บทที่ 1 ยักษ์แบก (1)
แสงแดดเจิดจ้ายามสายลูบไล้วัดเล็ก ๆ กลางใจเมืองให้คล้ายเป็นสีทอง นี่คือภาพที่ผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกนี้คุ้นตา นอกจากความสงบร่มเย็นแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมพากันมาไหว้พระเพื่อขอพร
คณะทัวร์มักแวะเวียนมาที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ สายวันนี้ก็เช่นกัน พอรถตู้จอดที่หน้าประตูวัด เหล่านักท่องเที่ยวก็พากันลงจากรถ เมื่อก้าวผ่านซุ้มประตู เหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติก็พากันทำตาหยีเมื่อเงยหน้ามองพระปรางค์สีทองห้ายอดซึ่งอวดลวดลายศิลปะสถาปัตยกรรมไทยอันงดงาม และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
หลายคนพร้อมใจหยิบโทรศัพท์มือถือ หรือไม่ก็กล้องดิจิตอลขึ้นมาเก็บบันทึกภาพความงามโดยมีมัคคุเทศก์สาวคอยอธิบายและให้ข้อมูล
สำหรับ ‘แก้วศิลา’ มัคคุเทศก์สาวซึ่งกำลังพาลูกทัวร์เที่ยวชมวัดแห่งนี้ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใด เพราะเธอมาที่วัดแห่งนี้บ่อยครั้ง แม้ก่อนหน้าทางวัดจะทำการบูรณะซ่อมแซมพระปรางค์เพราะถูกพายุและฟ้าผ่ายอดพระปรางค์
หลังจากการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ ทางวัดก็กลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว พระปรางค์สีทองก็กลับมาเรืองรองเหลืองอร่ามอีกครั้ง
แม้หลายสิ่งจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยก็คือ ‘ยักษ์แบก’ แก้วศิลาอมยิ้มเมื่อเห็นภาพหมู่ยักษ์ที่ทำท่าแบก จะผ่านไปกี่ปีบรรดายักษ์ก็ยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ซ้ำยังต้องมายืนแบกพระปรางค์ตากแดดตากฝนอยู่แบบนั้น
สมัยเด็ก ๆ เธอเคยสงสัยและสงสาร สงสารที่ยักษ์เหล่านี้ต้องมาแบกของหนัก และสงสัยว่าทำไมต้องเป็นยักษ์ ตอนนี้เธอได้คำตอบในใจแล้ว
ยักษ์แข็งแรง ต้องแบกของหนักได้สิ!
แก้วศิลาพาลูกทัวร์เข้าชมภายในวัด ตามจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจจากนั้นก็นัดเวลากลับขึ้นรถ ระหว่างรอลูกทัวร์ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หญิงสาวก็เดินไปหยุดอยู่หน้าประตูทิศเหนือของพระปรางค์สีทอง
จำได้ตอนเป็นเด็ก เธอเคยเห็นยักษ์แบกตนหนึ่งรูปร่างใหญ่โต ตัวสีแดง หน้าตาละม้ายคล้ายทศกัณฐ์ในเรื่องรามเกียรติ์ ทำหน้าอมทุกข์เหมือนซดน้ำร้อนเข้าไปยืนแบกพระปรางค์อยู่ทางเข้า
เนื่องจากยักษ์แบกตนนี้การแต่งกายที่แปลกออกไปจากหมู่ยักษ์ เธอจึงถามคุณครูที่พามา ก็ได้คำตอบว่ายักษ์ตนนี้เป็นยักษ์ยอดที่เปรียบเสมือนแม่ทัพที่ออกหน้าแทนลูกน้อง ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจหรอกว่าอะไรคือยักษ์ยอด พอโตขึ้นได้ศึกษาเพิ่มเติมถึงเข้าใจมากขึ้น
สถาปัตยกรรมตามวัดมักจะสร้างตามประเพณีความเชื่อ บางแห่งก็สื่อไปที่สัญลักษณ์ตามคติจักรวาล มียักษ์ เทวดา นาค และคนธรรพ์ซึ่งเป็นผู้ดูแลปกป้องพระพุทธศาสนา
ซึ่งพระปรางค์ห้ายอดที่วัดแห่งนี้มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่และเปิดให้ผู้คนกราบไหว้ ดังนั้นทางวัดจึงสร้างรูปปั้นยักษ์ขึ้นมาเพื่อเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องของสำคัญทางศาสนา
ปริศนาที่เธอสงสัยจึงคลี่คลายไป
พอมาถึงประตูทางทิศเหนือแก้วศิลาก็นิ่วหน้า ตอนนี้ ‘พี่ยักษ์ซดน้ำร้อน’ ที่เธอแอบตั้งฉายาให้ได้หายไปจากประตูแล้ว หายไปได้ไงไม่อาจรู้ได้ แต่ถ้าให้เดาเธอเดาว่ามีการบูรณะซ่อมแซมพระปรางค์ครั้งใหญ่เพราะพายุพัดถล่มจึงทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป
ไม่ใช่แค่ยักษ์ซดน้ำร้อนที่หายไป แม้แต่ต้นสัตบรรณขนาดใหญ่ก็ถูกตัดไปด้วยเช่นกัน
ขณะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับยักษ์แบกที่หายไป แก้วศิลาก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง ย้ายสายตาจากประตูทางเข้าไปยังภายในพระปรางค์เธอก็สบตากับชายผู้หนึ่งเข้า
การแต่งกายของคนผู้นี้ไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไป เขาไม่สวมเสื้อ แต่สวมสังวาลสีเงิน หน้าผากมีรัดเกล้าสีเงิน ตรงกลางมีอัญมณีสีแดงเม็ดใหญ่ติดอยู่ ที่เอวคาดเข็มขัดเงินเส้นโตสีเงินมีอัญมณีสีเดียวกับรัดเกล้า และนุ่งโจงกระเบนสีเงิน สวมกำไลสีเงินทั้งข้อมือและข้อเท้า
