บท
ตั้งค่า

4 คำถามที่น่าเบื่อ

ตอนนี้ฉันได้เลิกงานแล้วและลงลิฟท์มาถึงชั้นหนึ่งและเดินออกมาจากประตูเลื่อนฉันเร่งรุดไปยังประตูกระจกบานกว้างแล้วก็ได้ออกสู่อิสระท่ามกลางอากาศชื้นแต่สะอาดสดชื่น ฉันหลับตาลงก่อนจะสูบอากาศบริสุทธิ์และสะอาดเข้าไปเต็มปอดเรียกความสมดุลย์ในตัวเองเท่าที่ยังเหลืออยู่กลับคืนมาหลังจากที่มันหายไปเมื่อฉันได้พบเจอกับท่านประธาน

ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมีผลกระทบต่อฉันได้อย่างที่ท่านประธานลีโอนาร์โด บลูส์คนนี้ และฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมท่านประธานถึงมีอิทธิพลต่อฉันมากมายถึงเพียงนี้ อาจจะเป็นเพราะหน้าตาความสุภาพ ความร่ำรวย หรือเป็นเพราะว่าพลังอำนาจของเค้าก็เป็นไปได้ ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจที่วันนี้ได้เลิกงานกลับบ้านแล้ว

ตลอดเวลาที่ฉันทำงานอยู่ 8 ชั่วโมงภายในบริษัทของเขาฉันช่างอึดอัดใจเป็นอย่างมากและภาพที่เค้ามากระซิบข้างหูฉันยังคงวนเวียนอยู่ในใจของฉันจนไม่มีสมาธิในการทำงาน ทุกครั้งที่เลขาท่านประธานให้ฉันเดินเข้าไปในห้องท่านประธานฉันพยายามหลบหน้าเขาตลอดเพราะฉันไม่อาจมองใบหน้าของเค้าได้เลย ยิ่งได้มองเขาหัวใจฉันก็ยิ่งอ่อนระทวยสั่นไปหมดทั้งกายและใจสิ่งที่ฉันทำได้ก็คือหลบหน้าหลบตาท่านประธานนั่นเอง

"ลืมมันซะยัยเคท".... ฉันได้แต่บอกตัวเองในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนรถไฟฟ้าและกำลังจะกลับบ้าน ฉันมองไปที่วิวโดยรอบในขณะที่รถไฟฟ้ากำลังมุ่งตรงไปที่สถานีปลายทางด้วยดวงใจที่เลื่อนลอย แล้วภาพของเค้าก็ลอยขึ้นมาบนหัวอย่างไม่มีหยุดหย่อน...เห้อ...

สวัสดีเช้าวันเสาร์ฉันขดตัวอยู่ในเตียงเหล็กสีขาวโดยพันผ้านวมเอาไว้รอบตัวตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งห้าวันที่ฉันได้เข้าไปทำงานที่บริษัทนี้ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่กดดันเสียเหลือเกิน

เมื่อไหร่เวลาหลับตาฉันก็ฝันถึงบรรดาสถานที่มืดมิดประตูสีขาวเย็นเฉียยและมีผู้ชายคนหนึ่งนัยตาสีเทานั่นก็คือท่านประธานของฉันนั่นเอง

ฉันพยายามสลัดผู้ชายคนนี้ออกไปจากหัวสมองเท่าไหร่แต่ก็ไม่เป็นผล ภาพของเค้ายังคอยตามมาหลอกหลอนฉันแม้ขณะยามหลับไหล

วันนี้ฉันตื่นขึ้นมาในตอนสายสิ่งที่ฉันต้องทำเป็นอย่างแรกนั่นก็คือทานอาหารเช้าแล้วต่อด้วยจดบันทึกรายงานการทำงานเพื่อส่งไปยังอาจารย์ที่ปรึกษาเกี่ยวกับการฝึกงานที่บริษัทที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ ในขณะที่ฉันกำลังจดบันทึกเกี่ยวกับการทำงานที่บริษัทแห่งหนี้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันคิดในใจว่าไม่มีใครอย่างแน่นอนต้องเป็นคุณพ่อของดิฉันโทรมาและแล้วมันก็จริงอย่างนั้น

"เป็นยังไงบ้างจ๊ะลูกสาวของพ่อ"

"สบายดีค่ะคุณพ่อ"...ฉันบอกพ่อ

"อย่าลืมเอาเหรียญทองมาให้พ่อด้วยนะ คริๆ"

"แน่นอนค่ะคุณพ่อ...ลูกสาวของคุณพ่อเก่งอยู่แล้วต้องได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างแน่นอนค่ะเชื่อใจได้ ลูกสาวของพ่อเก่งที่สุดโลกคะ"

"แล้วเป็นยังไงบ้างไปเริ่มงานใหม่ที่บริษัทบลูเฮ้าส์"

"ก็สบายดีค่ะคุณพ่อสนุกดีค่ะ...."

"เพื่อนร่วมงานเป็นยังไงบ้างลูก"

"ดีกับหนูทุกคนเลยค่ะคุณพ่อ พนักงานที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคนค่ะ อาจจะเป็นเพราะที่นี่สวัสดิการดีมั้งคะ พนักงานทุกคนจึงมีสุขภาพจิตที่ดีค่ะ"....ฉันได้บอกกับพ่อ

"เห็นเขาว่าบริษัทนี้แค่เข้ามาเป็นเด็กฝึกงานก็ยากแล้วนะลูก ลูกของพ่อเก่งที่สุดเลยถึงได้สอบเข้าโครงการฝึกงานที่บริษัทได้เนาะ".....พ่อของฉันได้เอ่ยชมซึ่งฉันก็ภูมิใจมาก

"ก็หนูเป็นลูกสาวของคุณพ่อใงคะ ก็ต้องเก่งเหมือนคุณพ่อเป็นธรรมดาใช่ไหมล่ะคะ".....ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะ ลงไปในสายโทรศัพท์

"แล้วเรื่องเนื้อคู่ของลูกสาวพ่อละจ๊ะ เจอใครสักคนบ้างหรือยัง ???.....ผู้เป็นพ่อหวงเรื่องนี้ลูกสาวมากเพราะพ่อรู้ดีว่าลูกสาวเอาไปเคร่งเครียดกับเรื่องเรียน

ตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าลูกสาวของตัวเองเป็นทอมหรือเปล่า เพราะไม่เคยพาเพื่อนผู้ชายหรือว่าแฟนไปหาผู้เป็นพ่อเลยสักครั้ง ซึ่งผิดกับลูกสาวคนอื่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

"คุณพ่อจะมาถามอะไรเรื่องแฟนเหรอคะ หนูเพิ่งจะเรียนจบนะคะคุณพ่อที่สำคัญยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ เพราะยังฝึกงานไม่เสร็จอีกเดือนกว่าค่ะกว่าจะจบ"

"ลูกมีแฟนอย่าลืมบอกพ่อเป็นคนแรกนะ พ่อจะได้ดีใจกับลูกเป็นคนแรกไงได้ละ"

"คุณพ่อจะเป็นคนแรกที่รู้เลยนะคะถ้าหนูมีแฟนแล้ว ไม่ต้องถามเรื่องนี้อีกนะคะถ้ามีแล้วหนูจะบอกเองคะ"

"พ่อรู้นะว่าที่บ้านของเราฐานะไม่ดีและลูกก็สอบชิงทุนได้จึงได้มีโอกาสเรียนที่ดีๆแบบนี้ แต่ลูกก็ต้องเอาใจใส่ตัวเองบ้างนะ อย่าเคร่งเครียดและลูกน่าจะออกไปเที่ยวบ้างไม่ใช่มัวแต่ทำงาน ตอนที่เรียนลูกก็ทำงานไปเรียนไป พ่อว่ามันหนักแล้วนะ แล้วตอนนี้ไปฝึกงานอีกงานพาทไทม์ควรเลิกได้แล้วนะลูก ทำแต่บริษัทนี้ก็เพียงพอแล้ว ลูกทำให้พ่อต้องกังวลนะ"....พ่อบอกกับฉันยาวเหยียด

"คุณพ่อขาไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ลูกสาวของคุณพ่อเอาตัวรอดได้ค่ะ และหนูสาบานว่าหนูจะมีสามีค่ะ หนูจะมีแฟน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะคะขอให้รับปริญญามีการมีงานทำที่ดีกว่านะคะคุณพ่อ ตอนนี้หนูยังไม่คิดเรื่องแฟนค่ะ"....

ฉันรู้สึกเบื่อมากมายที่พ่อของฉันได้แต่ถามทุกครั้งว่าเมื่อไหร่ฉันจะมีแฟน

"โอเคจ้ะ พ่อยอมแล้ว อย่าลืมนะออกไปเที่ยวบ้างนะจะได้ไม่เครียด"

"โอเคค่ะคุณพ่อ ถ้ายังงั้นไม่มีอะไรแล้วหนูขอวางสายก่อนนะคะเพราะว่าตอนนี้หนูกำลังทำรายงานส่งอาจารย์ค่ะเกี่ยวกับเรื่องฝึกงานที่บริษัทค่ะคุณพ่อขา"

"โอเคครับถ้ายังงั้นบ๊ายบายนะลูก"

"สวัสดีค่ะคุณพ่อ"

หลังจากที่วางโทรศัพท์จากพ่อแล้วฉันได้แต่กรอกสายตาลงไปในโทรศัพท์ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมพ่อฉันก็ต้องถามตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่ฉันจะมีแฟนพ่อคนอื่นห่วงหวงลูกสาวเป็นหนักหนาไม่เหมือนกับพ่อฉันเลยกลัวแต่ลูกสาวจะขายไม่ออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel