สถานะ
WG GROUP…
ตึกตัก! ตึกตัก! เสียงฝีเท้าดังกระทบกับพื้นหินอ่อนอย่างเร่งรีบ ก่อนจะปรากฎหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“สวัสดีค่ะน้องทิชา วันนี้แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ” เลขาสาวเอ่ยแซวหญิงสาวพลางยิ้มกว้างให้อย่างเป็นมิตร เพราะทิชามาที่นี่ค่อนข้างบ่อยเลยทำให้พวกเธอค่อนข้างจะสนิทกันในระดับนึง
“ขอบคุณมากค่ะพี่ปู ว่าแต่อากายอยู่ไหมคะ?” ทิชาถามเลขาคนสนิทที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“ท่านประธานอยู่ในห้องค่ะ”
“มีแขกหรือเปล่าคะ ทิชาเข้าไปได้ไหม?”
“ตอนนี้ท่านประธานไม่มีแขก น้องทิชาสามารถเข้าไปได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
แกร้ก! บานประตูห้องบานใหญ่ถูกเปิดออกเมื่อได้รับอนุญาตจากเลขาของชายหนุ่ม เผยเห็นถึงวรกันต์ที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารปึกหนาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“อากาย!”
“…..” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวเพียงนิด ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ
“ทำไมถึงปล่อยทิชาไว้ที่คลับคนเดียว”
“อาบอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าเข้ามาให้เคาะประตูก่อน”
“ตอบมาก่อนค่ะ ว่าทำไมถึงปล่อยทิชาไว้คนเดียว?” คนตัวเล็กเอ่ยถามอย่างเอาแต่ใจ
“ก็อาเห็นหนูกำลังหลับสบายเลยไม่อยากปลุก”
“ใจร้าย! กล้าปล่อยทิชาให้อยู่คนเดียวแบบนั้นได้ยังไง!”
“ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ลูกน้องของอาไว้ใจได้ทุกคน”
พรึ่บ! วรกันต์สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อคนตัวเล็กถือวิสาสะหย่อนสะโพกนั่งลงบนตักเขาแบบไม่ทันตั้งตัว
“หนูโตเป็นสาวแล้วนะ เมื่อไหร่จะเลิกนั่งตักอาแบบนี้สักที” แขนแกร่งเลื่อนไปโอบเอวบางไว้แน่นตามสัญชาตญาณเพราะกลัวว่าเธอจะหล่น
“ไม่เลิกหรอกค่ะ ทิชาจะนั่งตักอาแบบนี้จนเข้ามหาลัยเลย”
“แต่ทิชาเป็นสาวแล้ว ถ้าทำแบบนี้คนอื่นจะมองไม่ดี”
“ช่างเขาสิคะ หนูไม่สนใจหรอก”
“เด็กเอาแต่ใจ!” มือหนาเลื่อนไปบีบพวงแก้มทั้งสองข้างของหลานสาวด้วยความมันเขี้ยว
“ไม่รู้แหละ ยังไงอาก็ต้องให้ทิชาไปอยู่ด้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ปล่อยทิชาไว้คนเดียว”
“เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังได้ไหม วันนี้อาไม่ว่าง”
“ไม่ว่างอีกแล้วเหรอคะ?” ทิชากลอกตามองบน พลางถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ตอนนี้เธอรู้สึกได้ว่าผู้เป็นอากำลังจะตีตัวออกห่างจากเธอ
“ครับ วันนี้อาไม่ว่างจริงๆ มีนัดต้องคุยกับลูกค้าคนสำคัญ”
“…..”
“เอาแบบนี้ไหม เดี๋ยวอาให้ลูกน้องพาไปช็อปปิ้ง ถ้าหนูอยากได้อะไร บอกคนของอาได้เลย” ชายหนุ่มพยายามหาข้อตกลงและทางออกที่ดีที่สุด แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะยังไม่พอใจ
“ไม่เอาค่ะ”
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้คนทั้งสองต่างพากันหันไปมองตามเสียงนั้น
“ลุกขึ้นได้แล้ว”
“ทิชาจะไม่ยอมลุก จนกว่าอาจะตอบตกลง” ร่างบางกอดคอชายหนุ่มเอาไว้แน่นเมื่อเขาพยายามจะดันตัวเธอให้ออกห่าง
“ทิชา!”
“ตอบตกลงมาก่อนสิคะ ทิชาถึงจะยอมลุกออกจากตักอา”
“…..” ผู้เป็นอายังคงนั่งนิ่ง ไม่ยอมทำตามในสิ่งที่หญิงสาวต้องการแต่อย่างใด
“ตอบมาก่อนว่าจะยอมให้ทิชาไปอยู่ด้วย”
“…..”
“หรือว่าอาอยากจะให้พนักงานของอาเข้ามาเห็น?” คนตัวเล็กเอ่ยถาม ก่อนจะมองสังเกตปฏิกิริยาของวรกันต์ที่กำลังนั่งคิดไตร่ตรองอะไรบางอย่าง
“…..”
“เข้ามาได้ละ…” ร่างบางพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มก็รีบเลื่อนมือสากขึ้นมาปิดปากของเธอเอาไว้เสียก่อน
“โอเคครับ อายอมหนูแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ ทิชารักอาที่สุด” ริมฝีปากบางยิ้มกว้างออกมาด้วยความพึงใจ ก่อนจะยอมลุกขึ้นจากตักของชายหนุ่มแต่โดยดี
“…..”
แกร้ก! ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก พร้อมกับพนักงานสาวสวยที่เดินนวยนาดเข้ามาในห้อง
“ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าท่านประธานมีแขก” พนักงานสาวบอกผู้เป็นนายพลางปรายสายตามองไปยังทิชาที่อยู่ข้างๆ
“มีอะไร?” วรกันต์ถามพนักงานสาวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ตองเอากาแฟกับของว่างมาให้ค่ะ”
“วางไว้ตรงนั้นนั่นแหละ”
“ค่ะท่าน”
“…..”
“หมดธุระของหนูแล้ว ขอตัวกลับบ้านไปเก็บของก่อนนะ แล้วเจอกันค่ะ” ทิชาพูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่มหมุนตัวเดินออกจากห้อง โดยมีสายตาของวรกันต์ที่มองตามออกไป
“วันนี้ท่านประธานกับคุณหนูทิชาจะไปเที่ยวที่ไหนกันหรอคะ?” พนักงานสาวเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยความอยากรู้ เพราะว่าในใจลึกๆ ก็รู้สึกดีกับเขาอยู่ไม่น้อย
“เอาเวลาที่อยากรู้เรื่องของฉันไปตั้งใจทำงานดีกว่านะ”
“ขอโทษค่ะ”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว ฉันจะได้ทำงานต่อ”
“…..”
“เมื่อกี้กูเพิ่งเดินสวนทิชาไป หลานมาหามึงถึงบริษัทมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” เธนส์ถามเพื่อนชายคนสนิทด้วยความสงสัยเมื่อเดินสวนร่างบางที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป
“ไม่มีอะไรหรอก แค่มาหาทั่วไป”
“มึงแน่ใจหรอว่าไม่มีอะไรจริงๆ”
“กูแน่ใจ แล้วทำไมมึงถึงถามแบบนั้น” ชายหนุ่มถามกลับก่อนจะขำออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าตระหนกของเพื่อนชาย
“นี่มึงมองไม่ออกจริงๆ เหรอว่าทิชาเขาคิดยังไงกับมึง” เธนส์กระซิบกระซาบเอ่ยถามเพื่อนชายด้วยความอยากรู้
“…..”
“กูว่าหลานทิชาต้องชอบมึงแน่ๆ”
“ไร้สาระ!”
“กูพูดจริง! สายตาที่ทิชามองมึง มันไม่เหมือนที่มองกู เวลาที่ทิชามองมึงมันไม่เหมือนอากับหลาน”
“…..” วรกันต์หยุดนิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินในสิ่งที่เพื่อนบอก ไม่ใช่แค่เธนส์ที่คิด แต่เขาก็คิดมานานแล้วเหมือนกัน
“กูคิดว่ามึงก็คงจะรู้เหมือนกันใช่ไหม?”
“อืม กูรู้”
“แล้วมึงจะทำยังไงต่อ”
“ก็ไม่ทำไง เพราะยังไงกูก็คิดกับทิชาแค่หลาน ถ้าเธอโตกว่านี้อาจจะได้เจอสังคมใหม่ เดี๋ยวก็คงเปลี่ยนใจไปเอง” วรกันต์พูดออกไปตามที่คิดแบบไม่ใส่ใจ เพราะเขารู้จักนิสัยของหลานสาวคนนี้ดีกว่าใคร ทิชาเป็นคนเบื่อง่ายมีความอดทนต่ำ ถ้าเขาไม่เล่นด้วยอีกไม่นานก็คงถอดใจเลิกตามไปเอง
“มึงคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
“ทิชาเพิ่งจะอายุแค่นี้ เขายังต้องเจอผู้คนอีกมากมายเดี๋ยวก็ลืมกูไปเอง”
“แต่ดูท่าทางทิชาจะชอบมึงมาก คงไม่เลิกราง่ายๆ หรอก”
“…..”
“แล้วถ้าทิชาไม่เลิกชอบมึงล่ะ มึงจะทำยังไง?”
“ปัญหามันอยู่ที่ทิชา ไม่ใช่อยู่ที่กู!”
“ยังไงมึงก็อย่าลืมหักหามใจตัวเองไว้บ้างล่ะกัน ถ้าไอ้เปรมมันรู้ พวกมึงได้แตกหักกันอีกรอบแน่!”
“…..”
