10 ต้นเหตุจากตัวเอง
“คะ คุณจะทำอะไร...” แพรลดาร้องถามเสียงสั่น เพราะนอกจากเขาจะวางเธอลงแล้ว เขายังโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ อีก ทำให้เธอต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น
“ตัวก็ไม่ร้อน” เสียงทุ้มว่าขึ้นหลังจากที่ฝ่ามือหนาวางทาบไว้บนหน้าผากมนของคนตรงหน้า
“จะร้อนได้ยังไง ก็ฉันไม่ได้เป็นไข้”
“แต่หน้าคุณแดง หึ”
“น่ะ หน้าฉันแดงหรอ...เพราะอากาศมันร้อนต่างห่าง”
“ร้อนหรอ?” หลังจากฟังคนตัวเล็กพูดจบ สายตาเหยี่ยวก็หันมองเครื่องปรับอากาศทันที ก่อนจะเห็นว่ามันแสดงอุณหภูมิสิบเก้าองศา
“ค่ะร้อน ขอเย็นกว่านี้ได้ไหมคะ” ว่าพร้อมกับสลับเสื้อคลุมนอนของตัวเองเบา ๆ
“งั้นผมขอดูแผลให้คุณก่อน เดี๋ยวผมจะปรับให้” ว่าจบก็ก้าวถอยออกไป ก่อนจะกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับกล่องยาในมือ
“ถ้าเจ็บบอกผมนะ” ตัวยาถูกบีบออกจากหลอดไว้บนนิ้วเรียว ก่อนจะค่อย ๆ ถูกทาลงบนผิวเนียนนุ่มของคนตัวเล็ก โดยที่ขานั้นเขาวางน้ำแข็งประคบให้เธออยู่
“อา” นอกจากจะไม่เจ็บแล้วยังรู้สึกดีมาก ๆ อีกด้วย ทำให้เธอเผลอครางฮึมออกมาเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เพราะเขานั้นมือเบาสุด ๆ จนเธอไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย
และก็ถือเป็นโชคดีของเธอด้วยที่วันนี้เธอเลือกใส่เสื้อยืดสายเดี่ยวกับกางเกงนอนแทนที่จะใส่ชุดนอนสายเดี่ยวอย่างที่ชอบ ทำให้เขาเลิกเสื้อเธอขึ้นและทายาได้ง่าย ถึงเธอจะเป็นสาวมั่นชอบแต่งตัวเซ็กซี่ แต่พอมาอยู่ต่อหน้า ถูกเขาเลิกเสื้อขึ้นน้อย ๆ เพื่อทายาให้แบบนี้มันก็อดรู้สึกอายไม่ได้
“เสร็จแล้วครับ” เห็นเธอมองตามมือ เมื่อเขากำลังเก็บหลอดยาเข้าที่ พริษฐ์จึงพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้ ดูเธอจะชอบที่เขาทายาให้
“งั้นฉันจะนอนแล้ว คุณก็ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว”
“ครับ”
“แล้ววันหลังคุณก็ควรจะถอดเสื้อผ้าในห้องน้ำ ไม่ใช่ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่ผ้าขนหนูแบบนั้น”
“อีกอย่างฉันก็อยู่ในห้อง คุณไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว”
“ทำไม...คุณเขินหรอ”
“ใครจะไปเขิน ของพวกนี้ฉันเห็นจนชินแล้ว” ว่าจบก็ล้มตัวลงนอนทันที ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นคลุมตัว
“หึ”
คนที่บอกว่าตัวเองไม่เขินนั้นพอเดินออกไป ก็ยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเอง แล้วนึกไปถึงสิ่งที่เขาเคยพูด
“แก้มเราแดงขนาดนั้นเลยหรอ”
ทั้งที่แอร์ถูกปรับอุณหภูมิลงถึงสิบหกองศา แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกับเหงื่อแตกพลั่ก ตอบกรอบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าสวยส่ายไปมาราวกับว่าตัวเองนั้นกำลังตกอยู่ในฝันร้าย
“ทำไมคุณแม่พูดแบบนี้คะ”
“คุณแม่”
“ไม่นะ! ไม่” เสียงพึมพำของแพรลดาทำให้พริษฐ์ที่นอนอยู่ข้างเตียงรีบตื่นมาดูด้วยความเป็นห่วงทันที เขาเรียกเธอเพื่อให้ได้สติ แต่เธอก็ไม่ยอมรู้สึกตัวขึ้นมา
“คุณ คุณได้ยินผมรึเปล่า” มือหนาตบเบา ๆ ที่แก้มนวลเพื่อเรียกสติเธออีกครั้ง
“แพร ได้ยินพี่รึเปล่า ลูกแพร์”
“เฮือก!” ร่างเล็กสั่นทึ่มไปด้วยความกลัวโผเข้ากอดคนตรงหน้าทันที
“ฉันกลัว...”
“ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว ผมจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณอีกแล้ว” ว่าพร้อมกับลูกหลังเธอเบา ๆ เพื่อปลอบโยน เขาทำแบบนั้นกว่าเธอจะสงบลง แต่การสงบลงของเธอนั้นก็ต้องทำให้เขาอมยิ้มออกมา เมื่อเธอหลับคาอกเขาไปเสียอย่างนั้น จะแกะมือเธอออกก็ไม่ได้ เพราะเธอกำไว้เสียแน่น เลยได้แต่ประคองเธอลงนอนไปด้วยกัน
ด้านคนที่พึ่งตื่นจากฝันร้าย จากทีแรกที่กำเสื้อเขาไว้แน่น ก็เปลี่ยนมากอดเขาแทน ใบหน้าหวานขยับเข้าหาอกแกร่งที่ซุกแล้วรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นของเขา
“ลงมากันแล้วสินะ”
“สวัสดีค่ะคุณลุง...คุณพ่อ”
“ไหว้พระเถอะลูก แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ไม่ใช่ว่าถูกพี่เขาแกล้งนะ”
“มะไม่มีอะไรค่ะ” แพรลดาพูดตอบก่อนจะหันมองไปยังคนที่เดินตามมาเล็กน้อย
“แพรแค่คิดเรื่องงานนิดหน่อย” อันที่จริงก็อยากจะฟ้องพ่อสามีอยู่หรอกแต่พอนึกถึงเหตุการณ์ตอนเช้าอย่างละเอียด ๆ แล้ว ถ้าพูดไปเป็นเธอมากกว่าที่จะเสีย เพราะเมื่อเช้านี้...
“หือออ ป้าส้มขา แพรของีบต่ออีกสักหน่อยนะคะ กำลังหลับสบายเลย”
“ตื่นได้แล้วครับ สายแล้ว”
“อื้อ ไม่สายค่ะ ถ้าป้าส้มทำแซนด์วิชให้แพรไปกินบนรถ...” ว่าพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เพราะยิ่งแน่นเธอก็ยิ่งรู้สึกอุ่น แม่ว่าอากาศรอบตัวจะหนาว แต่สิ่งที่เธอกำลังกอดอยู่นี้มันอบอุ่นสุด ๆ
“รักป้าส้มที่สุด” เมื่อเสียงปลุกและการเขย่าตัวนั้นเงียบไปเธอจึงบอกขอบคุณ แต่ได้หลับไม่ทันก็ต้องสะดุ้ง เมื่ออยู่ ๆ ตัวเองก็ถูกอุ้มลอยหวืออยู่กลางอากาศ ก่อนที่เขาจะพาเธอไปยังห้องแต่งตัว เท่านั้นแหละเธอก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าที่เธอกอดที่เธออ้อนไปนั้นไม่ใช่ป้าส้มอย่างที่คิด แต่เป็นเขา...เป็นเขามาตั้งแต่แรก
คิดแล้วก็ยังหงุดหงิดไม่หาย ที่ไปอ้อน ไปกอดเขาก่อนแบบนั้น แน่นอนว่าเหตุผลแค่นี้มันไม่ทำให้เธอหงุดหงิด ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเองที่บอกให้เขาลดอุณหภูมิแอร์ลง เธอถึงได้หนาวจนเป็นฝ่ายกอดเขาแน่นแบบนั้น สุดท้ายแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมาจากตัวเธอเองทั้งหมดที่เป็นต้นเหตุ
แล้วแบบนี้เธอจะมีหน้าไปฟ้องพ่อเขาได้อย่างไร
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วลูก มา ๆ มากินข้าวกัน”
“มาอยู่บ้านวันแรกก็ตื่นสายแล้ว แบบนี้จะทำอะไรได้กิน เหอะ” กึก เสียงที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังเดินนำสามีมาอยู่ชะงักฝีเท้าทันที ก่อนจะต้องหันมองไปด้านข้างเมื่ออยู่ ๆ เขาก็ดึงมือเธอไปกุม
“พอดีเมื่อคืนน้องไม่สบาย หน้ามืดในห้องน้ำ ถ้าคุณแม่จะว่าก็ว่าผมเถอะครับที่ไม่ดูแลน้องให้ดี”
“ปกป้องกันดีจริง ๆ” พูดทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก็เดินนำไปยังห้องอาหารทันที
“อย่าไปถือสาคุณแม่เขาเลยนะลูก คนเข้าวัยทองก็แบบนี้”
“คิก ๆ” ได้ยินพ่อสามีพูดมาแบบนั้นแพรลดาก็หลุดหัวเราะทันที ส่วนพริษฐ์เขาเพียงอมยิ้มเท่านั้น และก็ไม่ได้อมยิ้มเพราะคำพูดของพ่อ แต่อมยิ้มเพราะท่าทางของเธอต่างหาก
“ค่ะคุณพ่อ”
“เมื่อกี้เจ้าควินบอกว่าหนูแพรหกล้ม ตอนนี้ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ จะให้แพรวิ่งก็ยังไหวค่ะคุณพ่อ” น้ำเสียงสดใสเอ่ยตอบพ่อของสามีเพื่อไม่ให้ท่านเป็นกังวล
“หึ”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูก ไป ๆ ไปทานข้าวกัน”
เป็นอีกครั้งที่โต๊ะอาหารบรรยากาศไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เพราะมีหนึ่งคนที่ไม่ชอบการมาของสมาชิกใหม่ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะเธอก็อยากให้ลูกชายอยู่บ้าน
“วันนี้ควินจะย้ายกลับมาอยู่บ้านเราเลยรึเปล่าลูก”
“คงต้องถามน้องก่อนครับแม่” ว่าจบก็หันมองหญิงสาวข้างกายเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดก็มีเพียงเขา พ่อและแม่ เท่านั้นที่เข้าใจ
“น้องพึ่งออกจากโรงพยาบาลผมอยากให้น้องค่อย ๆ ปรับตัวไป”
“อย่านานนักก็แล้วกัน”
“แม่ครับ”
“ส่วนเธอก็รีบ ๆ ปรับตัว ที่ทำงานของลูกชายฉันห่างจากบ้านของเธอมาก บ้านฉันเองก็ด้วย ฉันไม่อยากให้ลูกไป ๆ มา ๆ มันอันตราย”
“ถ้าอย่างนั้นให้พี่ควินกลับมานอนบ้านก็ได้ค่ะ ไว้แพรปรับตัวได้เมื่อไหร่แพรจะตามมาอยู่ด้วย”
“หนูแพร” ทองเอกพูดขึ้นบ้าง
“แยกกันอยู่แบบนั้นพ่อว่าไม่ดีเท่าไหร่นะหนูแพร” เป็นอย่างที่เพื่อนรักของเขาและลูกชายพูดไว้ไม่มีผิด ถ้ามีโอกาสแพรลดาจะขอแยกตัวออกห่างจากลูกชายเขาเสมอ แล้วภรรยาของเขาก็ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นซึ่งก็เข้าทางแพรลดา
“ถ้าลูกสะใภ้คุณอยากอยู่ คุณจะไปบังคับเธอทำไม จริงไหมจ๊ะหนูแพร”
“คุณหญิงก็รู้ว่าแต่งงานกันแล้ว การแยกกันอยู่แยกกันนอนแบบนี้มันไม่ดี”
“เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนอะไรเลย แล้วคุณจะเดือดร้อนอะไรด้วย”
“คุณพ่อคุณแม่อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ....แพรตัดสินใจแล้วค่ะ” สิ่งที่เธอพูดทำให้คนตั้งโต๊ะหันมองเธอเป็นตาเดียว มีเพียงพริษฐ์เท่านั้นที่เพียงเบนสายตามอง
“แพรอยู่กับพี่ควินที่นี่ก็ได้” ว่าจบก็ส่งยิ้มกว้างให้คนข้าง ๆ แล้วหันไปส่งยิ้มให้แม่สามีบ้าง อยากจะกันเธอออกจากเขามากใช่ไหม เธอก็จะเข้าใกล้เข้าให้มาก ๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะไหลตามน้ำ หรือไม่ถ้าแม่สามีรั้งเธอให้อยู่มากกว่านี้อีกสักหน่อยเธอก็จะไปให้ แต่ใครใช้ให้มาขัดขาเธอตั้งแต่เช้ากันล่ะ รู้จักแพรลดาน้อยไปซะแล้ว หวงลูกชายมากใช่ไหม ไม่ชอบเธอใช่ไหม ได้ค่ะคุณแม่ ลูกสะใภ้คนนี้จะแสดงให้คุณแม่ดูว่า เธอไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะให้แม่ผัวมาจิกกัดได้ง่าย ๆ
กำลังจะยิ้มในใจอย่างมีชัยกลับถูกคนที่นั่งข้าง ๆ ขัดเสียอย่างนั้น สิ่งที่เขาพูดทำเธอต้องหัดขวับไปมองทันที
“ถ้าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องการเดินทางเดี๋ยวผมกับน้องไปนอนคอนโดกันก็ได้ครับ”
“ไว้เสาร์อาทิตย์ผมจะพาน้องมาทานข้าวที่นี่”
“พ่อเห็นด้วย” ทองเอกพูดขึ้น พร้อมกับมองสบตาลูกชาย การที่ไปนอนคอนโดกันแบบนั้นมันก็ดีเหมือนกัน จะได้ให้ทั้งคู่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเรียนรู้กันมากขึ้น อีกอย่างถ้าอยู่ที่นี่ลูกสะใภ้ของเขาไม่วายโดนจิกกัดจากภรรยาของเขาไม่เว้นแต่ละวันแน่ ซึ่งเขาคิดว่าลูกชายเขาก็คงจะคิดแบบเดียวกัน
ส่วนละไมนั้นก็ได้แต่เงียบ เพราะคอนโดที่ลูกชายพูดถึงนั้นมันใกล้บริษัทของลูกชายกว่าที่บ้านมาก เดินทางก็สะดวกกว่า ทำให้เธอต้องยอมอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเธอเป็นคนเปิดประเด็นไปเองว่าบ้านแพรลดานั้นไกล จะให้กลับคำ ก็กลัวจะเสียหน้า
“คะ คอนโดหรอคะ” เมื่อได้ยินสิ่งที่สามีและพ่อของสามีพูดคุยกัน แพรลดาก็เริ่มนั่งไม่ติดทันที เพราะถ้าไปอยู่คอนโดแสดงว่าเธอกับเขาจะต้องอยู่กันสองต่อสอง สู้เธออยู่จิกกัดกับแม่สามีที่นี่ยังดีซะกว่าอีก ไม่นะมันต้องไม่จบลงแบบนี้
“ทำไมหรอ หนูแพรมีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“คะ คือ ว่าแพรรู้สึกว่าการอยู่บ้านมันอบอุ่นมากกว่าน่ะค่ะ...” ยังไม่ทันที่จะพูดจบเสียงแม่สามีก็ดังขัดขึ้นอีกครั้ง
“เหอะ เรื่องมาก”
“คุณหญิง” เป็นอีกครั้งที่คุณทองเอกต้องเอ่ยปรามภรรยา
“อย่าไปว่าคุณแม่เลยค่ะ แพรเรื่องมากอย่างที่คุณแม่ว่าจริง ๆ ” ว่าพร้อมกับทำตาปริบ น้ำเสียงหงอย ๆ ให้ตัวเองดูน่าสงสาร
“จริงสิ ไม่ใช่ว่ามีบ้าน...”
“ตกลงตามนี้ครับคุณพ่อ ผมกับน้องจะย้ายไปอยู่คอนโดกัน” เสียงเข้มของพริษฐ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่ดังขึ้น เมื่อพ่อกำลังพูดอะไรบางอย่างออกมา ซึ่งมันยังไม่ถึงเวลานั้น
ซึ่งสิ่งที่เขาพูดนั้นก็เหมือนเป็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมด จึงไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก แพรลดาก็ได้แต่นั่งกินข้าวไปเจ็บใจไป เธออุตส่าห์ยื่นข้อเสนอให้เขาได้อยู่บ้านกับแม่แล้ว แต่แม่สามีเธอกลับพูดมาแบบนั้น คงจะเอาคืนเธอบ้าง แต่เธอก็ไม่คิดว่าคุณแม่จะเล่นเอาคืนไวขนาดนี้ คิดแล้วก็ได้แต่นั่งก่นด่าตัวเองในใจ
