บท
ตั้งค่า

ตอนที่3.ไอ้พวกตัณหากลับ

“โอ้วว ซี๊ดดดดดดด”

ไม่นะ! ไม่ใช่! ไม่จริง! อีตาบ้า ไอ้พวกตัณหากลับ ไอ้...ไอ้... แก! พวกแกทำให้ฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอน ฉันจะแช่งพวกแก!

จารวีได้แต่เดือดดาลทำอะไรไม่ได้ ทิ้งร่างลงนอนอีกครั้งพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงศีรษะ ไม่ซิ! จารวี! ลองคิดดีๆก่อนนะ เธอเป็นผู้ดูแลห้องเช่านี่ เพราะฉะนั้นมันต้องมีอะไรที่ทำได้มากกว่ามานอนด่าสาปแช่งให้เป็นเวรกรรมติดตัวเองไปเปล่าๆ อย่างน้อยเธอต้องทำจดหมายแจ้งเตือน พวกเขาจะได้อับอายที่ส่งเสียง “อย่างว่า” มารบกวนคนอื่นแบบนี้

แล้วจะทำยังไงไม่ให้เขารู้ว่าเธอเป็นคนเดือดร้อนล่ะ จารวีครุ่นคิดฟังเสียงข้างห้องจนผล็อยหลับไปในที่สุด แต่เธอรู้ว่าของแบบนี้มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟันเท่านั้น

เช้าวันรุ่งขึ้น จารวีมั่นใจว่าตัวเองตื่นเช้ากว่าห้องข้างๆ แน่ๆ เธอเอากระดาษที่เขียนด้วยปากกาเมจิกสีแดงไปแล้วเอากระดาษไปติดที่ประตูห้องก่อนที่ตัวเองจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

กัมปนาท สถาปนิกชายหนุ่มวัยยี่สิบแปด ตื่นมาพร้อมกับสดชื่น เขาเพิ่งกลับจากไปคุมงานที่ต่างจังหวัดเมื่อหลายวันก่อน กลับมาก็เจอเลขาฯหน้าห้องของหัวหน้าที่เคยเป็นกิ๊กเก่ามาชวนเล่นเสียวแก้เหงาตามประสา ‘ผัวเผลอแล้วเจอกัน’

“วันนี้เข้าออฟฟิศหรือเปล่า” เลขาฯ สาวหุ่นเร้าใจเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูของเขา แล้วหยิบเสื้อผ้าสวมเหมือนกับอยู่ห้องตัวเอง

“ไม่ล่ะ ได้พัก”

“เหนื่อยขนาดต้องพักเลยหรือคะ”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นแน่ๆ” เขาหัวเราะ “ให้ผมไปส่งไหม?”

“อย่าเลย ไม่อยากถูกจับผิด” เลขาฯคนสวยโน้มหน้าลงจูบแก้มเขาเบาๆ แล้วส่งยิ้มหวาน “เรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”

“เรื่องอะไรเหรอ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง”

เขายิ้มรับมุขของอีกฝ่าย หญิงสาวหัวเราะเดินไปสวมรองเท้าแล้วเปิดประตูห้อง แต่สายตาของเธอมองเห็นแผ่นกระดาษที่ติดหน้าห้องแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงหัวเราะของเธอเรียกชายหนุ่มให้เงยหน้าขึ้นมอง นิ้วเรียวชี้ที่ประตูแล้วเดินจากไป

กัมปนาทหรือเคน ลุกขึ้นมาที่ประตู เขาจ้องมองมันงุนงงแล้วดึงกระดาษแผ่นนั้นออกมาอ่าน ลายมือเหมือนเด็กมัธยมแถมยังมีลายเส้นวาดเป็นรูปหมูพ่นไฟได้

“เรียนท่านเจ้าของห้อง โปรดอย่าส่งเสียงดังเวลากินส้มตำหลังเที่ยงคืน เกรงใจผู้เช่าห้องชั้นเดียวกันด้วยค่ะ”

คราวนี้เขาถึงกับปล่อยเสียงหัวเราะจนตัวงอ ใครหนอแปะไว้หน้าห้องแบบนี้ ก็เข้าใจได้นะเพราะว่าเสียงเลขาฯสาวไม่ได้เบาเลยสักนิด ยิ่งดุเด็ดเผ็ดมันก็ยิ่งเสียงดังไปใหญ่ แต่ไม่คิดว่าจะดังรบกวนห้องอื่น เอ...เท่าที่นึกออก ห้องข้างๆไม่มีคนอยู่นี่นะ แล้วห้องอีกข้างก็เป็นห้องผู้ดูแลอพาร์เม้นต์ แต่...ลายมือแบบเด็กๆ อย่างนี้ไม่น่าจะใช่นี่นะ แล้วใครล่ะ

เขาเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกระดาษแผ่นนั้น จัดการอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปข้างนอก วันนี้ได้หยุดงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอย่างกัมปนาทจะเอาแต่อุดอู้อยู่ในห้องหรอกนะ ชายหนุ่มหยิบเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ชุดทำงาน ใส่ตะกร้าเตรียมหิ้วลงไปร้านซักรีดที่ด้านล่างของตึก แต่ก่อนไป เขาหยิบปากกาเมจิกสีน้ำเงินมาเขียนต่อในกระดาษแผ่นนั้น แล้วเอาไปติดที่หน้าประตูห้องตัวเองตามเดิม

กัมปนาทย้ายมาที่อพาร์เม้นต์นี่ได้ปีเศษๆ เพราะใกล้ที่ทำงาน บ้านของเขาอยู่ชานเมือง ขับรถไปกลับใช้เวลาหลายชั่วโมง ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ออกจากบ้านตีห้า มาถึงที่ทำงานโมงครึ่ง บางวันก็เกือบเก้าโมงพอดี จึงตัดสินใจหาที่พักใกล้ๆ ที่ทำงาน ทำให้เขาได้เวลาพักผ่อนมากขึ้น คราแรกดูห้องพักในคอนโด แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเช่าอยู่หรือเช่าซื้อดี จึงหาอพาร์เม้นตราคาไม่แพงอยู่ไปก่อน ไปๆ มาๆ ก็เคยชินอยู่มานานปีกว่าๆอย่างนี้

ชายหนุ่มหยิบกุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกงยีนแล้วหิ้วตะกร้าผ้าลงมาที่ชั้นล่าง มองผ่านประตูกระจกไม่มีมีใครก็เคาะเรียกด้วยความเคยชิน

“ค่ะ รอเดี๋ยวนะคะ”

เสียงหวานใสดังมาจากด้านหลัง เขาขมวดคิ้วด้วยไม่คุ้นเคย ไม่กี่นาทีต่อมาหญิงสาวในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายจุดขาวก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะ”

“ครับ” เขานิ่งไปครู่หนึ่งเพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

“เอาผ้ามาซักหรือคะ”

“ใช่ครับ”

“เอาเข้ามาเลยค่ะ” หญิงสาวเดินไปเปิดประตูกระจกให้เขาเอาตะกร้าผ้ามาวางด้านใน

“พี่สุไม่อยู่หรือครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel