บท
ตั้งค่า

2 ไม่อยากยอมรับ

เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นเมื่อสอบถามความจริงจากผู้เป็นพ่อแล้วข้อมูลที่ได้รับเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากยอมรับ

“ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมคุณพ่อ แพรแค่หูแว่ว แพรแค่ แพร...” เสียงหวานขาดห่วงในทันที เมื่อผู้เป็นพ่อพยักหน้าตอบรับกับสิ่งที่ตนถามไปเมื่อครู่

“ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วทำไม ทำไมแพรถึง...”

“แพรจำตอนที่แพรรู้สึกตัวขึ้นมาได้รึเปล่า ในวันนั้นคุณพ่อพูดอะไรไปบ้างแพรจำได้ไหม หืม” เสียงทุ้มเอ่ยบอกลูกสาว พร้อมกับลูบหัวเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ดูท่าแล้วหากใช้ไม้แข็งคงจะไม่ยอมรับกันง่าย ๆ คงต้องใช้น้ำเย็นเข้าสู้เท่านั้น

หลังจากประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในชีวิต ทำให้แพรลดาต้องนอนไม่ได้สติถึงสองปี

“เป็นยังไงบ้างครับหมอ” เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยถามคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่กำลังตรวจดูอาการเบื้องต้นของลูกสาวตนอยู่ หลังจากที่ลูกสาวสุดที่รักของเขานั้นพึ่งฟื้นจากความตาย

“โดยรวมแล้วปกติดีครับ” คุณหมอเอ่ยตอบ

“แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไรครับหมอ ลูกผมมีอาการแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่า หมอต้องการเงินเท่าไหร่ ต้องการอะไร หรือต้องส่งตัวยัยแพรไปไหนบอกผมได้เลยนะครับ ขอแค่ยัยแพรปลอดภัย ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น” เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างร้อนรน ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวสุดที่รักคนเดียว ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขาตอนนี้

“ใจเย็น ๆ ก่อนครับคุณวสันต์” คุณหมอพูดบอก ด้วยความเกรงใจหนุ่มใหญ่พ่อเจ้าของคนไข้วีวีไอพีคนนี้ แม้ว่าจะอายุไล่เลี่ยกัน แต่ความน่าเกรงขามและอิทธิพลของอีกฝ่ายนั้นโจษจันไปทั่ว ทั้งในทุกปีหนุ่มใหญ่คนนี้ยังเป็นผู้บริจาคสูงสุดในโรงพยาบาลแห่งนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าผอโรงพยาบาลกำชับแล้วกำชับอีกเลยล่ะ ว่าให้ดูแลคนไข้คนนี้ให้ดีที่สุด เพราะหากมีเรื่องผิดพลาดขึ้นมามันจะต้องส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างแน่นอน

“ว่ายังไงครับ ลูกสาวผมเป็นอะไรกันแน่” เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยถามอีกครั้ง

“อย่างที่ผมเคยแจ้งคุณวสันต์ไป...อุบัติเหตุครั้งนี้รุนแรงมาก ตอนส่งตัวเข้ามารักษาศีรษะคุณแพรก็ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก...”

“คุณพ่อ...” พอได้ยินหมอบอกเล่าอาการ คนที่พึ่งฟื้นจากความตายก็น้ำตาคลอทันที ก่อนจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง เมื่อผู้เป็นพ่อขยับตัวเข้ามาโอบกอดเพื่อปลอบขวัญ แต่หลังจากได้ฟังสิ่งที่หมอพูดแล้วความกลัวที่มีก็เริ่มลดลงขึ้นตามลำดับ เพราะเมื่อเธอลองนึกถึงทุกคนที่มีความสำคัญในชีวิตแล้ว เธอนึกออกทั้งหมด ไม่ได้มีอาการแทรกซ้อน ทำให้เกิดภาวะความทรงจำบางส่วนหายไปอย่างที่หมอบอก

“แพรจำได้แล้วใช่ไหม” เสียงทุ้มของวสันต์พูดดึงสติลูกสาวอีกครั้ง เมื่อลูกสาวดูนิ่งไปหลังจากฟังสิ่งที่เขาพูด

“คุณพ่อจะบอกว่า ความทรงจำบางส่วนที่มันอาจหายไปของแพร...คือเขาหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามผู้เป็นพ่ออีกครั้ง และพ่อก็พยักหน้าตอบเธออีกครั้งเช่นกัน

“คงจะเป็นแบบนั้น แต่ยังไงคงต้องให้หมอตรวจดูให้แน่ใจอีกที”

“แพร มีสามีแล้วจริง ๆ หรอคะ...” เสียงหวานพึมพำออกมาแผ่วเบา เมื่อเธอลองพยายามคิดอีกครั้ง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักที ที่จำได้ราง ๆ มันก็ไม่มีเค้าว่าเธอจะมีสามีเป็นตัวเป็นตนอย่างที่พ่อบอกเลยแม้แต่น้อย

“ใช่ แล้วแพรก็รักพี่เขามากเลยนะ” เสียงทุ้มพูดยืนยัน หากตอนนี้ลูกเขยของเขาอยู่ด้วย มันคงจะดีมากกว่านี้

“แพรนี่นะคะรักเขามาก” นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเองก่อนจะต้องลดลงอย่างเซ็ง ๆ เมื่อผู้เป็นพ่อพยักหน้าตอบรับ

“แพรมีเวลาคิดทั้งวัน ตอนนี้ใกล้เวลางานแล้วพ่อต้องไปทำงานก่อน เที่ยง ๆ พี่เขาคงจะแวะมาหา ถึงตอนนั้นแพรอยากรู้อะไรก็ตามพี่เขาเอาแล้วกัน” วสันต์พูดขึ้นหลังจากก้มมองนาฬิกาเรือนหรูที่ตัวเองสวมใส่อยู่ เนื่องจากตอนนี้เป็นตอนเช้า ซึ่งเขาก็แวะมาเยี่ยมหาลูกสาวก่อนที่จะไปทำงานเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าวันนี้เขามีประชุมเช้า ถึงจะไม่ใช่เรื่องด่วนมากก็ตาม แต่การไปสายมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริหารควรทำเท่าไหร่นัก

“เขาจะมาหรอคะ…”

“คงจะเป็นช่วงเที่ยง ตอนนี้คงทำงานอยู่ แพรมีปัญหาอะไรรึเปล่า” เมื่อเห็นสีหน้าเหมือนไม่อยากเจอสามีของลูกสาววสันต์ก็พูดขึ้น

“แพรไม่อยากเจอเขาค่ะ แพรจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย แพรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร ตั้งแต่แพรรู้สึกตัวขึ้นมา ก็มีแต่คุณพ่อที่เยี่ยมแพร มีแต่ป้าดาวที่มาคอยดูแลแพร ถ้าเขาเป็นสามีแพรจริง ๆ แล้วตลอดเวลาสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาหายไปไหนคะ”

“ทำไมเขาไม่มาเยี่ยมแพรบ้างเลย ทำไมถึงปล่อยให้ภรรยาอยู่คนเดียว…”

“ใครบอกพี่เขาไม่เคยมาเยี่ยมแพร”

“คะ?” ได้ยินผู้เป็นพ่อว่าแบบนั้นดวงตากลมใสก็ฉายแววสงสัยขึ้นมาทันที

“พี่เขามาเยี่ยมแพรทุกวัน ตลอดเวลาที่แพรหมดสติไป จนถึงตอนนี้ไม่มีวันไหนที่พี่เขาไม่ได้มาเยี่ยมแพร”

“ที่แพรไม่เคยเห็นก็เพราะว่าแพรหลับไปแล้ว หรือไม่แพรก็ยังไม่ตื่น…”

“มีแค่เมื่อวานเท่านั้นที่พี่เขามาเยี่ยมแล้วแพรรู้สึกตัวพอดี แพรถึงพึ่งเคยเห็นแล้วคิดว่าพี่เขาพึ่งมาเยี่ยม”

“จริงหรอคะ” พอได้ยินแบบนั้นหัวใจที่ไม่เคยเต้นแรงเพราะใครมาก่อนก็เริ่มไหวสั่นทันที แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนที่มันจะกลับมาเต้นตามจังหวะดังเดิม

“ไว้ลองถามพี่เขาดูตอนเที่ยงแล้วกัน พ่อต้องไปแล้ว”

“แต่แพรไม่อยากคุยกับเขานี่คะ” คนพึ่งหายป่วยพูดไปกำหน้างอไป จนคนเป็นพ่ออดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวเบา ๆ

“เป็นสามีภรรยากันก็ต้องพูดคุยกันสิ แค่แพรจำพี่เขาไม่ได้ พี่เขาก็เสียใจมากแล้ว”

“เอาเป็นว่ามีอะไรก็ค่อย ๆ พูดกันนะ” ว่าจบก็ขยับมือไปลูบศีรษะลูกเสาเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเดินออกไป

“แพรจะรีบรักษาตัวแล้วกลับไปช่วยงานคุณพ่อนะคะ” เสียงหวานว่าให้หลังผู้เป็นพ่อไป เธอจำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งงานที่เธอทำอยู่ งานที่ทำค้างอยู่ตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอก็ยังนึกมันออก...แต่กลับมีสิ่งเดียวที่เธอนึกไม่ออกเลยก็คือเรื่องราวก่อนเกิดอุบัติเหตุ กับเรื่องของเขา...คนที่ใครต่างก็บอกว่าเป็นสามีของเธอ ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสนิทที่เธอส่งข้อความไปเมื่อคืน

“คุณเป็นสามีของฉันจริง ๆ หรอ” หลังจากมองรูปในมือถือ หญิงสาวก็พึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะมีความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว นั่นคือการสืบประวัติของสามีตัวเอง

นิ้วเรียวเริ่มพิมพ์ชื่อสามีที่ได้ข้อมูลมาจากเพื่อนสนิททันที ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะนอกจากสามีของตัวเองจะหน้าตาดีแล้ว โปรไฟล์เขาก็ดีเอามาก ๆ เรียนจบปริญญาโทสามใบ เอกอีกสอง ไหนจะธุรกิจที่ทำอีก เขาเริ่มมันจากศูนย์จนตอนนี้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว

“ฉันมีสามีหล่อขนาดนี้เลยหรอ” ระหว่างที่เลื่อนอ่านประวัติและดูรูปของเขาไปมา ก็เผลอพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว ภาพถ่ายของเขาแต่ละภาพ ไม่ว่าจะมุมเผลอหรือตั้งใจ ต่างก็ดูดีทั้งสิ้น ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว เมื่อกดเข้ามาส่องในอินสตราแกรมของเขาแล้วก็พบรูปที่ตัวเองในมุมที่ถูกแอบถ่ายคาดว่าจะเขาจะเป็นคนถ่ายมัน พร้อมกับแคปชั่นที่ทำให้เธอใจกระตุก

“I am summer yearning for a drop of your rain.”

“ชิห์ เลี่ยนชะมัด”

“ถ้าคิดถึงขนาดนั้น ก็มาหาเลยสิ” พอเห็นประโยคหวาน ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดอะไรออกมา ซึ่งสิ่งที่เธอพูดนั้นก็ทำให้คนที่กำลังเปิดประตูเข้ามาต้องอมยิ้ม

“ก็มาแล้วนี่ไงครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเอาอาหารคาวและหวานที่ตั้งใจซื้อมาฝากคนใกล้หายป่วยไปวางเก็บ

“คะ...คุณ!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel