บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 รถไถ คาบูโต้

เช้าวันรุ่งขึ้น เอกบอกทุกคนว่าไม่มีถ่ายรายการ ให้เที่ยวพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย

ปุณณ์ก็เลยขอไปหาคำหล้า อ้างว่าอยากจะศึกษาเกี่ยวกับการไถนา...เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่ได้ความรู้ไป

ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเขาหรอก แต่เอกผู้ที่เหมือนจะไม่ได้สนับสนุนให้เขาสนใจคำหล้าสักเท่าไหร่ กลับอนุญาต!

"ไปเถอะ เที่ยวให้เต็มที่ พวกพี่น่าจะนั่งดื่มกันที่บ้านนี่แหละ มีอะไรก็โทรมา"

"ครับพี่" ปุณณ์รับคำด้วยรอยยิ้มสดใส เดินเท้าเปล่าไปยังบ้านของคำหล้า ซึ่งผ่านบ้านเรือนชนบท เป็นบ้านไม้สองชั้นเก่าๆ ใต้ถุนสูง มีแคร่วางอยู่หน้าบ้านเป็นเอกลักษณ์ ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนยิ้มทักทายเขาและปุณณ์ก็ทักทายกลับ ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

คงมีแต่สุนัขบางตัวเท่านั้น ที่เห่าเขาเชิงไม่ต้อนรับ...จนต้องระวังหน้าระวังหลังพอสมควร

แต่ถึงอย่างนั้น ปุณณ์ก็รู้สึกชอบบรรยากาศพวกนี้จัง

กลิ่นแดด ลม ผสมฝุ่นนิดๆ สีซีดของหลังคา สีเซียวของไม้ฝา ดึงดูดให้เขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

'เสน่ห์อีสาน' เป็นแบบนี้นี่เอง...

"อ้าว มาอีหลีบ่?" คำหล้าทักทาย ปุณณ์ที่เดินมาหาเธอถึงกลางทุ่งนา โดยที่เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมาจริง

เมื่อวานเธอเล่าให้เขาฟังว่าวันนี้จะทำอะไร หนุ่มจากเมืองหลวงสนใจอย่างมาก รู้อยู่แก่ใจว่าเขาต้องมา...แต่พอเขามาจริงๆ เธอก็อดที่จะ ดีใจ ไม่ได้

"อื้อ โห รถคาบูโต้ คันใหญ่เลย...โตขับเป็นจริงเหรอ?" ปุณณ์ว่าเชิงทึ่ง ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้

"กะแหกตาเบิ่งตี้ ไถไว้หลายแล้ว...ตาเพิ่นอยากปลูกข้าวโพดหม่องนี้ กะเลยไถน่ะ ปลูกไว้ตรงน้น 2 ถุงแล้วเพิ่นบ่พอใจ อยากได้อีก" เธอพูดอีสานคล่องปรื๋อ เขาเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่อยากทักท้วง

“โตทำเป็นทุกอย่างเลยเนาะคำหล้า...โคตรเก่ง” เขาชื่นชมเธอจากใจ เป็นสำเนียงไทยกลาง เพราะสำเนียงอีสานไม่รอด แต่ชอบที่จะเรียกเธอว่า “โต” จริงๆ เพราะรู้สึกว่าน่ารักดี

“จะให้ทำไงได้ละอ้าย ตาก็แก่แล้ว ยายก็เดินหลังค่อมๆ ...จะให้งอมืองอเท้าอยู่เหรอ” เธอตอบเขาแบบกวนๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ ยกเอาผ้าห่อหน้ามาซับเหงื่อที่ผุดออกมาจนเต็มศีรษะ

กลิ่นแชมพูอ่อนๆ ที่เธอสระทุกวันหอมฟุ้งมากับเหงื่อกลิ่นจาง ทำให้คนที่นั่งข้างๆ ถึงกับแอบสูด...แบบอดไม่ได้ กลิ่นของเธอหอมสดชื่น ท่ามกลางโคลนที่เปื้อนเท้าทั้งคู่ จนเขาต้องลอบยิ้ม

“อื้อ เข้าใจได้ แล้วทำไมเลือกใช้ยี่ห้อนี้ รถนี่ขับดีป่ะ” เขาผู้รู้เกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวบ้าง แม้จะไม่ค่อยได้สนใจ ลองสอบถามจากผู้ใช้จริงดูไปงั้นๆ เผื่อว่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง

“โคตรดี ประหยัดน้ำมัน แรงไม่ตก...ราคาแพง แต่ผ่อนสะดวก ผลัดไปสามงวด ก็ยังไม่มายึดนะ ฮ่าๆ” เธอว่าปนขำ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความจริง พ่อแม่ของเธอที่อยู่เกาหลีรับผิดชอบความเป็นอยู่เรื่องเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ดี

แต่สิ่งที่เธอทำอยู่ อยากจะรักษามรดกความรักที่ตากับยายสร้างมามากกว่า

เธอไม่เห็นด้วยที่พ่อแม่เดินทางไปไกลแสนไกลเพื่อหาเงิน เพราะสิ่งที่ตากับยายสร้างไว้ มันหล่อเลี้ยงชีพไม่ได้ เธอจึงพยายามที่จะทำทุกอย่างให้มันทำเงินได้ และมั่นคงได้ ในอนาคตมันจะได้ไม่หายไปไหน และเธอก็ไม่ต้องออกเดินทางไกลไปเหมือนพ่อกับแม่ด้วย

“อยากได้อีกสักคันปะ” เขานึกสนุกเลยพูดขึ้นมา

“หึ ไม่เอาอ่ะ...แค่นี้ก็ผ่อนบานแล้ว มันใช้งานได้อยู่ ทนด้วย เอามาสองคันจะขับยังไงอ่ะ ตาก็ขับไม่ไหวแล้ว คันเดียวก็ขับไปเหอะ” ปุณณ์หัวเราะออกมา ชอบในความตรงไปตรงมา จริงใจและไม่โลภของเธอ

เอาจริงเธอเปิดโลกเขามากเลยนะ เปิดหลายอย่าง เหมือนเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็น...

“ลองขับดูไหม ขับง่ายนะ”

“เอาสิ ลองดู” แล้วทั้งคู่ก็สอนกันขับรถ

ปุณณ์ขับรถยนต์เป็น การขับรถคาบูโต้จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเท่าไหร่ ต้องอาศัยการควบคุมยากกว่าหน่อยเท่านั้น

"ระวังๆ ถอยดีๆ จะไถนี่ต้องดูนะ ไม่ใช่แค่ขับๆ" คำหล้าเป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่องเสมอ

ยิ่งเขาสนใจที่อยากจะขับรถเพื่อไถนาจริงๆ เธอก็อยากให้เขาทำได้จริงๆ

คำหล้าพัดหมวกในมือไปมาเมื่อแดดเริ่มจ้า มองไปยังปุณณ์ที่ลองใช้คันไถปักลงไปในดินและขับรถมา เธอสอนให้เขาหันไปมองดินที่แตกออกอย่างตั้งใจและรู้จักที่จะคุมจังหวะ

ปุณณ์พยักหน้าให้กับกลไกของรถที่ออกแบบให้ใช้งานได้คล่องแคล่วและได้ประสิทธิภาพ

ใบหน้าของบิดาซ้อนเข้ามา...

ท่านเคยเล่าให้เขาฟังว่า 'คาบูโต้นี่ ชีวิตพ่อเลย' แต่รายละเอียดมากกว่านั้น เขาเองก็จำไม่ได้ เพราะไม่ได้อยากจำมาก เพราะรู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับการไปบริหารธุรกิจแทนท่านยังไงล่ะ

แต่ตอนนี้ เขาเริ่มจะมาสนใจมันเข้าแล้ว...

ฝ่ายคำหล้า เห็นสายตาของปุณณ์ตอนมองไปยังก้อนดินไถและออร่าความขาวสว่างตัดกับรถคาบูโต้สีเขียวแล้วรู้สึกใจแกว่งประหลาด

เขาดูเท่ห์มากกว่าที่คิดเอาไว้...

"เซาๆ อย่าฟุ้งซ่านเด้อ คำหล้าเด้อ" เธอพึมพำกับตัวเอง ทั้งๆ ที่ยิ้มกว้าง แววตาเปล่งประกาย

ความปลื้มนี่นะ ห้ามกันได้ง่ายๆ ก็คงจะดี!

หลังจากไถดินแล้วเสร็จ ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงพอดี คำหล้าพาปุณณ์ไปที่บ้านของเธอ ยายฟักทำอาหารไว้รอหลายอย่าง เพราะเห็นว่ามีแขกมาช่วยงานหลานสาว แถมยังเป็นหนุ่มน้อยที่แกชมว่าหล่ออีก...ก็เลยต้องเตรียมเป็นพิเศษหน่อย

"คำหล้านี่มันเสน่ห์แรงได้ยายอีหลี ฮ่าๆ" แกพึมพำอยู่คนเดียวอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่ตักอาหารใส่ถ้วยก่อนจะยกออกไปให้ทั้งสองรับประทานที่แคร่หน้าบ้าน ซึ่งมีตาเสนนั่งสนทนาด้วยอยู่ก่อน

อาหารที่แกเตรียมก็มี...ข้าวจี่ร้อนๆ นึ่งผักปัง ก้อยกุ้งฝอย หมกฮวก หมกหน่อไม้ ต้มปลาช่อน ส้มตำ ต้มเปรตเขียดน้อย

“กินหลายเด้อๆ ยายเฮ็ดไว้หลาย ขอบคุณเด้อมาส่อยอีหล้าไถนา” ความใจดีของยายคำหล้า ทำให้ปุณณ์นึกถึงแม่นมที่เลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

“ขอบคุณครับยาย” เขาใช้ข้าวเหนียวคำใหญ่คุ้นเอาก้อยกุ้งฝอยมาลองรับประทานคำโต รู้ว่ามันจะต้องเผ็ดแน่ เลยรีบยัดนึ่งผักที่เขาเองก็ไม่ทราบชื่อตามลงไป เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลเหมือนเมื่อวาน

“นี่...ลองชิมนี่ดู ต้มเปรตเขียดน้อย” คำหล้าตักเขียดตัวน้อยขาชี้ในถ้วยแกงที่มีมะกอกสุกงอม ต้มเปื่อยอยู่ในนั้น ให้ความรู้สึกอมเปรี้ยวนวลๆ กล่อมหวานหน่อยๆ ของโปรดเธอเลย แต่เขากลับย่นคิ้ว

“เขียด?”

“แม่น เมื่อวานกินอีฮวกไปแล้ว วันนี้ลองกินเขียดดู เขียดคือผู้รอดชีวิตจากการเป็นฮวก ไม่ถูกจับกินก่อนไงอ้าย เราต้องตามมากินมัน ไม่ให้มันรอดพ้นไปได้...ฮ่าๆ”

“โห พูดซะดูใจร้ายเลยคำหล้า โตคือโหดแท้” เขาพูดพร้อมทำหน้าแหยง เพราะไม่เคยทานมาก่อน ยิ่งสาเหตุแห่งการกินคือแบบที่เธอพูดมา คนใจบางอย่างเขารู้สึกไม่ค่อยดี

“โห ทีเมื่อวานจับปลาบีบคอ บดบี้ฮวกน้อยยังทำได้เลย สิมาทำเป็นใจบางอีหยังน้ออ้าย” คำหล้าชอบใจสีหน้าของเขา ที่ดูน่าเอ็นดูเหลือเกิน ก็ยิ่งอยากแกล้ง

“ไม่รู้สิ พอมาพูดแบบนี้ มันเลยไม่น่ากินอ่ะ”

“เออน่า ลองกินเบิ่ง ชิมๆ” แล้วเธอก็ใช้ช้อนจ่อที่ปากเขา จนชายหนุ่มชะงัก...

ไอ้เขียดตัวน้อยก็ไม่น่าเอาเข้าปากเท่าไหร่ แต่พอสาวจะป้อนให้ เขาก็ไม่อยากพลาด...

พอเอาเข้าปาก เนื้อนัวๆ เคี้ยวกรุบปนกระดูกนิดๆ ให้ความรู้สึกอร่อยไปอีกแบบ

“เป็นไงอ้าย อร่อยแม่นบ่?” เขาพยักหน้า พร้อมใช้ช้อนตักซดเองอีกคำใหญ่ๆ

“ใส่ข้าวเหนียวนำลูก สิได้แซ่บๆ” ยายของคำหล้าว่าพร้อมปั้นข้าวเหนียวให้เขาปั้นใหญ่ ยิ่งเห็นปุณณ์ก็ยิ่งนึกถึงแม่นมของตัวเอง

“ขอบคุณครับยาย” เขาหยิบข้าวเหนียวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะซดน้ำร้อนๆ ตามเข้าไป

“อื้อ...อร่อยจริง” จากนั้น เขาก็ซัดอาหารทุกอย่าง ส้มตำที่ไม่เคยทานก็ทาน แม้จะเผ็ดจนน้ำหูน้ำตาไหล คำหล้ารู้สึกเอ็นดูหูแดงๆ ของเขา รีบเอาน้ำดื่มให้ จากที่คิดจะแกล้งพ่อหนุ่มคนกรุง กลายเป็นต้องมานั่งเอ็นดูเขาแทน

“บอกแล้ว อย่ามาดูถูกอาหารบ้านๆ อร่อยบอกต่อ...” เขาส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าเธอจงใจแกล้งตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel