17 สัญญาว่าจะเป็นเด็กดี
หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว พริษฐ์ก็ยื่นถุงกระดาษช็อปปิ้งคืนให้เธอ
“คุณไปอาบน้ำก่อน ไว้ผมทำกับข้าวเสร็จผมจะเรียก” เมื่อเธอรับถุงจากเขาแล้ว เขาก็พูดบอกเธอ ก่อนจะเดินเอาของที่ซื้อมาไปจัดเก็บไว้ในห้องครัว
ด้านแพรลดา เธอก็เอาของที่ซื้อมาไปเก็บอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินออกมาตามเขาไปยังห้องครัว ไม่ได้อาบน้ำตามที่เขาบอก
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม” เธอพูดบอกคนที่กำลังเก็บอาหารแห้งเข้าชั้นอยู่ ก่อนที่เขาจะหันมามองเธอ
“ผมจำได้ว่าผมบอกให้คุณไปอาบน้ำ” เสียงที่เคยทุ้มเข้มขึ้นเล็กน้อย
“ฉันอยากช่วย ให้ฉันช่วยนะ”
“ไปอาบน้ำ” น้ำเสียงกดต่ำลงไปอีก เหมือนว่าเขากำลังจะดุเธอก็ไม่ปาน
“ขอฉันช่วยคุณทำอาหารนะ นะนะ”
“...” ได้ยินแบบนั้นเขาก็หันกลับมาจัดของต่อ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดขอร้องเขาอีก
“ไหนว่าคุณจะสอนฉันทำอาหารไง นะนะ ให้ฉันช่วยนะ ฉันสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน” ว่าพร้อมกับจับชายเสื้อเขาแล้วเขย่าไปมาเบา ๆ ดวงตากลมใสมองเขาอย่างเว้าวอน
“ถ้าไม่กลัวตัวเหม็นเพราะกลิ่นอาหาร ก็ตามใจคุณแล้วกัน” เขาว่าเสียงเรียบ
ได้ยินแบบนั้นก็ฉีกยิ้มหวานส่งให้เขาทันที เล่นเอาคนมองใจกระตุกในทันทีเช่นกัน ส่วนคนยิ้มก็ไม่ใช่ว่าไม่เต้น การที่เขาพูดแบบนั้นแสดงว่าเขาเป็นห่วงเรื่องกลิ่นอาหาร เขากลัวว่าเธอจะมีกลิ่นอาหารติดตัวแล้วเธอรู้สึกไม่ดี ... ทำไมนะ ทำไมเขาถึงใส่ใจรายละเอียด ๆ เล็ก ๆ ของเธอได้ดีขนาดนี้
“นะ...นี่มัน...กุ้งล็อบสเตอร์นี่” เสียงหวานขาดห้วงในทันที เมื่อช่วยเขาล้างผักไปได้สักพัก แล้วหันเห็นเขากำลังจัดการกับกุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ ใหญ่กว่าที่เธอเห็นที่ห้างซะอีก แถมยังดูสดกว่ามาก ๆ ด้วย
“ทำไมถึงมีกุ้งล็อบสเตอร์ได้ล่ะ ไม่ใช่ว่าตอนนั้นคุณ” พอเห็นสิ่งที่อยากกินก็ทิ้งพักที่ล้างตรงหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปหาเขาทันที ก่อนจะชะเง้อดูจนแน่ใจแล้ว ว่ามันเป็นกุ้งล็อบสเตอร์ที่ตัวเองอยากกินจริง ๆ
ส่วนคนกำลังทำอาหารอย่างตั้งใจเขาเพียงยักไหล่ตอบเธอเท่านั้น
“คุณไปแอบซื้อมาตอนไหน หรือว่าจะเป็นตอนที่ฉันหลับ” เมื่อเขาไม่ยอมตอบเธอก็ถามเขาต่อ
“อื้ม” ว่าจบก็หันตัวหนีเธอไปเตรียมอาหารอย่างอื่นต่อทันที
“ชิห์” เห็นแบบนั้นเธอก็ไม่ได้เดินตามไปพูดกับเขาแล้ว ใบหน้าสวยง้ำงอเดินกลับมาล้างมันฝรั่งที่ตัวเองได้รับมอบหมายต่อ ไม่สิเธอขอเขาทำแค่นั้น เพราะเธอกลัวจะเป็นภาระของเขา ตอนนี้เธอก็เริ่มหิวมากแล้วด้วย จะให้เขาสอนไปทำไป กว่าจะได้กินเธอได้ไส้กิ่วก่อนแน่
ใช้เวลาไม่นานอาหารอิตาเลี่ยนที่เธออยากทานก็แล้วเสร็จ ซึ่งก็มีมันบดกับสปาเกตตี้ล็อบสเตอร์ซอสครีมไข่กุ้ง
“น่ากินจัง” ดวงตากลมสวยเป็นประกายทันที หลังจากที่นั่งมองเขาทำอยู่ครู่หนึ่ง เพราะหลังจากล้างมันฝรั่งเสร็จเขาก็ไม่ได้ให้เธอทำอะไรอีกเลย ปอกเปลือกมันฝรั่งเขาก็เป็นคนทำเอง ทั้งที่เธอบอกว่าเธอทำมันได้เขาก็ไม่ให้เธอทำ เขาบอกว่ากลัวว่าเธอจะถูกมีดบาด เขาเลยเอาไปทำคนเดียวทั้งหมด และพอถูกเขาเป็นห่วงเธอก็ไม่กล้าขัด เลยย้ายตัวเองมานั่งรอเขาที่เก้าอี้บาร์หน้าเคาท์เตอร์ นั่งมองเขาทำอาหารอย่างตั้งใจ เพลินตาสุด ๆ
“ถ้าได้ไวน์ขาวสักแก้วก็คงจะดี...” เสียงหวานพึมพำออกมาเบา ๆ หลังจากมองอาหารตรงหน้า
“กุ้งล็อบสเตอร์ของผมสด และผมก็มีวิธีจัดการ ไม่ต้องพึ่งไวน์ขาวมาดับคาว” เขาตอบอย่างรู้ทัน แต่เขากลับลืมบางอย่างไป
“แต่มันผ่านมาสองเดือนจะสามเดือนแล้วนะ คุณเป็นคนสัญญากับฉันเอง ว่าถ้าผ่านมาสองเดือนคุณจะให้ฉันดื่มได้”
“คุณจะผิดคำสัญญาหรอ”
“ก็ได้ผมยอมแล้ว” สุดท้ายเขาก็ต้องยอมในที่สุดเมื่อเธออ้างคำสัญญานั่นขึ้นมา ด้วยไม่อยากเป็นคนผิดสัญญาให้เสียผู้ใหญ่ แล้วเขาก็จะกลัวเธอเสียความรู้สึกด้วย
“ขอฉันไปด้วยได้รึเปล่า”
“...” เมื่อเขาไม่ตอบอะไรร่างเล็ก ๆ จึงเดินตามเขาไปทันที ก่อนดวงตาจะเป็นประกายกับภาพตรงหน้า เมื่อเขาเปิดตู้เก็บไวน์ของเขา ไวน์แต่ละขวดที่ถูกควบคุมอุณหภูมิไว้อย่างดี ไม่มีทางเสียรสชาติอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีหลายแบบหลายยี่ห้อ จนเธอตาลายไปหมด และมันก็ไม่ได้มีเยอะแค่ปริมาณ แต่ละขวดล้วนเป็นแบรนด์ดัง คุณภาพดีทั้งนั้น
“ขวดนี้ก็แล้วกัน” ว่าจบก็หยิบ Riesling (ริสลิง) Trockenbeerenauslese ออกมา ริสลิงนั้นถือว่าเป็นองุ่นไวน์ขาวที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง ทั้งยังเป็นองุ่นสายพันธุ์หนึ่งที่ถูกปลูกในเยอรมัน ซึ่งแน่นอนว่าเยอรมันนั้นได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งไวน์ขาว และยิ่งถูกนำมาเอจจิ้งด้วยศักยภาพการเอจจิ้งสูงเท่าไหร่ มูลค่าของมันก็จะยิ่งสูงมากขึ้นตามไปด้วย เพราะการเอจจิ้งจะทำให้รสชาติของไวน์นั้นมีความกลมกล่อมมากขึ้น มีโน้ตที่ซับซ้อนมากขึ้น มากกว่าการหมักแบบธรรมดา โดยความซับซ้อนของโน้ตที่ได้นั้นก็คือกลิ่นที่เราได้รับสัมผัสจากการดื่มไวน์นั่นเอง
ส่วนขวดที่เขาหยิบถ้ามามูลค่ามันก็ไม่น้อยเลยทีเดียว หากเธอจำที่พ่อสอนไม่ผิด
เมื่อไวน์ถูกนำออกมาแล้วบานประตูก็ค่อย ๆ ถูกปิดลงช้า ๆ เล่นเอาคนที่มองสำรวจอยู่มองตามบานประตูที่ค่อย ๆ ปิดลงอย่างเสียดาย
อันที่จริงเธอไม่ได้ชอบดื่มแอลกอฮอล์ขนาดนั้น จะมีบางช่วงเท่านั้นที่เธออยากดื่ม อยากดื่มมาก ๆ ถ้าเธอไม่ชวนแก้วออกไปดื่ม เธอก็จะเอาของพ่อมาดื่ม นั่งดื่มที่บ้านคนเดียว บางครั้งพ่อเธอก็มานั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วย พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับไวน์กับเธอ
“สองแก้ว” หลังจากรินไวน์ส่งให้เธอแล้ว เขาก็พูดขึ้นเสียงเรียบ
“สี่ไม่ได้หรอคะ” คนที่กำลังจะยกไวน์ขึ้นจิบต่อรอง กลิ่นแบบนี้เป็นโน้ตแอปลิคอตไม่ผิดแน่ แค่ได้กลิ่นเธอก็คิดถึงรสชาติหวาน ๆ ของมันแล้ว เพราะงั้นสองแก้วคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของเธอ
“ไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”
“ไวน์ขาวสองแก้วทำฉันเมาไม่ได้หรอก นะคุณนะ” ว่าแล้วก็ทำตาปริบ ๆ ส่งให้เขา
“...”
“ฉันสัญญาว่าฉันจะเป็นเด็กดี” เมื่อเห็นเขายังเงียบเธอจึงยื่นข้อเสนอ แต่เธอลืมไปได้อย่างไรว่าเขาเป็นนักธุรกิจ และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยอย่างเขาคงไม่ทำอะไรที่ขาดดุลการค้าแน่ คิดแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง ที่ไปยื่นข้อเสนอแบบนั้นให้กับเขา
“ตกลง” แต่พอได้ยินคำตอบจากเขาก็ตาเป็นประกายทันที... เป็นอย่างที่ยัยแก้ว่าไม่มีผิด ถ้าเธออ้อนเขานิด ทำตัวน่ารักกับเขาหน่อย ไม่ดื้อไม่ซน ไม่ว่าเธอขออะไรเกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จะต้องสำเร็จ
ส่วนคนที่ตอบตกลง แน่นอนว่าเขาคิดมาแล้ว Riesling Trockenbeerenauslese ที่เขาหยิบออกมานั้น ทำมาจากองุ่นที่มีระดับความสุกอยู่ที่ Trockenbeerenauslese เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดขององุ่นที่สุกงอมก็ว่าได้ โดยจะมีลักษณะคล้ายลูกเกด และในการทำไวน์องุ่นลักษณะนี้จะถูกคัดเลือกด้วยมือ ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง
ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็น Riesling Trockenbeerenauslese ราคาจะยิ่งสูงมากขึ้นไปอีก แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่เขาเลือกหยิบมันมา จริงแล้ว ๆ แล้วเขาเลือกเพราะปริมาณแอลกอฮอล์ที่ต่ำมากของมันต่างหาก แม้ว่าไวน์ขาวจะมีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำอยู่แล้วก็ตาม
เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้น หึ
“อยากให้คุณพ่ออยู่ด้วยจัง” พอได้จิบไวน์รสชาติดีก็อดที่จะนึกถึงพ่อไม่ได้ เธอได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับไวน์ก็เพราะพ่อ พ่ออยากให้เธอคอแข็ง พ่อไม่อยากให้เธอถูกใครมาหลอกมอมเหล้า เพราะเธอมักจะได้ออกงานสังคมบ่อย ๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นเหมือนกัน เวลาพ่อสอนเธอเลยตั้งใจมาก ๆ แต่พ่อได้ลิ้มลองแล้วมันกลับติดใจจนอยากจะถอนตัว ยิ่งจิบไวน์รสชาติดี คู่ไปกับอาหารอร่อย ๆ อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ เธอแทบไม่อยากลุกไปไหน อยากนั่งอยู่อย่างนี้ ค่อย ๆ จิบไวน์ไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งคืน
“ขวดนี้คุณพ่อเองก็มี” เหมือนเขาจะรู้ความคิดของเธอ แล้วพูดขึ้น แน่นอนว่าพ่อตาของเขาต้องมี เพราะเขาเป็นคนให้ท่านเองกับมือ
“หืม?” ได้ยินแบบนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันทันที ถ้าคุณพ่อมีจริงอย่างที่เขาพูด ทำไมเธอไม่เคยเห็นมันเลยล่ะ
“ผมให้ท่านตอนที่คุณยังอยู่โรงพยาบาล” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยตอบ ตอนนั้นเขาได้มาจากการไปดูงานที่เยอรมัน เลยให้พ่อตาเป็นของฝาก ถึงแม้จะเป็นของฝากให้พ่อตา แต่ก็เหมือนฝากให้ลูกสาวคนเดียวของบ้านซะมากกว่า เพราะคนที่ชอบไวน์ขาวตัวจริงก็คือเธอไม่ใช่พ่อ ส่วนพ่อตาเขานั้นชอบดื่มไวน์แดงเช่นเดียวกันกับเขา
เขาเชื่อว่าพ่อตาเข้าใจสิ่งที่เขาทำและต้องการจะสื่อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะซื้อแค่ไวน์ขาวมาฝากให้เธอ หลายครั้งที่เขาบินไปดูงานต่างประเทศเขาก็ให้ซื้อไวน์แดงคุณภาพดีมาฝากพ่อตาด้วยเช่นกัน รวมถึงของอื่น ๆ ด้วย
“ถ้าฉันดื่มสี่แก้ว คุณก็ต้องดื่มแค่สี่แก้ว ” คนไม่ยอมเสียเปรียบว่าขึ้น หลังจากดื่มไปได้สักพัก
ระหว่างทานอาหารเธอแอบมองสังเกตเขาอยู่บ่อย ๆ ทำให้เห็นท่าทางให้การยกไวน์ขึ้นดื่มของเขา ซึ่งท่าดื่มไวน์ การจับแก้วไวน์ที่ใช่เพียงสองนิ้ว หรือแม้แต่การหมุนแก้วไวน์ของเขานั้น มองปราดเดียวก็สามารถรู้ได้ในทันที ว่าเขานั้นมีความช่ำชองในการดื่มไวน์มากแค่ไหน ไม่สิตั้งแต่การเทไวน์ลงแก้วของเขาแล้ว การเลือกแก้วให้เหมาะกับไวน์อย่างรีสลิง คือต้องเป็นแก้วทรงสูง เรียว ปากแคบ ซึ่งมันก็เป็นแก้วที่เขาหยิบออกมา อีกทั้งเทคนิคในการรินให้ไวน์ไม่หก การระวังมือในรินเพื่อไม่ให้ไวน์เสียอุณหภูมิจากการสัมผัสขวด
“หึ” ได้ยินแบบนั้นเขาก็หัวเราะน้อย ๆ ในลำคอทันที ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม โดยที่สายตาคมนั้นมองสบกับเธออยู่ไม่ละไปไหน
ส่วนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่มองเขาอยู่ก่อนอยู่ก่อนแล้วนั้น ก็ใจเต้นทันทีกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ แก้มนวลค่อย ๆ ซับสีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเพราะไวน์ที่ดื่มไป หรือเพราะความหล่อและรอยยิ้มร้ายของเขากันแน่
