5.สนใจ
อีวานได้รับว่าจ้างให้เขามาจัดการสังหารหัวหน้าของกองทัพแห่งมังกร นามว่าเดม่อน
อันที่จริงเขาไม่อยากจะรับงานนี้เท่าไหร่นัก แต่ทว่าเพราะเงินค่าหัวที่น่าสนใจและรางวัลของการเด็ดหัวเดม่อนมันคือการได้ครองทหารนับหมื่นของหมอนั่น เพราะอย่างนั้นเขาจึงอยากจะลองเด็ดหัวมังกรดูสักครั้ง เขาเองก็อยากจะรู้ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนกันเชียว
อีวานจัดการมัดผ้าเอาไว้ที่ใบหน้าเพื่อปิดบังใบหน้าของเขา เผื่อว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา เขาจะได้มีทางหนีเอาตัวรอด แต่ทว่าเมื่ออีวานเปิดหน้าต่างที่ระเบียงเข้าไป สิ่งที่เขาคาดหวังว่าจะได้เห็นกลับไม่ได้เห็น แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้เห็นกลับได้เห็น เขากลับพบเจอสตรีผู้หนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนเตียงของเดม่อน
หมอนั่นไม่เคยมีข่าวลือเลยสักนิดว่าเป็นมังกรที่ลุ่มหลงในสตรีน่ะ ผู้คนต่างบอกกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเดม่อนเป็นพวกไร้ความรู้สึกกับสตรี มีข่าวลือว่าหมอนั่นชื่นชอบบุรุษเสียด้วยซ้ำ
แต่ดูเหมือนข่าวลือเหล่านั้นจะจางหายไปจนหมดสิ้นแล้ว เมื่อเขาพบเจอสตรีที่กำลังสวมชุดนอนตัวบาง ถูกมัดมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้ เขาไม่แน่ใจว่าเพราะการดิ้นที่รุนแรงหรือว่าเพราะอะไรกระโปรงชุดนอนของนางจึงเลิกขึ้นมากองที่ขาอ่อน เผยให้เห็นถึงเรียวขาขาวเนียนประดุจหิมะ เรือนผมสีทองที่สะท้อนกับแสงของจันทราทำให้อีวานเดาได้ไม่ยากเลยว่าสตรีผู้นี้จะต้องงดงามมากแน่ๆ
ก็อย่างว่า หากไม่งามจะทำให้เดม่อนจอมตายด้าน พานางขึ้นมาบนเตียงอย่างนั้นหรือ ทว่าดูจากที่นางถูกมัดมือเอาไว้ มิใช่ว่านางจะถูกบังคับและขืนใจอย่างนั้นหรือ
หากเขายินยอมออกหน้าช่วยเหลือ นี่ไม่ใช่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยงั้นรึ
เมื่อคิดได้ดังนั้นอีวานจึงเดินตรงไปที่เตียงในทันที
“....”
จูเน่ขนลุกไปทั่วทั้งตัวเมื่อเธอได้ยินเสียงหน้าต่างที่ถูกเปิดออก ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่กำลังตรงเข้ามาทางนี้ บอกตามตรงว่าตัดเรื่องผีออกไปได้เลย เพราะหากเป็นผีคงไม่งัดหน้าต่างเข้ามาอย่างแน่นอน นี่จะต้องเป็นคนและ..เจตนาของคนผู้นั้นคือการทำร้ายเดม่อนไม่ผิดแน่
ให้ตายสินี่มันวันดวงซวยอะไรของฉันกันนะ อุตส่าห์คาดหวังเอาไว้ว่าจะได้มีค่ำคืนที่สวยงามกับเดม่อน กลับกลายเป็นว่าฉันจะต้องมาเผชิญหน้ากับมือสังหารงั้นเรอะ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
วินาทีที่จูเน่กำลังจมอยู่ในความคิด มือปริศนาก็เอื้อมมาฉุดรั้งเธอให้ลุกขึ้นมานั่ง
“..เหอะ..นี่คือท่านหญิงจูเน่แห่งเวลล์ไม่ใช่รึไงกัน”
อีวานไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าสตรีที่เขาเห็นว่านางกำลังถูกมัดมือมัดเท้าแล้วสวมชุดนอนสุดวาบหวิวผู้นี้จะเป็นท่านหญิงจูเน่ ผู้ครอบครองดาบศักดิ์สิทธิ์
นี่เดม่อนมีความสามารถมากแค่ไหนกันเชียว หมอนั่นจึงสามารถจับสตรีที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุด มาขึ้นเตียงเช่นนี้
เมื่อได้ยินว่าชายชุดดำผู้นี้รู้จักเธอ จูเน่ก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนตัวละครนี้จะมีความสามารถเก่งกาจมากทีเดียว แต่ทว่าในยามนี้ทำไมความสามารถที่แสนจะเก่งกาจที่ผู้คนเล่าขานกันนั้น มันไม่ตกมาถึงเธอเลยล่ะ
“ช่วยแก้มัดหน่อยได้ไหมคะ”
ดวงตาคู่นั้นดูกระจ่างใสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าท่านหญิงผู้เก่งกาจจะสามารถงดงามได้มากถึงเพียงนี้
ชั่วขณะนั้นมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของอีวานว่า หากเขายินยอมแก้มัดให้เธอแล้ว เธอลุกขึ้นมาจัดการเขา..เช่นนั้นเขาจะทำเช่นไรดี ลำพังตัวเขาเองไม่นั้นไม่สามารถต่อกรกับเธอได้อย่างแน่นอน
มือที่เอื้อมไปหมายจะแกะเชือกออกจากมือของจูเน่จึงหยุดชะงักในทันที
“ไม่มีอะไรมารับรองความปลอดภัยเลยว่าหากข้าแก้มัดให้ท่านแล้ว ท่านจะไม่ทำร้ายข้า”
เช่นนั้นเขาจะเอาอย่างไรเล่า!
“การช่วยหญิงสาวที่ตกทุกข์ได้ยากมันคือสิ่งที่วีรบุรุษควรกระทำไม่ใช่หรือคะ”
“ข้าดูเหมือนวีรบุรุษอย่างนั้นหรือครับท่านหญิง ข้าดูเป็นคนดีขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ..”
จูเน่โน้มใบหน้าของเธอลงไปหมอแก้มของชายชุดดำที่กำลังพูดมากอยู่ แน่นอนว่าริมฝีปากของเธอมันไม่ได้สัมผัสโดยตรงกับแก้มของเขาเพราะมันมีผ้าสีดำที่ผูกเอาไว้ขวางกั้นอยู่
“..นี่ท่านทำอะไรกัน”
เมื่อเห็นท่าทีตกใจของเขา จูเน่ก็โน้มใบหน้าไปหอมแก้มของเขาอีกข้างหนึ่ง
“ช่วยแก้มัดให้ข้าหน่อยนะคะ ข้ารับรองได้เลยว่าข้าจะไม่ทำอะไรท่านอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะอยากทำมากก็ตามที”
แค่มองดูก็รู้แล้วว่าหมอนี่จะต้องหล่อมากแน่ๆ ดวงตาของเขาเป็นสีแดงสดที่ดูแล้วคล้ายว่าดวงตาคู่นั้นจะเผาไหม้เธอในทุกครั้งที่เราสบตากัน
อีวานแค่นหัวเราะ เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่านี่คือท่านหญิงจูเน่ที่เขาเคยได้ยินชื่อมา
เขาดึงรั้งผ้าปิดหน้าของตัวเองออก และครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าหาเธอก่อน..แน่นอนว่ามันไม่ได้หยุดอยู่ที่แก้มเหมือนกับที่เธอกระทำกับเขา
งดงามแทบหยุดหายใจเช่นนั้น ใครกันจะทนไหว..
ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากสีหวานก่อนที่อีวานจะละเลียดชิมรสหวานจากโพรงปากนุ่มนั้นอย่างเชื่องช้า
จูเน่คิดเอาไว้แล้วว่าเขาจะต้องหล่อมากแน่ๆ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะหล่อมากขนาดนี้ และในวินาทีที่เขาทาบทับริมฝีปากลงมามันยิ่งทำให้เธออยากจะกรีดร้องออกมาในใจให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอเผยอริมฝีปากเล็กน้อยเพื่อรับเขาเข้ามา ปลายลิ้นที่แสนซุกซนของเขาสอดลึกเข้ามาหมายจะสำรวจให้ครบทุกที่ในโพรงปากนุ่ม เธอดูดดึงปลายลิ้นนั้นเบาๆ ก่อนที่ปลายลิ้นของเราจะพัวพันกันไปมา
ท่ามกลางค่ำคืนที่หนาวเย็นจนแสบผิว ภายในร่างกายของจูเน่เหมือนจะร้อนขึ้นมาราวกับมีไฟลุก เขาโอบกอดแล้วดึงรั้งเธอเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม โดยที่อีวานไม่มีความคิดที่จะแก้มัดให้แก่จูเน่เลย
ให้ตายสิดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ซะแล้วละสิ เขาตั้งใจว่าจะแค่ลิ้มรสหวานของคนงามเพียงนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาจะออกไปจากที่นี่แต่โดยดี ทว่าความหวานของเธอนั้นมีมากมายเหลือเกิน จนเขาตัดใจละริมฝีปากออกมาไม่ได้..
จูเน่หันหน้าหนีอย่างช้าๆ เธอหายใจไม่ทันเพราะจุมพิตนั้นดูเหมือนว่าจะสูบวิญญาณออกไปจากร่างของเธอเลย
ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่จูบแรกแต่ทว่าเธอรับมือกับความช่ำชองของเขาไม่ไหวเลย
ปลายนิ้วของอีวานไล้ลงไปบนริมฝีปากของจูเน่เบาๆ
“สนใจหนีไปกับข้าไหมครับ แค่คืนนี้เท่านั้น..หนีไปกับข้าเถอะนะ”
