอ?” นางพูดเสียงค่อย
พลังยั่วยวนใช้ไม่ได้ผลกับจี้ชางหลิงคนก่อน แต่กับเขาที่ผิดปกติในตอนนี้จะได้ผลหรือเปล่านะ? แค่ทำให้การเคลื่อนไหวเขาช้าลงก็พอแล้ว
หยุนฉือเปล่งแสงระยิบระยับออกมาจากนัยน์ตา
“วิชามารของเจ้าใช้กับข้าไม่ได้หรอก”
ว่าแล้วมือของจี้ชางหลิงก็ตวัดไปเล็กน้อย กระบี่ยาวส่งเสียงก้องยาว ปล่อยมือพุ่งกระบี่ไปทางทรวงอกของนาง กระบี่จากที่ปกติก็มีเกล็ดน้ำแข็งขึ้นปกคลุม แฝงความเยือกเย็นและชั่วร้าย แหลมเปรียวจนไม่อาจสกัดกั้น
ฟิ่ว! กระบี่แหลมทะลุอากาศเป็นเสียงเล็ก หยุนฉือเบิกตาโพลง กระบี่ยังไม่ถึง แต่อายกระบี่มาก่อนแล้ว
หยุนฉือคิดว่าตนไวแล้ว แต่ก่อนที่นางจะกลิ้งหลบ กระบี่ก็เฉียดไหล่นางไป เฉือนผ้า เสียดสีกับผิว จากนั้นหยดเลือดก็ไหลออกมาซิบๆ
นางหันหน้าไปดู เป็นบาดแผลยาวที่มีหยดคาวเลือด แต่ความรู้สึกเจ็บปวดยังไม่มาถึง ก็มีเกล็ดน้ำแข็งผุดออกมาจากบาดแผล เนื้อหนังและน้ำเลือดที่ปลิออกราวกับถูกแนบกับน้ำแข็ง กลายเป็นสีแดงก่ำ ขณะเดียวกัน ความเย็นเข้ากระดูกอันน่ากลัวนี้ก็แผ่ออกมาจากบาดแผล ไม่นานก็ลามทั้งหัวไหล่ แขนนางก็เย็นจนแข็งทื่อ
หยุนฉือเงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ หนาวจนปากสั่น “ยังมาว่าว่าข้าใช้วิชามารอีก ข้าว่าท่านนั่นแหละที่เป็นปีศาจ...”
ถ้าเขาไม่ใช่ปีศาจ แล้วทำไมถึงมีเกล็ดน้ำแข็งขึ้นเต็มตัว อุณหภูมิอย่างกับฤดูเหมันต์อย่างนั้น?
ถ้าเขาไม่ใช่ปีศาจ แล้วทำไมนิสัยถึงกลับตาลปัตร แปลกไปแบบไม่มีสาเหตุแบบนี้?
แล้วถ้าเขาไม่ใช่ปีศาจ ทำไมแม้แต่แผลที่เกิดจากกระบี่เขา ก็ราวกับเอาห้องเย็นยัดปากแผลเข้าสู่ร่างกายอย่างนั้นได้?
หยุนฉือยืนด้วยความลำบาก
เนื่องจากพื้นเย็นกว่า หากยืนอย่างน้อยพื้นรองเท้าก็ยังคั่นความเย็นได้ แต่ถ้านั่ง...เสื้อผ้านางบางมากเลยนะ
กระบี่ที่ปักดังฉึกอยู่ข้างหลังนางเมื่อครู่ เมื่อนางหันไปมอง กระบี่เล่มนั้นถึงกับจมเข้าไปกว่าครึ่ง นี่ต้องมีกำลังภายในแข็งกล้าเพียงใด
หยุนฉือยิ้มแหย
ดูท่า...หลังจากหลบหินตกลงเหวด้วยกัน เข้าไปอยู่ในห้องลับด้วยกัน ถูกชายที่กินเนื้อตัวเองข้างนอกคนนั้นทำให้คลื่นไส้ด้วยกัน แล้วก็เข้ามาอยู่นี่ด้วยกันแล้ว นางก็ยังหนีไม่พ้นชะตาที่ต้องตายในมือเขาอยู่ดี
“ปีศาจ?”
เมื่อจี้ชางหลิงที่เย็นราวกับมนุษย์เกล็ดน้ำแข็งยื่นกรงเล็บออกมา นางก็ไถลพื้นไปทางเขาอย่างหยุดไม่อยู่
นางใกล้เขาไปทุกที เข้าไปทุกที เมื่อนั้นหยุนฉือก็กัดฟันแน่น พยายามคิดหนักเพื่อหยุดร่างกาย แต่นอกจากถ่วงเวลาให้ช้าลงนิดหน่อยแล้วก็ไม่มีประโยชน์อื่นใด หน้าอกราวกับมีกรงเล็บไร้รูปลากนางไปทางเขา
นัยน์ตาดำลึกไร้คลื่นอารมณ์ แม้อยากสังหารนางเสียเดี๋ยวนี้ แต่ดวงตากลับไม่มีความเร่งรีบ
ทว่าพอเห็นแววตาสงบของนางแล้ว เขาก็เอ่ยถามขึ้น “เจ้าไม่กลัวตาย” คำพูดนี้เป็นประโยคบอกเล่า ไม่ใช่ประโยคคำถาม
แต่เมื่อถามแล้ว เขาก็พบว่าดวงตาเธอมีรอยยิ้มเจื่อนออกมา
