บท
ตั้งค่า

15 ที่ปรึกษาปัญหาหัวใจ

“เราไม่ต้องรีบเข้าบริษัทกันหรอ” ทันทีที่รถจอดอยู่หน้าร้านอาหารแพรลดาก็ร้องทักเขาในทันที แต่เขากลับหยักไล่ตอบไม่ยอมพูด ก่อนจะลงรถประตูเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ เมื่อเขาไม่ยอมตอบเธอก็เลยต้องลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเธอเองก็หิวเหมือนกัน

อีกทั้งยังไม่กล้าพูดอะไรมาก ด้วยกลัวว่าเขายังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่ เพราะตั้งแต่ออกจากห้างมาเขาก็ไม่พูดไม่จากับเธอเลย นอกจากจะถามว่าเธอโอเคหรือเปล่าที่แม่เขาพูดแบบนั้น แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลย

ให้ตายสิเธอไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้ เธอชอบเวลาที่เขามีรอยยิ้มอบอุ่นให้ ชอบที่เขาคอยถามด้วยความใส่ใจว่าหิวไหม อยากทานอะไร ให้เธอเป็นคนเลือก ให้เธอเป็นคนตัดสินใจ แต่นี่เขากับหักเลี้ยวพวงมาลัยเข้าร้านโดยไม่ถามอะไรเธอสักคำเลย

แต่บ่นในใจให้เขาได้ไม่นานก็ต้องอมยิ้มเมื่อเดินเข้ามาในร้าน บวกกับเมนูอาหารที่เขาสั่งทำให้เธอยิ้มแทบไม่หุบเลย เพราะเธอพึ่งจะพูดบอกเขาในตอนเช้าของเมื่อวานว่าเธออยากกินอาการญี่ปุ่น เธออยากให้เขาพาไปทานตอนเที่ยง

แต่เพราะเมื่อวานดันเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน ทำให้เธอต้องหนีกลับมาบ้าน เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะใส่ใจและจำมันได้ ว่าเธออยากกินมัน แค่เขาพามาที่ร้านนี้เธอก็ประทับใจและรู้สึกดีมากแล้ว พอเขาสั่งแต่เมนูที่เธอ เธอยิ่งรู้สึกว่าใจเธอมันเต้นแรงแปลก ๆ

“เมนูทั้งหมดมีเท่านี้นะคะ” หลังจากอ่านทวนเมนูแล้ว พนักงานสาวก็พูดขึ้น

“ครับ” ว่าจบก็ส่งเมนูคืนให้พนักงานทันที โดยไม่คิดที่จะถามหญิงสาวที่มาด้วยสักคำว่าเธอนั้นอยากสั่งอะไรหรือเปล่า แต่คนที่ไม่ถูกถามกลับไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่เขาทำแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกอย่างที่เธออยากกินนั้นเขาสั่งให้เธอหมดแล้ว และก็มีแต่เมนูที่เธอชอบเท่านั้น จนเธอไม่รู้เลยว่าเขาได้สั่งมาเพื่อตัวเองบ้างหรือเปล่า แต่จะถามก็ไม่กล้า กลัวว่าเขาจะไม่ตอบ แล้วได้รับความเฉยชากลับมา

ระหว่างรออาหาร ด้วยความที่โต๊ะที่เขาและเธอนั่งนั้นค่อนข้างที่จะเป็นมุมส่วนตัว ทำให้ค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงน้ำตกเล็ก ๆ ที่ใช้ตกแต่งร้านเท่านั้นที่ดังอยู่

“บรรยากาศที่นี่ดีจังเลยนะคะ” เป็นแพรลดาที่ทนต่อความเงียบนี้ไม่ไหว เธอจึงพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมามันก็น่าน้อยใจนัก

“อื้ม” พริษฐ์พูดตอบเพียงเท่านั้น ก่อนที่เขาจะยกถ้วยชาขึ้นจิบ แพรลดาที่เห็นแบบนั้นก็ยกชาขึ้นจิบบ้าง แต่เธอไม่คิดว่ามันร้อน ทำให้ต้องรีบวางถ้วยชาทันที ทั้งที่จิบไปแค่ปลายลิ้น

“ร้อน” เสียงหวานกระเส่า พร้อมกับมือบางที่พัดเป่าปากตัวเองอยู่

“ชามันร้อน ต้องค่อย ๆ เป่า แบบนี้” ว่าจบก็หยิบเอาถ้วยชาเธอขึ้นมาเป่าให้ เมื่อเห็นว่ากลุ่มควันจางลงแล้ว เขาจึงส่งถ้วยชาคืนให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณเขา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย วิธีดื่มชาไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ เมื่อกี้นี้เธอมองตามเขาแล้วยกถ้วยชาขึ้นจิบเลย ไม่ทันสังเกตว่ามันร้อนหรือไม่ ทำให้ต้องปล่อยไก่ต่อหน้าเขาอีกแล้ว และเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่เธออยู่ต่อหน้าเขาเธอมักจะทำอะไรผิดพลาดอยู่เสมอ ทั้งที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น เธอก็ทำมันออกมาได้ดี...

“นี่ค่ะ ยำปลาเซลม่อนร้านนี้อร่อยมาก เค้าใส่ตะไคร้ด้วย” เมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว และทานกันไปสักพัก เธอก็ตักอาหารให้เขา ตอบแทนที่เขาเป่าชาให้เมื่อครู่และเป็นการง้อเขากลาย ๆ แต่เขาเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นไม่ได้พูดอะไรกลับมา

พอมันเป็นแบบนั้นเธอจึงหันมาสนใจอาหารตรงหน้าแทน เพราะให้เธอสนใจเขาต่อเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ทั้งชีวิตนี้เธอเคยขอโทษ เคยง้อใครที่ไหนกันล่ะ ที่เธอเข้าหามากขนาดนี้ก็ถือว่าเธอพยายามมากแล้ว อีกอย่างเรื่องเมื่อคืนเธอก็พูดความจริง...เธอไม่ได้โกรธเขาเรื่องแฟนเก่าของเขาสักหน่อย เธอโกรธเขาเรื่องที่เขาพูดกับเธอเรื่องการร่วมงานกับเพื่อนของเขาต่างหาก

แต่พอนึกถึงสิ่งที่เขาพูดแล้วก็รู้สึกวูบโหวงในใจแปลก ๆ

“ผมคงคิดไปเองสินะ เรื่องที่คุณหึงผม”

“ผมคงคิดไปเองสินะ”

“เรื่องที่คุณหึงผม...” น้ำเสียงเขาในตอนนั้นมันดูเจ็บปวดมาก ๆ มันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่อยู่โรงพยาบาล ในตอนนั้นที่เธอปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่สามี ปฏิเสธทุกคำพูดที่เขาพูดแม้ว่าเขาจะมีหลักฐาน ในตอนนั้นแววตาเขาก็ดูเจ็บปวด... ยิ่งนึก เธอก็ยิ่งรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาที่หัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ ว่าทำไมเธอต้องรู้สึกปวดใจกับสิ่งที่เขาเป็นด้วย

เพราะมัวแต่เหม่อคิดเรื่องของเขา ทำให้ไม่ทันเห็นว่าเขาคีบอาหารมาให้ตัวเอง รู้ตัวอีกทีในจานที่เคยว่างก็มีกุ้งหวาน ปูทาระบะ และเนื้อปลาซันมะย่างวางอยู่แล้ว

“ขอบคุณนะ...คะ” เธอพูดขอบคุณเขาเสียงหวานโดยที่สายตานั้นคอยมองปฏิกิริยาที่เขาโต้ตอบกลับมา แต่พอเห็นเขาพยักหน้ารับเหมือนอย่างเคย เธอก็ก้มหน้าทานอาหารต่อทันที ไว้ค่อยไปปรึกษายัยแก้วเอาก็แล้วกัน ว่าการง้อใครสักคนมันต้องทำยังไง...

เพราะเธอไม่ชอบเลยที่เขาเป็นแบบนี้ แม้ว่าเขาจะดูแลใส่ใจเธอ แต่มันก็ยังมีความเฉยชาอยู่ แน่นอนว่าเธอไม่อยากได้ความเฉยชาจากเขา เธออยากได้เขาคนเก่าที่คอยส่งยิ้มให้ แม้ว่าบางครั้งมันจะเป็นรอยยิ้มร้าย ปนเจ้าเล่ห์เวลาเขาแกล้งเธอก็ตาม

“วันนี้ฉันไม่กลับด้วยนะคะ” เสียงหวานดังขึ้นทำลายความเงียบของห้องทำงาน ปากกาที่กำลังเซ็นเอกสารหยุดชะงัก พร้อมกับคนเซ็นที่หันไปมองต้นเสียง

“?”

“ฉันนัดกับเพื่อนไว้” หากเป็นสถานการณ์ปกติเธอคงพูดไปแล้วว่า “ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน” แต่เพราะตอนนี้มันไม่ปกติ ทำให้เธอเลือกตอบเขาไปตามความจริง เพราะแค่นี้วันทั้งวันเขาก็แทบไม่พูดอะไรกับเธออยู่แล้ว นอกจากเรื่องงาน

“ไปยังไง”

“คงจะนั่งแท็กซี่ไป”

“เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้ ลำบากคุณเปล่า ๆ”

“การดูแลคุณมันไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับผม มันคือส่งที่ผมอยากทำ และทุกครั้งที่ทำ ผมก็ทำมันด้วยความเต็มใจ” ดวงตาคมสบเข้ากับดวงตากลมสวยอย่างสื่อความหมายทันที ก่อนจะเป็นเธอที่หลบสายตาเขาไปก่อน

“ค คุณ...”

“คุณนัดเพื่อนไว้กี่โมง”

“ห้าโมง”

“ที่ไหน”

“ร้านกาแฟแถวบริษัทน้องชายคุณ”

“บริษัทน้องชายผม?”

“ใช่ ก็เพื่อนฉันปักหมุดไว้ที่นั่นนี่นา”

“ไม่เชื่อคุณก็ดูสิ” ว่าพร้อมกับลุกจากที่นั่งแล้วเดินเอาโทรศัพท์ไปให้เขาดู ซึ่งพอเขาได้ดูแล้วก็พบว่ามันอยู่ใกล้บริษัทของน้องชายเขาอย่างที่เธอว่าจริง ๆ

“แล้วเพื่อนของคุณทำงานที่บริษัทของน้องชายผมด้วยรึเปล่า”

“ใช่ คุณรู้ได้ยังไง”

“หึ” ได้ยินแบบนั้นเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากทันที

“ยิ้มอะไรของคุณ”

“เปล่าไม่มีอะไร ผมขอเซ็นเอกสารกองนี้เสร็จก่อน แล้วผมจะไปส่งคุณ คุณเก็บของรอได้เลย” เขารีบพูดตัดบทในทันที ก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ

ในการจัดการเอกสารนั้นใช้เวลาไม่นาน หลังจากจัดการเอกสารเสร็จเขาก็มาส่งเธอตามที่พูดไว้ และเพราะเพื่อนของเธอยังไม่มาเขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอก่อน

จากที่คิดว่าเขาหายน้อยใจยอมพูดด้วย เพราะตอนที่เธอว่ามีนัดกับเพื่อนนั้นเขายอมพูดกับเธอ แต่ก็ต้องคิดผิด เมื่อเขาก็ยังคงเป็นเหมือนทำ เอาแต่ทำอะไรเพื่อเธอ โดยไม่พูดไม่จาอะไรเหมือนเดิม เช่นการที่เขานั่งเป็นเพื่อนเธอรอยัยแก้วอยู่ตอนนี้ ก็คงเพราะเขาไม่อยากให้เธอนั่งอยู่คนเดียว เขาเลยนั่งเป็นเพื่อนเธอ นั่งเป็นเพื่อนโดยไม่พูดไม่จาอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย

ไม่ต่างจากตอนนั่งรถมาส่งเลยสักนิดเดียว เห้อ เมื่อไหร่เขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักที แค่เธอบอกว่าเธอไม่ได้หึงเขากับแฟนเก่ามันทำให้เขาเสียใจมากขนาดนั้นเลยหรอ

นั่งรอสักพักก็ได้รับข้อความจากเพื่อนสาวคนสนิทว่าใกล้ถึงแล้ว เธอจึงพูดบอกเขา ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตสีดำให้เธอ

“คะ?” อยู่ ๆ เขาก็ยื่นมันให้ ทำให้เธออดที่จะงงไม่ได้

“เอาไว้ใช้”

“ฉันมีของฉันแล้ว” แน่นอนว่าบัตรที่เขายื่นให้เธอก็มีมัน อย่าลืมว่าเธอเป็นลูกใคร แถมยังเป็นลูกคนเดียวอีกด้วย

“...” ได้ยินแบบนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่วางบัตรเครดิตไว้บนโต๊ะเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปทันที ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ แก้วนั้นเดินสวนเข้ามา

“นั่นพี่ควินจะไปไหนน่ะ ทำไมดูรีบ ๆ จัง” เสียงแก้วว่าขึ้นระหว่างถอดกระเป๋าแล้วหย่อนตัวลงนั่ง

“ไม่รู้สิ” แพรลดายักไหล่ตอบ พร้อมกับสีหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

“แต่แกเป็นภรรยาพี่เขาน่ะยัยแพร แกจะไม่รู้ได้ไง”

“ก็เขาไม่ได้บอกฉันนี่”

“ไม่บอกแกก็ถามเขาสิ”

“ไม่เอาอะ เดี๋ยวเขาจะหาว่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา อีกอย่างตอนนี้แค่เขาพูดด้วยกับฉันก็ดีมากแล้ว อย่าให้เขาต้องฉันเพิ่ม เพราะไปยุ่งเรื่องของเขาเลย”

“แกนี่นะ” ได้ยินเพื่อนสาวพูดมาแบบนั้น แก้วก็ได้แต่ส่ายหัว

“แล้ว...หืม?” ยังไม่ทันที่จะถาม แต่ดวงตากลมก็ปะทะเข้ากับบัตรสีดำบนโต๊ะ

“แกวางบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดไว้แบบนี้หรอยัยแพร ฉันจะตีให้” มือบางหยิบบัตรขึ้นมา ก่อนจะใช้มันตีเบา ๆ ที่ต้นแขนเพื่อนสนิท อย่างที่พูด

“มาตีฉันทำไมเนี่ย มันไม่ใช่บัตรฉัน”

“ฉันขอโทษ...บัตรลูกค้าคนก่อนหรอ” ได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นก็รีบชักบัตรกลับทันที เพราะเท่ากับว่าเมื่อกี้เธอตีเพื่อนทั้งที่เพื่อนไม่ผิด แต่พอถามเพิ่ม แพรลดากลับส่ายหน้าน้อย ๆ เป็นคำตอบ นั่นก็ทำเธองงมากขึ้นไปอีก ไม่ใช่บัตรเพื่อนเธอ ไม่ใช่บัตรลูกค้าคนก่อน แล้วเป็นบัตรของใครกัน...ใครกันที่จะมาลืมบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดที่ร้านกาแฟแบบนี้

“ไม่ใช่ของลูกค้าคนก่อน ไม่ใช่ของแก แล้วของใคร...”

“อย่าบอกนะว่า” อยู่ ๆ ก็มีหน้าของคนที่พึ่งเดินสวนกันไปแวบเข้ามาในหัวทันที

“อื้ม เขาวางไว้เพราะฉันไม่ยอมรับไว้”

“ยัยแพร!”

“อะไรของแกยัยแก้ว แกจะพูดเสียงดังทำไม” ว่าพร้อมกันหันไปก้มหัวขอโทษคนที่นั่งโต๊ะบริเวณใกล้เคียง เช่นเดียวกับแก้วที่รู้ตัวว่าตัวเองเสียงดังไปเธอก็หันไปก้มหัวขอโทษทุกคนเช่นกัน

“พี่ควินทิ้งบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดไว้ให้แก แล้วแกไม่รับ”

“ใช่”

“นี่ยัยแพร ไม่มีคนโกรธกันที่ไหนเขาทิ้งบัตรไว้ให้แบบนี้หรอกนะ ฉันว่าเขาจะโกรธแกเพราะแกไม่รับบัตรจากเขาต่างหาก”

“บัตรฉันก็มี ฉันไม่อยากรบกวนเขานี่นา”

“มันไม่ใช่การรบกวน แต่เป็นเพราะเขาอยากดูแลเรา นี่แกนอนเป็นผักอยู่โรงพยาบาลนานเกินไปใช่ไหม ตื่นมาถึงได้ไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้”

“ยัยแก้ว ฉันมาปรึกษาแกนะ ไม่ใช่ให้แกมาด่าฉัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel