ตอนที่ 5 ไอ้คนงี่เง่า
"หูย อย่างสวยเลยว่ะ"
"ใช่เด็กใหม่เมื่อวานปะว่ะเปลี่ยนลุคแล้วโคตรเด็ดอ่ะ"
"จีบตอนนี้ทันไหมคร้าบน้อง"
"ชุดสวยจังเลยค่ะ น้องรินซื้อมาจากไหนคะ"
ณิรินทำแค่เพียงยิ้มรับคำชมนั้นอย่างผ่านๆ แถมยังคิดในใจอีกว่าแค่เปลี่ยนการแต่งตัวคนก็หันมาชื่นชมแล้วเหรอ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอยังถูกเมินอยู่เลยวัตถุนิยมเสื้อผ้าเป็นตัวตัดสินการคบหาใครสักคนหรืออย่างไรนะ
แบรนด์เนมงั้นเหรอเธอไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าไอ้ชุดมันคือยี่ห้ออะไร พราวฟ้าบอกว่าเธอแค่ว่าให้ใส่ชุดนี้มาทำงานหญิงสาวก็ทำตามแค่นั้น สำหรับณิรินเสื้อผ้าไม่ว่าจะแบรนด์เนมหรือตลาดนัดก็ตามสุดท้ายมันก็แค่สิ่งห่อหุ้มร่างกายเท่านั้น
"น้องรินเลือกเก่งนะคะ ดูเหมือนของจริงเลยเท่าไหร่คะเนี่ย"
เมยาถามขึ้นเมื่อเธอมาถึงโต๊ะคนพี่กว่าจับเธอหมุนดูอย่างตื่นเต้นคนพวกนี้ก็แปลกแค่เดรสแขนกุดสวมทับด้วยสูทที่ติดป้ายอะไรก็ไม่รู้ก็พากันตื่นเต้นแล้ว
"เอ่อคือตัวนี้..."
ยังไม่ทันจะเอ่ยตอบเสียงเจ้านายหนุ่มของพวกเธอก็ดังใกล้เข้ามา ฟังดูเหมือนพูดคุยอะไรกับใครสักคนไม่นานเจ้าตัวก็มาหยุดตรงหน้าณิรินและเมยาเลขาสาวยกมือไหว้บอสของเธออย่างนอบน้อม ในขณะที่ณิรินได้แต่ยกมือขึ้นอย่างเสียมิได้แต่กลับไหว้คนข้างเขาซะสวยงามราวนางสาวไทยทั้งที่เขายังไม่แนะนำให้รู้จักด้วยซ้ำ
สาววัยเบญจเพสเห็นสายตาของเขาที่มองมาก็แอบยึดตัวให้เขาดูชุดใหม่พลางยักคิ้วส่งไปให้ทีหนึ่งราวกับกำลังประกาศชัยชนะ เล่นเอาคนเป็นนายถึงกับใบหน้ากระตุกขึ้นมาทันทีแต่ก็ได้แค่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้งานต้องมาก่อนส่วนแม่สาวน้อยมันหลังจากนี้
"คุณณิรินนี่คุณนีน่าหัวหน้าทีมออแกไนท์บริษัทเรา"
ณิรินส่งยิ้มหวานให้กับคนที่ชูอิจิแนะนำให้รู้จักทว่าฝ่ายนั้นกลับทำหน้านิ่งยกมือขึ้นกอดอกมองเธอราวกับกำลังสแกนหาอะไรสักอย่าง
"เด็กใหม่เหรอชู ไม่เคยเห็นหน้าเลย"
"อือ ยัยพราวเป็นคนสแกนเข้ามาเองน่ะ ก็ไม่ได้อยากรับเท่าไหร่หรอก"
ณิรินหน้าตึงขึ้นเมื่อฟังคำเขาพูดแต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบเพราะยังไม่อยากโดนเขาหาเรื่องแบบเมื่อวานอีก
"แต่ฉันว่ายัยพราวตาถึงนะที่รับเธอเข้ามาทำงาน ไม่เหมือนแก"
ว่าพลางปรายตาของใครบางคนจนคนถูกมองไม่พอใจแต่ต้องข่มอารมณ์ไว้
"ฉันชอบเด็กนี่ขอไปช่วยที่ทีมได้ไหม"
"เอาสิ ฉันไม่ได้ขัดอะไรอยู่แล้ว"
ณิรินมองใบหน้าของชูอิจิที่มีรอยยิ้มประหลาดก็นึกหวั่นใจว่าเขาจะมาไม้ไหนกันอีก
แล้วณิรินก็ค้นพบคำตอบเมื่อเช้าวันนั้นเธอไปช่วยงานที่ทีมออแกไนท์สาวน้อยจึงได้รู้ว่านอกจากใบหน้าของหัวหน้าทีมที่เรียบเฉยไร้อารมณ์กับแววตาที่ดุเข้มนั้นแล้ว นิสัยใจของของเธอก็เป็นเหมือนกันนีน่าเป็นคนที่จริงจังและทุ่มเทกับงานทุกชิ้นที่ได้ทำจนบางครั้งมันก็เหมือนว่าจะเกินพอดีไป ดูได้จากปฏิกิริยาของลูกทีมที่ณิรินแอบสังเกตเห็น
แม้ว่าเธอจะมาทำงานแค่ในช่วงเช้าเพราะตอนบ่ายต้องไปช่วยด้านเอกสารกับเมยา แต่ตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเธอก็เห็นว่านีน่าตำหนิลูกทีมไปแล้วถึงสามคน เพราะเหตุผลที่ว่าฝ่ายนั้นทำงานไม่ได้ดั่งใจแม้จะเป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อยที่อนุโลมกันได้ก็ตาม จึงไม่แปลกที่สาวน้อยจะแอบได้ยินเสียงซุบซิบนินทาของลูกทีมที่มีต่อนีน่าในบางครั้งที่เจ้าตัวไม่อยู่
ณิรินเองก็ใช่ว่าจะไม่โดนเธอเองก็โดนนีน่าต่อว่าเเละเข้มงวดเหมือนกัน แม้ว่าจะเข้ามาทำงานได้ยังไม่ถึงวันก็ตาม และไม่รู้ว่าณิรินคิดไปเองไหมเธอจึงได้รู้สึกว่านีน่าเข้มงวดกับเธอมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แบบนี้นี่เองอีตาประธานหนุ่มของเธอถึงได้มีรอยยิ้มชวนสงสัยเมื่อนีน่าขอตัวเธอมา
"อย่าให้ถึงที่ฉันบ้างแล้วกัน"
สาวน้อยร่ำร้องในใจทั้งที่ตอนนี้ได้แค่ก้มหน้าทำตามคำสั่งแค่นั้นเอง
ความมืดที่โรยอยู่ด้านนอกออฟฟิศของบริษัทบวกกับความเงียบจากผู้คนที่ต่างกลับบ้านไปจนหมดคงเหลือไว้แต่พนักงานสาวตัวเล็กๆ คนเดียวที่กำลังง่วนนั่งพิมพ์บางอย่างอยู่ที่โต๊ะของตัวเองและเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากณิริน
สาวน้อยนั่งพิมพ์เอกสารไปด้วยปากก็ขมุบขมิบเจริญพรให้ใครบางคนไปด้วย แน่นอนคนที่รู้ๆ อยู่นั่นแหละก็เพราะเขาเล่นสั่งให้พิมพ์เอกสารด่วนในตอนที่ใกล้หมดเวลางานเข้าไปแล้ว แถมงานนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะมีแค่หน้าสองหน้าแต่นี้มีเป็นร้อย! จึงไม่แปลกที่สาวเจ้าจะมานั่งท่ามกลางความเงียบของออฟฟิศอยู่แบบนี้คนเดียวในขณะที่คนอื่นกลับไปนอนเกาพุงกันแล้วเรียบร้อย
“ฟู่ว์ เสร็จซะที”
ในที่สุดหญิงสาวก็ได้เอ่ยคำนี้ออกมาร่างกายสมส่วนบิดไปมาไล่ความเมื่อยล้าก่อนจะจัดการเซฟงานเพื่อจะได้กลับบ้านซะทีจนไม่ทันมองว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งจ้องมองอยู่
"ขยันจังนะ"
