เผลอใจ
“ชุดนี้เป็นไงบ้างคะนมแสง สวยพอหรือยัง?” ทิชาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ พลางหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ
วันนี้เธอเลือกใส่ชุดเดรสลูกไม้สีขาวที่มีความยาวระดับหัวเข่าดูเรียบร้อย ซึ่งมันดูไม่ใช่ตัวตนของเธอเลยสักนิด แต่จำใจต้องใส่เพราะกลัวจะถูกดุถ้าเกิดว่าแต่งตัวโป๊มากไป
“สวยมากค่ะคุณหนู ไม่ว่าคุณหนูจะใส่ชุดไหนก็สวยไปหมดเลยค่ะ” หญิงวัยสูงอายุบอกเด็กสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
“พูดจริงเหรอคะ?”
“จริงที่สุดค่ะ ในสายตาของนมแสง คุณหนูทิชาน่ารักที่สุด”
“…..” ใบหน้าแสนหวานยกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ
“แต่งตัวเสร็จแล้วรีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณอาจะรอนาน”
“จริงด้วยค่ะ ถ้างั้นทิชาขอตัวก่อนนะ”
“…..”
คอนโดกาย…
ก๊อก! ก๊อก!
“ทิชามาแล้วค่ะ”
“เปิดเข้ามาเลย ประตูไม่ได้ล็อก”
สิ้นประโยคบอกอนุญาต ร่างบางจึงผลักประตูห้องเข้าไป ก่อนจะได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาตามลมจนเริ่มรู้สึกหิว
“ทำอะไรอยู่คะ กลิ่นหอมเชียว” คนตัวเล็กกวาดสายตามองไปยังโต๊ะอาหารที่มีของกินวางอยู่เรียงราย อาหารทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของวรกันต์
“ทำอาหารเย็นอยู่น่ะ เผื่อหนูมาถึงจะได้กินเลย”
“ดีเลยค่ะ กำลังหิวพอดี”
“…..”
“ไม่ได้มาห้องอาตั้งนาน ดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ” ร่างบางพูดขึ้น พลางมองไปรอบๆ บริเวณห้องในระหว่างที่กำลังนั่งทานอาหารเย็น เพราะครั้งล่าสุดที่มาก็เมื่อหลายเดือนมาแล้ว
“อาให้ช่างมารีโนเวทให้ใหม่น่ะ เป็นยังไงบ้าง?”
“สวยดีค่ะ ดูเป็นระเบียบขึ้นเยอะเลย”
“คิดไว้หรือยัง ว่าจะมาอยู่ที่นี่กับอากี่วัน”
“สักสามสี่วันก็พอค่ะ อยู่แค่ให้พอหายเหงา” ทิชาตอบกลับพลางก้มหน้าก้มตาทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อยโดยมีชายหนุ่มนั่งเฝ้ามองอยู่แบบนั้น
“หนูบอกพ่อแล้วใช่ไหมว่ามาค้างกับอาที่คอนโด?”
“บอกเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร”
“อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้ามหาลัยแล้ว ได้อ่านหนังสือเตรียมพร้อมบ้างหรือเปล่า?” วรกันต์ถามเด็กสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพลางจ้องหน้าเพื่อรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อ
“เหลืออีกตั้งนาน เดี๋ยวค่อยอ่านก็ได้ค่ะ” ทิชาตอบแบบไม่ใส่ใจ เพราะสิ่งที่เขาบอก มันไม่เคยอยู่ในหัวเธอเลยสักนิด
“ควรจะเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ นะ พอถึงวันจริงจะได้ไม่ติดขัดอะไร”
“…..”
“เราโตเป็นสาวแล้วนะ ไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อน อย่ามัวเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ควรจะคิดให้รอบคอบ วางแผนอนาคตไว้บ้าง”
“คุณอาขี้บ่นเหมือนพ่อจังเลยนะคะ” ทิชาหลุดขำออกมาเบาๆ ตรงข้ามกับวรกันต์ที่นั่งทำสีหน้าจริงจัง
“อาไม่ได้บ่น แต่ที่อาพูดเพราะอาเป็นห่วงหนูไง”
“…..”
“กินเยอะๆ นะ ถ้าไม่อิ่มเดี๋ยวอาไปเอามาให้อีก” ไม่พูดเปล่าแต่ชายหนุ่มยังตักอาหารมากมายหลายอย่างใส่จานของเธอ
“พอแล้วค่ะ กินแค่นี้ก็อิ่มแล้ว”
“เพิ่งกินไปได้นิดเดียวเองนะ อาว่ากินอีกสักหน่อยดีไหม?”
“แล้วอาไม่กินด้วยกันเหรอคะ?”
“อายังไม่หิวน่ะ เชิญหนูตามสบาย”
“…..”
“ถ้างั้นอาขอตัวไปเคลียร์งานที่เหลือก่อนนะ ถ้าเสร็จแล้วจะรีบมานั่งคุยด้วย”
“ค่ะอา” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะมองตามแผ่นหลังของผู้เป็นอาที่เดินออกไป
22 : 30 น.
“ทิชาเห็นว่ามันดึกแล้ว อายังทำงานอยู่เลยเอาชาร้อนมาให้ค่ะ” ทิชาเดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับแก้วน้ำชาที่อยู่ในมือ
“ขอบใจมาก วางไว้ตรงนั้นแหละ”
“ดูท่าทางอาจะเหนื่อยๆ นะคะ เดี๋ยวทิชานวดให้”
“ไม่เป็น…” ยังไม่ทันได้ตอบปฏิเสธ ร่างบางก็เดินเข้ามาหาก่อนจะนวดไหล่ให้เขาที่กำลังนั่งทำงานอยู่
“เป็นยังไงคะ รู้สึกดีขึ้นไหม?”
“ไม่รู้มาก่อนว่านวดเก่งขนาดนี้”
“ทิชานวดให้พ่อบ่อยนะคะ เลยทำเป็น”
“…..” วรกันต์ค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ ด้วยความเหนื่อยล้า แต่พอได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมทาผิวของเธอมันก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
“ถ้าอาชอบ เดี๋ยวทิชามานวดให้บ่อยๆ เลยดีไหมคะ”
“ก็ดีเหมือนกันนะ”
“อีกไม่นานทิชาก็จะเข้ามหาลัยแล้ว คงไม่ได้มาหาอาบ่อยๆ แล้วนะคะ คงคิดถึงอามากๆ แน่เลย”
“ถ้าเป็นแบบนั้นอาคงเหงาน่าดู”
“ถ้าไม่ได้เจอกัน อาจะลืมทิชาหรือเปล่า?” หัวใจดวงน้อยกลับมาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อจ้องมองใบหน้าหล่อเกของผู้เป็นอาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่
“อาต้องเป็นฝ่ายถามหนูมากกว่าว่าจะลืมอาหรือเปล่า ได้เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ อีกหน่อยก็คงจะลืมอา”
“ทิชาไม่มีวันลืมอาค่ะ”
วรกันต์ลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกตัวว่าร่างบางกำลังจ้องมองเขาอยู่ ริมฝีปากหนาเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ
“ตอนนี้มันดึกมากแล้ว หนูง่วงนอนหรือยัง?”
“เริ่มง่วงแล้วค่ะ”
“งั้นไปเข้านอนกัน เดี๋ยวอาไปส่ง”
“…..”
“อาอยู่ห้องข้างๆ ถ้าหนูมีอะไรโทรเรียกได้ตลอดเวลาเลยนะ” ชายหนุ่มบอกคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะดึงผ้านวมหนามาห่มให้
“ขอบคุณค่ะอา ทิชารักอานะคะ”
“อาก็รักหนู” มือหนาเลื่อนไปลูบหัวร่างบางอย่างอ่อนโยน เพราะในสายตาของเขา ทิชายังคงเป็นเด็กสาวที่น่ารักอยู่เสมอ
“รักหนูมากไหม?”
“มากครับ”
“ทิชาก็รักอามากเหมือนกันค่ะ”
“ฝันดีครับ”
“เดี๋ยวค่ะอา”
“????” วรกันต์หันหลังกลับไปมอง ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้อง
“ก่อนจะนอนอาช่วยหอมแก้มทิชาก่อนได้ไหม ตอนนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ ไม่มีใครหอมทิชาก่อนนอนเลยค่ะ” ทิชาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางส่งสายตาออดอ้อนมองผู้เป็นอา
“…..”
“ไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ ในห้องนี้มีแค่เราสองคน”
“ได้ครับ” ใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำไปหอมแก้มคนตัวเล็กหลายๆ ครั้งตามที่เธอต้องการ เพราะในใจลึกๆ เขาก็อยากที่จะทำแบบนี้
“อาหอมทิชาแล้ว ขอทิชาหอมคืนบ้างนะ”
ใบหน้าแสนหวานเลื่อนเข้าไปใกล้ผู้เป็นอา ก่อนจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด วรกันต์นั่งนิ่งอยู่แบบนั้น เมื่อคนตัวเล็กประทับจูบลงมาที่ริมฝีปากเขาแบบนิ่มนวล
ทิชาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อวรกันต์เป็นฝ่ายสอดเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากของเธอ พร้อมตวัดดูดดึงริมฝีปากบางจนเปียกแฉะ
“อย่าทำแบบนี้กับอาอีกรู้ไหม?” วรกันต์ตำหนิเสียงดุหลังจากที่เธอค่อยๆ ถอนจูบออกจากเขา
“…..”
“สัญชาตญาณดิบของพวกผู้ชาย ถ้ามันหิวขึ้นมา ไม่ว่าเป็นใครมันก็กินไม่เลือกทั้งนั้นแหละ”
“แล้วตอนนี้คุณอาอยากกินทิชาหรือเปล่าคะ?”
“…..”
