บทที่ 5
"เป็นไงล่ะเรา ไปหาหมอมาดีขึ้นเยอะเลยนะ"
"บ๊อกๆ"
"ว่าไงฟังรู้เรื่องใช่ไหม วันนี้พ่อออกไปทำงานอย่าดื้ออย่าซนค้นของพ่อนะ"
"บ๊อกๆ"
"สวัสดีครับปลัดขุนเขา"
"สวัสดีครับลุงหมายมาแต่เช้าเลยนะครับ" ชายหนุ่มทักทายคนสวนของสำนักงาน
"ครับ มีงานที่ค้างไว้น่ะครับ"
"เมื่อวานเห็นปลัดพาหมามาเลี้ยงด้วย"
"อ่อครับ ผมเก็บมันได้"
"เลี้ยงไว้เลยใช่ไหมครับ"
"ใช่ครับ อยู่คนเดียวก็เหงาหาเพื่อนมาอยู่ด้วยดีกว่า"
"ชื่ออะไรล่ะครับ วันหลังเดินไปแถวนั้นจะได้เรียกถูก"
"โอเลี้ยงครับ"
"ฮ่าๆ ตั้งจากสีตัวนี่เอง"
"ครับ ผมก็เพิ่งจะพาไปหาหมอมา"
"หมอสชาใช่ไหมครับ แกเก่งจริงๆครับ"
"ครับ ให้ยามาทาก็หายแล้วครับ"
"ผมเก็บหมาแมวไปให้หมอสชารักษาประจำครับ แก่มีน้ำใจช่วยเหลือไม่คิดค่ารักษาด้วย"
"ดีจังเลยนะครับ มีคนมีเมตตาแบบนี้ อย่างนี้แสดงว่าครอบครัวของเขาต้องอบอุ่นมากแน่ๆ"
"ตรงกันข้ามเลยครับ ครอบครัวไม่เกี่ยวหรอกนะผมว่าอยู่ที่ตัวหทอมากกว่า จะว่าแตกแยกก็คงได้ครับ พ่อหมอแกมีเมียน้อย เลยต้องแยกย้ายกับแม่หมอไป ไม่นานพ่อหมอก็ตาย"
"น่าเห็นใจจังนะครับ ผมว่าเขาเก่งมาก"
"ครับ ผมขอตัวไปตัดหญ้าก่อน"
"ครับ"
ชีวิตของคนเราล้วนแตกต่าง ต่างที่ต่างความรู้สึก ต่างพื้นฐานทางครอบครัว เขายอมรับว่าเธอเป็นคนเก่งมากที่ยังยืนหยัดมาได้จนถึงตอนนี้ ในขณะที่เด็กบางคนที่ต้องเจอปัญหาครอบครัวแตกแยกเหมือนเธออาจไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้
"แม่นภา หนูสชาไปไหนซะล่ะ"
"ออกไปคลินิกแต่เช้าแล้วจ้ะป้า"
"ฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย"
"อะไรเหรอจ้ะ"
"ก็มันมีหมาถูกรถชนขาหักอยู่หน้าอำเภอน่ะสิ"
"ตายจริง ช่วยพามาส่งที่คลินิกสชาเลยจ้ะ"
"ได้ๆ เดี๋ยวฉันต้องไปหาคนมาขนมันไปก่อน"
"จ้ะๆ"
"เชิญเลยค่ะ คุณแม่โทรมาบอกเรียบร้อยแล้ว" หญิงสาวไม่รอช้ารีบทำการรักษาเจ้าตูบทันที มันน่าจะโดนรถชนเพราะตอนนี้กระดูขาหลังด้านซ้ายแตก เธอจึงต้องทำการใส่เฝือกชั่วคราวให้มัน พอกระดูกกลับมาสมานกันถึงจะเอาออกได้
"ไม่เจ็บแล้วน้า อีกเดี๋ยวก็หายแล้วนะจ้ะ" คุณหมอสาวพูดปลอบใจเจ้าตูบที่กำลังนอน
"แล้วอย่างนี้ใครจะดูแลต่อละคะคุณหมอสชา"
"ก็เดี๋ยวลองดูก่อนค่ะว่าจะมีใครอยากรับไปเลี้ยงไหม" หญิงสาวถามทุกคนแล้วแต่ก็ไม่มีใครพอจะมีเวลาว่างพอจะรับมันไปดูแล สุดท้ายเป็นเธอนั่นที่ต้องดูแลทั้งค่ารักษาทั้งอาหารการกิน แต่ก็ไม่เป็นไรการช่วยเหลือคือสิ่งที่เธอคิดว่าต้องทำ ทุกชีวิตมีค่านั่นเอง
"ไปไหนมาครับเนี่ยลุงหมาย"
"ไปช่วยชาวบ้านเขาขนหมาที่ถูกรถชนไปให้หมอรักษาน่ะครับ"
"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ"
"น่าจะขาหักน่ะครับ แต่ที่สำคัญไม่มีใครรับมันไปดูแลเลย สงสัยก็คงเป็นคุณหมออีกนั่นแหละที่ต้องเลี้ยง"
"อ่อ ครับ ผมทำได้เพียงขอให้มันหายกลับมาแข็งแรงเร็วๆ"
"เหมือนกันครับ"
คลินิก
"สวัสดีค่ะ เคยมาใช้บริการที่นี่หรือยังคะ เอ๊ะ!"
"เคยครับ"
"อ่อ โอเลี้ยงใช่ไหมคะ"
"ใช่ครับ คุณหมอจำเก่งจังนะครับ"
"ค่ะ จำได้เกือบหมดนั่นแหละค่ะ วันนี้โอเลี้ยงเป็นอะไรคะ"
"ไม่ใช่โอเลี้ยงหรอกครับ วันนี้ผมไม่ได้เอาตัวอะไรมารักษา"
"...."
"ผมอยากจะมาช่วยค่ารักษาเจ้าหมาที่ถูกรถชนน่ะครับ"
"อ่อ เจ้าตัวนั้นน่ะเหรอคะ" เธอชี้ไปทางเจ้าตูบที่กำลังหลับตาพริ้ม
"ตัวนี้เหรอครับ"
"ใช่ค่ะ เพิ่งกินอิ่มก็เลยหลับไปแล้ว"
"คุณเลี้ยงดูมันดีจังนะครับ"
"ค่ะ ก็มันไม่มีใครดูแลนี่คะ"
"ดูแลดีทุกอย่างเลยนะครับ ดูแลคนดีอย่างนี้หรือเปล่า"
"เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ"
"ปะ เปล่าครับ ผมอยากจะช่วยครับแม้จะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณทำ" ชายหนุ่มยื่นธนบัตรสองพันบาทให้หญิงสาว
"ขอบคุณนะคะที่ให้ด้วยใจ"
"ครับ ผมเต็มใจมากครับ"
"ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ผมชื่อขุนเขาครับ คุณหมอล่ะชื่ออะไร"
"ชื่อสชาค่ะ แต่ความจริงชื่อก็เขียนชัดที่หน้าประตูนะคะ" พอหญิงสาวพูดมาอย่างนี้ทำเอาชายหนุ่มไปต่อไม่เป็นเลย แน่นอนแหละว่าคลินิกก็ต้องเขียนชื่อแพทย์ที่ประจำอยู่แน่นอน
"ผม...ไม่ค่อยได้สังเกตน่ะครับ"
"อ่อค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณขุนเขา"
"ยินดีเช่นกันครับ"
"คุณทำงานอะไรอยู่ที่ไหนเหรอคะ"
"ผมเป็นปลัดครับ"
"อย่าบอกนะว่า..."
"ใช่แล้วครับ ผมคือปลัดที่เพิ่งย้ายมาใหม่ตามที่ชาวบ้านเขาคุยกันน่ะครับ"
"อย่างนี้นี่เอง ยินดีต้อนรับเข้าสู่หมู่บ้านของเรานะคะ"
"ครับ ผมยินดีมากเพราะคนที่นี่มีน้ำใจยิ้มแย้มแจ่มใสมากครับ"
"เป็นธรรมดาค่ะ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนพึ่งพาอาศัยกัน"
"ใช่เลยครับ"
