ตอนที่ 1-8
การเลี้ยงเด็กสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย เลี้ยงเด็กคนเดียวก็หนักพอแล้ว แต่นักธุรกิจเพลย์บอยผู้ไม่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กเล็ก แม้จะเคยผ่านการเลี้ยงเด็กมาบ้าง แต่เด็กพวกนั้นอายุต่ำๆ ก็สิบแปดปีแล้ว เลี้ยงง่าย แค่ป้อนคำหวานๆ แล้วไปหาพวกเธอบ้างนานๆ ครั้ง
แต่เวลานี้แบรดลีย์ต้องเลี้ยงเด็กวัยขวบเศษถึงสองคน และเด็กชายทั้งสองอยู่ในวัยกำลังซน ซึ่งจอร์แดนและจัสตินค่อนข้างซนเกินวัย ถ้าไอ้สองแสบนี่ไม่ใช่ลูกชายของตนเอง เขาคงจะพูดว่า
‘เด็กอะไร แม่งโคตรดื้อ’
แต่ฝาแฝดคู่นี้แม้จะซน แต่เวลาที่น่ารักเขาก็ยอมรับว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ชวนให้หลงรักได้ไม่ยาก จนเวลานี้จะทำอย่างไรให้ไม่รักไม่หลงคงไม่ได้ เพราะฉะนั้น คำจำกัดความของเด็กซนทั้งสองในสายตาของผู้เป็นพ่อคือ
‘เด็กซน คือเด็กฉลาด’
เวลานี้ เจ้าแฝดเดินได้ วิ่งเร็วมากด้วย พูดคำสั้นๆ เช่นแด๊ดได้ ทำให้มหาเศรษฐีหนุ่มไม่มีเวลาหลงเหลือให้สาวคนไหน แถมยังพลาดการเช็กเรตติ้งในทุกคืนวันศุกร์กับกลุ่มสหายรักเสมอ จนเวลานี้เขาเกือบจะถูกถีบออกจากกลุ่ม พวกมันยื่นคำขาดว่า ถ้าคืนนี้ไม่โผล่หัวมาล่ะก็…
‘เลิกคบ’
แล้วใครสนใจกันเล่า เพื่อนก็รัก แต่ลูกรักต้องสำคัญที่สุด
‘คนไม่มีลูกไม่รู้หรอก ว่าคนเป็นพ่อมันต้องทุ่มเทขนาดไหน’
แต่ในที่สุด ด้วยความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น คืนนี้หนุ่มหล่อจัดหาตัวจับยาก ผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาล คิ้วเข้มหนาได้รูปกับจมูกโด่ง ในชุดสูทอาร์มานีสีเข้มสุดเนี้ยบดูเท่ทุกมุมมอง ก็ก้าวเข้ามาปรากฏตัวในห้องวีไอพีของไนต์คลับปิด ซึ่งเป็นสถานที่ที่แสนโอ่อ่าหรูหรา ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองฟลอริดา
แบรดลีย์ยกยิ้มที่มุมปากขวา “เฮ้ กูมาแล้ว กลับได้แล้วใช่ไหม”
เสียงเข้มฟังดูมีพลังความโหดดังขึ้น “ไอ้เวรแบรดลีย์ ลองกลับสิ กูจะส่งคนไประเบิดคฤหาสน์อาเชอร์ของมึง” สิ้นประโยค คนพูดก็เงยใบหน้าหล่อเหลาขึ้นมามองไอ้คนหลงลูก
‘ดีแลน’ หนุ่มโสดและโฉดที่สุดในกลุ่ม เดาอารมณ์ยาก ใครทำให้เกลียดขี้หน้าหรือขวางหูขวางตา ดีแลนไม่ลังเลที่จะเก็บมันไปให้พ้นการมองเห็น เพราะเขาคือเจ้าของกาสิโนชื่อดัง และยังเป็นเจ้าของผับแห่งนี้
“หนอย ไอ้ดีแลน ไอ้มาเฟียโรคจิต อะไรก็จะบึ้ม ถ้าคนของมึงผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์อาเชอร์ไปง่ายๆ กูจะฟ้องบริษัทวางระบบความปลอดภัยแม่งให้หมดตัว”
เสียงห้าวทุ้มปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มเพื่อนสนิทด้วยท่วงท่าหล่อเหลา ดวงตาคมปลาบสังเกตว่าพวกมันนั่งคอยอยู่นานแล้ว ดูจากบรั่นดีและไวน์ที่หมดไปหลายขวด แต่ละขวดแพงหูฉี่ แต่ไม่สะเทือนเงินในกระเป๋าคนพวกนี้สักนิด
“คืนนี้มึงหนีลูกออกมาหาพวกกูได้แล้วเหรอวะแบรดลีย์ พวกกูคิดว่าคืนนี้มึงจะเบี้ยวแล้ว ไอ้ดีแลนบอกว่าถ้าคืนนี้มึงเบี้ยวอีกจะบุกไปที่คฤหาสน์อาเชอร์”
คนพูดคือ ‘ริชาร์ด’ ทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในฟลอริดา ก่อนจะยื่นบรั่นดีออนเดอะร็อก เครื่องดื่มสุดโปรดของแบรดลีย์มาให้
ไอ้วายร้ายตัวแสบ มันหนีพวกเขาไปมีลูก และไม่ยอมปริปากบอกด้วยว่าเด็กเป็นลูกของมันกับอีหนูคนไหน
แบรดลีย์ยืนอวดหุ่นกำยำในชุดสูทพลางยื่นมือไปรับ หลังจากน้ำสีอำพันถูกกระดกจนหายเกลี้ยงแก้ว การสนทนาก็เริ่มต่อ
“กูไม่ได้หนี จอร์แดนกับจัสตินหลับแล้ว กูให้ไมเคิลมันดูแลสองแสบ เพราะมีเรื่องจะปรึกษาพวกมึง”
หนุ่มหล่อทั้งหมดมองหน้ากัน ใครๆ ต่างก็รู้ฤทธิ์ลูกแฝดที่แสนน่ารักของเพื่อน แต่ถ้าเจ้าแฝดนี่ไม่ใช่หลานๆ ของพวกเขา จอร์แดนกับจัสตินคงจะถูกเรียกว่าแฝดนรกไปแล้ว เรื่องนี้ไอ้ดีแลนรู้ดี ผู้หญิงของมันเคยถูกสองแฝดทั้งจับทั้งขยำมาแล้ว
“กูเริ่มสงสารไมเคิลแล้ว ระวังมือขวามึงขอลาออกจากการเป็นบอดี้การ์ดละกัน” พวกเขาเห็นฤทธิ์ของเจ้าแฝดคู่นั้นมากับตา แบรดลีย์เคยพาลูกมางานแต่งงานของน้องสาวของดีแลน เจ้าแสบทั้งสองแกล้งทำตัวเป็นเด็กน่ารัก พอมีเหยื่อสาวสวยหลงมาโอบล้อมและขออุ้ม พวกเธอจะโดนทดสอบความยืดหยุ่นของทรวงอกทันที แต่ดูเหมือนแม่สาวๆ พวกนั้นจะไม่รู้ ว่าถูกเด็กน้อยลวนลามแล้วเอาสิ่งที่รับรู้ได้ไปบอกพ่อ
เขาเคยด่าแบรดลีย์เพราะคิดว่ามันสอน แต่แบรดลีย์มันค้านแล้วบอกว่า ลูกแฝดของมันบังเอิญเห็นไอ้ดีแลนทำแล้วจำติดตา
“เออ...นั่นสิ ถ้าไมเคิลลาออก กูซวยแน่ งั้นกูกลับเลยละกัน” แบรดลีย์ตอบรับไปตามน้ำ ก่อนจะผุดลุกขึ้นทันที เพราะนึกห่วงลูกชายทั้งสองจะตื่นขึ้นมากลางดึก
‘วิลสัน’ และ ‘เนลสัน’ สองพี่น้องฝาแฝดทายาทสายการบินชื่อดังลุกขึ้นมา แล้วกดไหล่แบรดลีย์ให้นั่งลงบนโซฟา
“ไอ้ตัวดี นั่งลงเลย คืนนี้พวกกูไม่ปล่อยมึงกลับจนกว่าจะสอบสวนมึงเสร็จ ไหนว่าพวกเราห้าคนจะไม่มีความลับต่อกัน บอกมาว่าสองแฝดเป็นลูกของใคร” วิลสัน แฝดคนพี่ถามอย่างคาดคั้น เขาอยากรู้และเพื่อนคนอื่นก็ด้วย
แบรดลีย์ถอนหายใจยาวพรืด เขากับพวกมันไม่เคยมีอะไรปิดบังกัน ช่วยเหลือกันทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผย เรื่องมันค่อนข้างยาวและอธิบายยาก
แบรดลีย์ส่งเสียงห้าวกระแทกกลับ “กูยังไม่พร้อมจะบอก รอกูอยากบอก เดี๋ยวพวกมึงก็รู้เอง”
วิลสันรู้ว่าคนอย่างแบรดลีย์นอกจากอินดี้แล้วยังเข้าใจยาก แต่มันก็เป็นของมันแบบนี้ และพวกเขารับได้ในสไตล์ของมัน ถ้ามันไม่พูดก็ยากที่จะเอาอะไรมาง้างปากได้ เรื่องใครเป็นแม่ของแฝดปริศนาคงต้องรอไอ้คนปากหนักคายความลับออกมาเอง
เนลสันแฝดน้องพูดขึ้นบ้าง “ไอ้แบรดลีย์ ไอ้คนมีความลับเยอะ มึงจะปล่อยให้สองแฝดเป็นเด็กปริศนาแบบนี้เหรอวะ”
“เออ อยากรู้อะไรกันนักหนา”
“แล้วแม่เด็กไปไหน เด็กๆ ต้องการแม่” เนลสันถามย้ำ
“กูรู้ กำลังหาให้อยู่”
“หาให้ หมายความว่าไงวะ” ดีแลนถาม
“เอาล่ะ กูรู้ว่าพวกมึงทุกคนอยากรู้ เดี๋ยวถ้ากูพร้อมให้รู้ ตอนนั้นพวกมึงค่อยรู้ก็แล้วกัน”
มันพูดแบบนี้ คนทั้งสี่จึงได้แต่มองหน้ากันไปมา อยากเตะมันแต่จะทำอะไรได้ แบรดลีย์ อาเชอร์ ทำตัวมีพิรุธจัด คิดว่าพวกเขาจะเลิกล้มความอยากรู้ง่ายๆ เหรอ อย่างนี้ต้องสืบให้ได้ว่าหลานๆ ของพวกเขามีแม่เป็นใคร แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เพื่อนรักต้องละทิ้งชีวิตเพลย์บอยที่มันเคยชอบไปเลี้ยงลูก แถมยังหักดิบเทอีหนูนับสิบ ปลดปล่อยให้พวกเธอไปเจอผู้ชายใหม่ๆ ด้วยข้ออ้างที่ว่า
‘กลัวไม่มีเวลาให้ลูก’
‘พระเจ้า! แบรดลีย์ เพลย์บอยตัวร้ายอยากได้รางวัลพ่อดีเด่นแห่งปีหรือไง’
