บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 แกงฮวก ต้มปลา

"ถ้าอยากจะช่วย ก็ช่วย...ตอกไข่ใส่ถ้วยนี้ แล้วเอาดอกโสนลงไปด้วย เคยทอดอยู่ว้า...ไข่นั่น" พอปุณณ์เสนอตัวช่วยทำอาหาร คำหล้าก็ขยับพื้นที่ให้เขาแต่โดยดี ก็ตามที่รู้สึกเอ็นดูผู้ชายคนนี้ไปก่อนหน้านั่นแหละ เธอรับรู้ได้ว่าเขาอยากจะเรียนรู้จริงๆ ไม่ใช่แค่อยากจะมาบริหารเสน่ห์ใส่เธอ เหมือนที่พวกพี่ๆ เขาแซวกัน

"เอ่อ สอนอ้ายได้บ่" ปุณณ์ว่าอย่างเก้กัง แม้ว่าคำหล้าจะพูดไทยกลางใส่เขา แต่เขาก็อยากจะฝึกพูดภาษาอีสานอยู่ดี

"อีหยัง? ทอดบ่เป็นอีหลีบ่?" พอตกใจมาก คำหล้าก็หลุดสำเนียงอีสานแปดแลดออกมา

"อื้อ" เขาพยักหน้าด้วยแววตาซื่อใส

ดูน่าเอ็นดูเหลือเกินสำหรับคำหล้า... โตมาแบบไสวะ บ่เคยทอดไข่! หลูโตนหลาย

"สอนอ้ายแหน่ อ้ายสิได้วิชาทอดไข่เพิ่ม" คำหล้าส่ายหน้าก่อนจะตั้งใจสอนเขา ตั้งแต่ตอกไข่และใส่ดอกโสนลงไป สายตาของปุณณ์ที่ตั้งใจและตื่นเต้น

ทำให้เธอไม่เบื่อเลยที่จะต้องสอนเขา ภาพคนสองคนสอนกันทำนั่นนี่อยู่ในครัวสองต่อสอง ทำเอาตากล้องหลักที่ติดตามทั้งคู่ตั้งแต่ตอนไปแอบถ่ายช้อนลูกอ๊อด สะกิดเอกเบาๆ

"พี่เอก...เก็บวิดีโอหน่อยไหม...แอบๆ ก็ได้" เอกหันไปมองภาพนั้นแล้ววิญญาณผู้กำกับก็ออกมา MV เพลงที่เขายังคิดไม่ออก แทรกเข้ามาในหัว

"เออ อย่าให้มันรู้ตัวล่ะ ย่องๆ พวกมึงก็เงียบๆ กันด้วยนะ" เขาหันไปบอกทุกคนด้วยสายตา โดยเฉพาะเพียวกับสุกิต ที่ชงเก่งกว่าใคร ท่าทางเอามือรูดปากของสุกิตและเพียวที่ทำขึ้นพร้อมกัน เป็นอันว่าเริ่มถ่ายทำได้

"พอได้ไหมแบบนี้" ปุณณ์เอาไข่ที่ตีฟองแล้วให้เธอดู เขาตีจนเส้นเลือดที่แขนฟูขึ้นชัด

"โห ใช้ได้...เดี๋ยวให้ลองทอดด้วย" คำหล้าว่าอย่างใจดี ก่อนที่จะค่อยๆ ใส่เครื่องแกงที่ตำเองลงไปในหม้อแกงเก่าๆ สีดำ หูขาดข้างหนึ่ง ที่ตอนนี้น้ำได้เดือดเต็มที่

ปุณณ์อย่างชอบเตาถ่านที่ดูไม่สมประกอบ แต่มีเสน่ห์พิเศษ เมื่อไฟจากไม้ฟืนได้ลุกท่วม

ส่งกลิ่นหอมของฟืนไฟธรรมชาติ ที่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็น...ไม่เคยได้กลิ่นอะไรแบบนี้

"นั่นทำอะไรนะ?" เขาถามอย่างสนใจ แววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง

"แกงฮวกไง ที่เราเอามา พวกพี่ๆ เขาชำแหละบีบอุนจิมันออกมาหมดแล้ว ต่อไปก็ต้องแกง แต่ต้องล้างน้ำหลายรอบนะ อาจจะไม่สะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สะอาดที่สุดแล้วล่ะ พอจะกล้ากินไหม" เธอบอกเขาอย่างตรงไปตรงมา เพราะเข้าใจได้ว่า คนไม่เคยรับประทานและหน้าตา ที่มาของมัน อาจจะไม่ได้น่ารับประทานนัก

เห็นคำหล้าเป็นแบบนี้ ลึกๆ นานๆ ที...เธอก็มีความเข้าใจคนอื่นเหมือนกัน

แม้มันจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยก็ตาม!

"กล้าดิ น่ากินจะตาย ได้กลิ่นเครื่องแกงก็น้ำลายสอแล้ว" เขาพูดด้วยสายตาเยิ้มๆ ดูน่ารักน่าเอ็นดู จนเธอต้องรีบเบือนหน้าไปหาหม้อที่กำลังเดือดอีกรอบ เธอเทลูกอ๊อดที่ชำแหละแล้วลงไป น้ำเดือดๆ สงบลงเล็กน้อย

"พอลงแบบนี้แล้ว อย่าเพิ่งไปกวนมันนะ เดี๋ยวคาว รอมันเดือดใหม่ ใกล้สุกค่อยเริ่มปรุง ใส่ปลาร้าด้วยนะ กินได้แน่นะ?" คำหล้าไม่พูดอีสานกับเขาเลย เพราะอยากให้ปุณณ์ได้เข้าใจจริงๆ ว่าเธอพูดอะไร ไม่ได้อยากแกล้งเขาแล้ว

"อื้อ เคยทานอยู่ แม่นมชอบอ่ะ...แต่ไม่ค่อยได้ทานบ่อย คุณแม่ชอบห้าม" คำหล้าสะดุดหูเล็กน้อย

"หือ มีแม่นมเหมือนในหนังเลยอ่ะ เรียกคุณแม่ซะด้วย" คราวนี้ปุณณ์สะดุดมากกว่า เลิ่กลั่กเลยทีเดียว

"อ้อ หมายถึงแม่นมคนอื่นน่ะ คุณแม่ก็...คนกรุงเทพก็เรียกกันอย่างนี้อยู่แล้ว" คำหล้าไม่ทันจะได้สนใจคำอธิบายของเขา อีกหม้อต้มหนึ่งก็เดือดแรง จนเธอต้องรีบปรุง เป็นต้มปลาช่อนใส่ใบมะขามอ่อน ที่ตอนนี้หอมจัด...จนเรียกน้ำลายให้สอ เรียกท้องให้ร้อง

"โอ๊ย เดือดตากินคักแหม หอมแฮง" ปุณณ์ยิ้มให้เธอก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอแรงๆ เขาจะทนไม่ไหวแล้ว

"โอเค หม้อนี้สุกแล้ว เฮามาทอดไข่กันจ้า" คำหล้าอารมณ์ดีเวลาได้ทำอาหาร เธอพูดไทยปนอีสาน ตั้งกระทะเรียกปุณณ์เข้ามาใกล้ๆ ทั้งสองสอนกันทอดไข่เจียว ท่ามกลางกระท่อมหลังน้อยที่มีครัวปลายชานยื่นออกมา

ควันจากฟืนและเตาเก่าๆ โอบล้อมรอยยิ้มของคนทั้งคู่ จนปุณณ์สำลักออกมาเป็นครั้งคราว

เรียกเสียงหัวเราะจากคำหล้า...โดยที่ทั้งสอง ไม่รู้เลยว่า คนยืนหลังกล้องและผู้กำกับที่จ้องหน้าจออยู่เงียบๆ กำลังยิ้มตามแค่ไหน

โดยเฉพาะสุกิตกับเพียว ที่พากันเอาผ้ากัดปากไว้ เพราะฟินจนอยากจะร้องออกมา แต่ร้องไม่ได้!

"อื้อหือ อร่อยมากเลยคำหล้า สุดยอด!" หนึ่งในทีมงานคนกรุงฯ ยกนิ้วโป้งให้เธอพร้อมซดแรงๆ อีกหลายรอบ

ข้าวเหนียวคำใหญ่ ถูกส่งตามเข้าปากไป จนทุกคนพากันหัวเราะ

"อร่อยจริงมากกก แต่เผ็ดไปหน่อย ปุณณ์มึงไหวปะ?" เพียวว่าพร้อมหันไปห่วงปุณณ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ คำหล้า

ตอนนี้ปุณณ์แก้มแดง ปากแดง น้ำตาไหล และยัดข้าวเหนียวกับไข่เจียวตามเข้าไป จนคนอื่นไม่ได้ลองรับประทานไข่เจียวดอกโสนฝีมือเขา เพราะเขาครองเอาไว้คนเดียว

"โอ๊ย อ่อนว่ะปุณ ซดแกงฮวกเยอะๆ หน่อย...ดิวะ" เอกทำเป็นแซว แต่ก็ไม่ได้จริงจัง

"ซดไปหลายคำแล้วพี่ อร่อยมาก...แต่เผ็ดหลาย" ปุณณ์หันไปมองคำหล้าที่ขำเขาเป็นการใหญ่

"ฮู้หรือยังทีนี้ ว่าข้อย...พาทอดไข่เจียวทำไม?" เธอยิ้มล้อเลียนเขา เพราะไม่เคยเจอคนกินเผ็ดไม่ได้

ปุณณ์ตอนอยู่ในสภาพนี้ น่าสงสารกว่าตอนคลุกโคลนอีก!

"ฮู้แล้ว ขอบใจเด้อ ขอบใจหลาย" เขาว่าจากใจ แต่ก็น้ำตาไหลไปด้วย

"กะของแซ่บมันต้องเผ็ดเนาะ แกงบ่เผ็ดกะคือบ่ได้แกงนี่ล่ะ"

"ไม่เป็นไร อ้ายจะฝึกกิน" แล้วเขาก็ตักแกงฮวกมาซดโฮกใหญ่ จนทุกคนพากันโห่แซวเสียงดัง

"โอ๊ย เอาใจสาวพอดีเพื่อน เดี๋ยวตายก่อน" เพียวแซว อย่างจริงจัง เพราะกลัวว่าถ้าปุณณ์เป็นอะไรไป ตัวเองจะเดือดร้อน

ลูกชายเศรษฐีหมื่นล้านเลยนะ จะให้เขาไม่ได้ดูแลได้ไง!

"เออน่า กูไหว" แล้วเขาก็หันไปยิ้มให้เธอ ที่มัวแต่ขำเขา จนเหมือนจะรับประทานไม่ทันใคร

ใครจะไปคิดล่ะ ว่าคนอย่างเขาจะได้มาเจอกับความสุขเรียบง่าย...จากการได้กินไข่เจียวฝีมือของตัวเองและอาหารบ้านๆ ฝีมือผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้

แสงแดดและสายลม ได้โปรดเป็นพยานให้อ้ายปุณณ์ด้วยนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel