2
“เพื่อนเล่นเหรอ?” แม่คุณเอ้ย !....ที่ยืนอยู่นี่ผู้ชายทั้งแท่งนะโว้ย....ไม่กลัวกันบ้างหรือไง ลูกเต้าเหล่าใครทำไมถึงได้แก่นแก้วอย่างนี้วะ มันน่าจับตีให้ก้นลาย.....เอ่อ....ไม่ใช่ลูกมึงไอ้ทิวไม่ต้องโมโหขนาดนั้น เขาได้แต่เตือนตัวเองที่ความคิดคอยจะเตลิดเลยเถิดเหมือนช้างตกมันขืนวู่วามทำอะไรลงไปคงได้บันเทิงแน่ๆ
“แหมมมมมม.......หมอทิวก็น๊า.....มองหนูดี ๆ สิจ๊ะเคยเห็นหรือเปล่า” เหมียวใช้สองมือประคองแก้มป่องของตัวเองพลางยื่นหน้ายื่นตาเฉียดเข้าไปใกล้อีกนิด เธออุตส่าห์วิ่งไปรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถของเขากลับเข้าบ้าน.....ไม่เคยชายตาแลกันเลยหรือไงวะ
หมอทิวผงะถอยหลังถึงกับเสียอาการอย่างหนักอุตส่าห์ทำเป็นวางมาดขรึมตอนนี้กลับดูอึมครึมซะยิ่งกว่าฟ้าฝนด้านนอกเสียอีก หน้าตาของเขาร้อนซู่ซ่าถึงไม่เห็นก็รู้ว่ามันคงแดงเถือกไปหมดแล้ว......เป็นอะไรนักหนาวะเนี่ยไอ้ทิวทำอย่างกับไก่อ่อนเพิ่งหัดขันเมื่อวันวาน......ก็แค่เด็กผู้หญิง....อืม..ความจริงเธอพร้อมให้นมบุตรแล้วด้วยซ้ำ เขาย้ำกับตัวเองเมื่อแว่บคิดไปถึงความขาวความอวบที่ล้นทะลัก...เฮ้ย !...คิดบ้าอะไรวะเนี่ย...หมอทิวสะบัดหน้าพลางยกมือขึ้นตบท้ายทอยตัวเองเบา ๆ เผื่อรอยหยักในสมองจะเรียงตัวเสียใหม่ ไม่ใช่รวนจนคิดแต่เรื่องลามกจกเปรต
“บอกก็ได้จ้ะ.......หนูอยู่ข้างบ้านนี่แหละหลานสาวป้าเอียดไงจ๊ะเพิ่งจะปีนเข้ามาเมื่อเช้ามืดนี่เองจ้ะ” เหมียวเห็นอาการของเขาเหมือนกำลังทะเลาะตบตีกับตัวเองจึงเลือกที่จะเฉลยจะได้เข้าเรื่องไว ๆ
“ห๊ะ ! หลานสาวป้าข้างบ้านเนี่ยนะ....อย่ามาโม้” เขาอยู่บ้านนี้มาหลายปีมั่นใจว่าป้าเอียดไม่มีหลานสาวทรงนี้แน่นอน
“จริง ๆ จ้ะหนูเพิ่งถูกแม่เลี้ยงส่งให้มาอยู่กับป้าเมื่อหลายวันก่อน” เหมียวบิดเบือนเล็กน้อยคงไม่ถึงกับตกนรกหมกไหม้กระมัง อันที่จริงเธอหนีมาต่างหาก……จะอยู่ได้ยังไงล่ะพอพ่อตายปุ๊บยายแม่เลี้ยงตัวแสบก็จับเธอขายใส่พานถวายให้ไอ้เสี่ยจอมหื่นเอาไปเป็นเมียน้อยลำดับที่เท่าไรไม่ได้จำ ขืนยอมมันนังเหมียวได้ตายคาโรงสีแน่จึงได้ตะกายหนีมาหาป้าถึงที่นี่....แต่ก็.....ช่างมันเถอะหนีไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกัน
“อืม......แล้วจะปีนเข้ามาบ้านผู้ชายทำไมไม่ทราบ” เขามองไม่เห็นเหตุผลอื่นใดที่เธอถึงกับต้องปีนเข้ามานั่งตากฝนตากฟ้าหากไม่ได้บ้าก็คงจะคลั่งไคล้ผู้ชายอย่างหมอทิวแน่นอนคิดแล้วก็เขินเอง.....เขาขยับตัวพร้อมกับกระแอมเล็กน้อย…ปั้นหน้าให้กลับมาเคร่งขรึมอย่างเดิม
“หนูอยู่กับป้าเอียดไม่ได้จริง ๆ .....หมอช่วยพาหนูไปอยู่ที่ไหนก็ได้..นะหมอนะ....นะจ๊ะหนูขอร้อง” เธอพนมมือไหว้น้ำตาคลอ เผื่อเขาจะเห็นใจลูกแมวลูกหมาพลัดที่นาคาที่อยู่ช่วยสงเคราะห์ให้หมดเศร้าหมดโศกสักครั้ง
“เฮ้ย ! จะบ้าเรอะ....เราไปเคยรู้จักรู้จี่กันเมื่อไหร่อยู่ ๆ จะให้ฉันพาหนี.....ฮึ....เมียก็ไม่ใช่” ยัยแมวเหมียวนี่จะหาเรื่องซวยมาให้กูแท้ ๆ เลย ไหนใครบอกว่าแมวมาหาหมามาสู่จะโชคดีไง......ใช่แบบนี้หรือวะ....
ได้ยินเขาพูดอย่างนั้นเหมียวคิดหนัก ถ้าเป็นเมียเขาจะพาหนีหรือจะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีปัญหาใช่ไหม....เอาวะไหน ๆ ชีวิตก็ฉวัดเฉวียนเกือบจะเสียตัวตั้งหลายครั้ง ขอมีผัวอย่างหมอทิวเลยก็แล้วกันถึงจะแก่ไปหน่อยแต่ก็นะ.....เธอชอบของเธอแบบนี้อบอุ่นหัวใจดี๊ดี........
“กลับบ้านไปได้แล้ว.......ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีถึงแม้จะยังดูดีมากแต่ฉันก็ไม่ได้อยากมีเมียเด็กตัดใจเสียเถอะ.....” เขาสวมบทผู้ใหญ่ใจดี พูดจาไม่ได้กลัวหน้าแหกเลยกูมั่นใจสุด ๆ ...ก็หลักฐานมันคาตา ยัยแมวเหมียวถึงกล้าปีนข้ามรั้วเข้ามาหาเรื่องแบบนี้พูดยาก....ขนาดพระยังกระโดดกำแพง......เอ่อ....อันนี้ก็ไม่เคยเห็นกับตาหรอกนะเห็นแต่ที่คนเขาเขียนติดไว้ข้างโหลยาดองแต่มันก็คงมีมูลบ้างล่ะน่า......
“เอ่อ....หมอ....” เหมียวเงยหน้ามองว่าที่สามีตาเหลือก...เอาวะ...ถึงจะหลงตัวเองไปหน่อยก็ยังดีกว่ากลับไปอยู่บ้านป้าเอียดเยอะแยะ.....
“เป็นไง...เถียงไม่ออกล่ะสิ...ไป ๆ ฉันจะพาเธอไปส่งเอง” หมอทิวเดินเข้าไปใช้นิ้วคีบหนีบแขนเสื้อแบบเกรงจะโดนเนื้อนาง เพื่อจะดึงเธอให้เดินตามออกมาทางหน้าบ้าน ใจดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ไล่ให้ปีนกลับไปทางเดิม…..
“เหมียวไม่กลับนะหมอออออ........” เธอขืนตัวเอาไว้จนตัวโก่งใช้สายตาอ้อนวอน หากกลับไปเธอไม่รอดแน่
“อย่าดื้อนะเหมียว...เดี๋ยวฉันช่วยพูดกับป้าเธอให้เอาไหมอึดอัดใจเรื่องอะไรก็บอกมา” เขาบอกอย่างใจดี หากรักชอบกันจริงอยู่ใกล้แค่นี้ค่อย ๆ จีบเดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน ยิ่งขี้อ้อนอย่างเหมียว....เอิ่ม...กูจะเล่นตัวทำไมวะเนี่ยไอ้ทิว รถด่วนขบวนสุดท้ายแล้วนะมึง.......ลังเลสองจิตสองใจจะเลือกทำตามใจหรือเลือกความถูกต้อง.....
“เหมียวไม่กลับ......”
เหมียวส่ายหน้าปฏิเสธอย่างดื้อดึงพร้อมกับทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นพลางยึดขาโต๊ะไม้สักที่หนาหนักพอจะเป็นหลักได้ทำให้หมอทิวต้องออกแรงยื้อยุดฉุดให้ลุกขึ้นมา.......ยื้อกันไปฉุดกันมาเสื้อผ้าที่ใส่คลุมไว้ลวก ๆ ก็เปิดเลิกขึ้นสูง ผ้าขาวม้าที่พันไว้ข้างในหลุดรุ่ยร่ายเปิดเผยเรือนกายบางส่วนอย่างน่าหวาดเสียวยามที่เธอขยับรอยแยกของเสื้อเผยอ....เอ้อเฮ้อ........เขาทนดูไม่ได้จึงเอื้อมมือไปปิดให้อย่างทุลักทุเลแต่เหมียวยังดิ้นไม่ยอมอยู่ดี
“ต๊าย !! ตาเถร......” เสียงนางเอียดดังกลบเสียงฝนเป็นผลให้คนที่กำลังยื้อยุดหยุดชะงัก หันมองผู้สูงวัยที่ยกมือทาบอกตาเบิกโตอ้าปากค้างไม่คิดว่าจะมาเจอจัง ๆ อย่างนี้ถึงว่าสิ...เรียกเท่าไหร่ถึงไม่ได้ยิน
