บท
ตั้งค่า

โล่เหล็กของพี่หมี

โล่เหล็กของพี่หมี

พี่หมีได้โล่มาก็มิได้นำมาใช้ทันที เค้าข่มเหงรังแกนางตัวเล็กอยู่ครึ่งวัน ช่วงบ่ายก็ไม่ได้ไปไหน เพียงเดินเล่นตรวจตราในชนเผ่า แล้วกลับเข้าถ้ำช่วงเย็นในเวลาที่คุ่นเคย

ชายหนุ่มพึงพอใจกับโล้ไม้มาก เจ้าแผ่นดำๆที่ยึดติดไว้แข็งยิ่งกว่าหิน เค้าจับดูก็รู้ได้ทันทีว่ามันทำมาจากสิ่งเดียวกับมีดประหลาด ลองใช้กระบองหินทุบตีหินก็แตก ใช้หอกไม้แทงหอกก็หัก แม้จะหนักไปหน่อย แต่เค้าก็ชอบมันมากเลยจริงๆ

นี่ก็ไม่แปลก ว่านลุ่ยต่อแผ่นไม้เข้าด้วยกันแล้วตัดเป็นวงกลม นางทำตามแบบของชนเผ่าที่ใช้ แต่ยังนำแผ่นเหล็กอย่างหนาหลายสิบแผ่น ยึดสลับเป็นเกล็ดปลา ตอกอัดให้แน่นด้วยหมุดแม้ไม่แข็งแกร่งเท่าโล่เหล็กทั้งอันแบบที่ทหารต้าเว่ยใช้ แต่นั่นก็เป็นเหล็กทั้งหมดที่ว่านลุ่ยมีในตอนนี้!

เพราะต้องทำงานไม้ ว่านลุ่ยจึงไม่มีเวลาหลอมเหล็ก เหล่าพี่สาวน้องสาวก็ไม่รู้จักวิธีควบคุมไฟ ดังนั้นจึงไม่สามารถช่วยนางได้ ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่ที่นางคนเดียว

เหมือนกับตอนนี้ ว่านลุ่ยต้องสอนเด็กสาวผู้มาใหม่ทั้งสอง นางแสดงท่วงท่าบ้าใบ้จนมือเท้าด้านชา แต่เด็กหญิงพวนนี้ยังโง่เขลาไม่เข้าใจ!

“อู อู ก้าอูก้า”!!!

ว่านลุ่ยแอบเรียกพวกนางในใจว่า น้องเสือขาวและน้องเสือดำ เพราะคนหนึ่งไม่มีขนตรงโหนกเนินลับ อีกคนกับดกดำเสียยิ่งกว่าของตนเอง

เด็กสาวทั้งสองเหมือนจะเถียงคำไม่ตกฟาก ว่านลุ่ยสอนให้พวกนางใช้จอบยกร่องสวน ทั้งๆที่ทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังพากันขุดดินมั่วซั่วขุดเสียจนแปลงพื้นที่นางแผ้วถางเสียหาย มองไม่เป็นรูปเป็นร่างถึงความงดงามแม้แต่หน่อยเดียว!

***

สิ่งก่อสร้างของว่านลุ่ยไม่เป็นที่ตกใจของคนในชนเผ่าแล้ว นานวันเข้าทุกคนก็เริ่มชิน เห็นอะไรแปลกๆก็เพียงนึกไปว่า นางเป็นหมอผีที่หัวหน้าเผ่าฝึกมา ย่อมต้องฉลาดกว่าตัวเมียทั่วไปในชนเผ่าอยู่แล้ว

คุณหนูใหญ่หาได้รู้ตัวซักนิด ไม่ว่านางจะทำสิ่งยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ในสายตาลูกสมุนลิ่วล้อพี่หมี หัวหน้าของเค้ายังเป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดอยู่ดี เพราะแค่คนเดียวก็สามารถล้มพวกกินคนหลายสิบได้ แม้กระทั่งชาวป่าเผ่าข้างๆทั้งหมด ก็ยังไม่มีผู้ใดแข็งแกร่งเท่านี้เลย!

ชายสูงอายุในเผ่าหลายคนเริ่มมาอยู่กับพี่หมีตั้งแต่เค้าอายุยังน้อย หลายปีก่อนตอนนั้นมีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งฆ่าหมีด้วยมือเปล่า เรื่องนี้โด่งดังในหมู่ชนชาวป่ามาก ต่อมาได้ยินว่าเค้าขับไล่ชนเผ่ากินคนออกจากเขตน้ำตกหัวกะโหลกทั้งยังยึดครองที่ดินแถบนั้นก่อตั้งชนเผ่าของตนเองขึ้นมา

ปีนั้น เหล่าผู้อ่อนแอที่ถูกรังแกในชนเผ่าต่างๆ ทุกคนมุ่งหน้ามาหาพี่หมี ขอเข้าร่วมกับเค้าเพื่อความอยู่รอดโลกของชนชาวป่าก็เป็นเช่นนี้เอง

วันเวลายังคงผ่านไป ว่านลุ่ยอยู่ที่นี่มาหนึ่งปีแล้ว แต่นางหาได้ทราบไม่ เพราะมิได้นับเดือนนับตะวัน ใช้ชีวิตอยู่แต่บริเวณถ้ำหมู่บ้านและลำธาร จึงยังไม่รู้ว่าหากเดินทวนน้ำ ที่ต้นทางจะมีน้ำตกแห่งหนึ่ง ซึ่งไหลลอดผ่านช่องต่างๆของหน้าผา หากมองจากด้านล่าง ตรงนั้นก็ไม่ต่างจากหัวกะโหลกเลย

***

ต้าเว่ย ณ เมืองจินหลิง

วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีในการจากไปของ หยินว่านลุ่ย ตระกูลหยินต่างทราบว่านางหายสาบสูญนานแล้ว หวังอี้เหอเมื่อทราบว่าคุณหนูของตนหายไปก็วกเรือกลับ เดินทางสองเดือนกว่าจะเข้าเทียบท่าที่ซานตง แจ้งข่าวร้ายให้กับนายท่านทราบด้วยความร้อนใจ!

ที่ภูเขาชีเสียแห่งจินหลิง ไม่ไกลจากเมืองหลวงต้าเว่ยเท่าใดนัก สุสานประจำตระกูลหยินตั้งอยู่ในหุบเขาแถบนี้ ซึ่งหยินอี้หานพี่ชายของว่านลุ่ยกำลังคุกเข่าร้องห่มร้องไห้ อยู่หน้าป้ายหลุมศพหลุมหนึ่ง หลั่งน้ำตานองหน้าอยู่เป็นเวลานานสองนาน

ต่อหน้ามารดา อี้หานโทษตนเองที่ทำน้องสาวหายไป หากมิใช้เค้าสนับสนุนให้นางหนีออกจากบ้าน ผู้น้องก็คงไม่ต้องพบเจอจุดจบน่าเวทนาเช่นนี้!

หลังจากเรือเทียบท่า หวังอี้เหอรายงานว่าเรือชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนกาบขวาแตก เค้าคิดว่าคุณหนูใหญ่คงจะพลัดตกเรือในตอนนั้น แต่เพราะหมอกลงจัดจึงไม่มีใครพบเห็น พอรู้ตัวก็วกเรือกลับไปค้นหาอยู่นับเดือน แต่ก็ไม่พบเงาร่างของนาง!

“ฮือ ฮือ ท่านพี่อย่าโทษตัวเองอีกเลย!”

สะใภ้ใหญ่หลั่งน้ำตายืนอยู่ข้างๆสามี หนึ่งปีที่ผ่านมารอแล้วรอเล่าอย่างสิ้นหวัง ทุกคนต่างทราบว่าว่านเอ๋อคงจากไปอย่างสงบแล้ว แต่ก็ยากทำใจยอมรับ โดยเฉพาะสามีของตนที่กินเหล้าหัวราน้ำทุกวัน พอเมามายได้ที่ก็ตีอกชกหัวตนเอง

ตะวันคล้อยบ่าย หยินอี้หานค่อยลุกจากหน้าสุสาน เค้าโขกศีรษะให้มารดาครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นลุกขึ้นเดินราวกับไร้วิญญาณไปตามทางน้อย มุ่งตรงเข้าไปส่วนลึกของสุสาน ซึ่งเป็นสถานที่ชื่นชอบของน้องสาวและตน ยามมาทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษทุกๆปี

กระรอกกระแตมองสองสามีภรรยาเดินทวนน้ำขึ้นไปช้าๆ จากนั้นก็ไม่สนใจกัดกินเกาลัดของตนต่อไป

เขาชีเสียสูงใหญ่ ภายในหุบเขาก็ลึกลับ หยินอี้หานและภรรยาเดินเรียบน้ำตกขึ้นไปเรื่อยๆ ท่องชมทิวทัศน์รำลึกความหลัง จนกระทั่งแสงแดดหมดไป เหลือเพียงเมฆครึ้มเย็นสบาย ทั้งสองก็หยุดฝีเท้าลง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นผาสูง ซึ่งมีน้ำไหลผ่านช่องต่างๆของหน้าผา เกิดเป็นกระแสน้ำตกงดงาม หากสังเกตดูดีๆยังจะพบว่า ผาแห่งนี้ดูไปคล้ายหัวกะโหลกอีกด้วย!

***

ยังคงเป็นชนเผ่าของว่านลุ่ย ตอนนี้นางรู้จักการใช้อำนาจแล้ว คุณหนูหยินยึดถือสตรีทั้งหมดในหมู่บ้านเป็นลิ่วล้อของตนเอง เรียกใช้สอยทุกคนให้ทำงานให้ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าจ้างเหมือนตอนอยู่ต้าเว่ยสร้างความยินดีให้กับนางยิ่งนัก

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่น้องเสือขาวและเสือดำมาใหม่ๆ ไม่ทราบพวกนางไปคุยอะไรกับพี่สาวน้องสาวในหมู่บ้าน หลังจากนั้นไม่นาน พวกที่ไม่กล้าเข้าใกล้ว่านลุ่ย ก็ทยอยมาทีละคนสองคน แม้จะมีความลำบากในขั้นตอนการสอน แต่ว่านลุ่ยยังฝึกพวกนางให้ทำงานเล็กๆน้อยๆได้ ช่วยให้แผนการของนางคืบหน้าไปได้ด้วยความรวดเร็ว

เสียงป๋องๆแป๋งๆครืดๆถือว่าเป็นเรื่องปกติ ยามนี้พฤติกรรมในชนเผ่าของเหล่าตัวเมียเปลี่ยนไปหมด แต่พวกบุรุษตัวผู้หาได้สนใจไม่ พวกเค้ายังคงเข้าป่าล่าสัตว์แต่เช้า แบ่งหน้าที่กันหาอาหารตามเดิม

หากแต่วัฒนธรรมการกินของทุกคนต้องเปลี่ยนไป เมื่อจู่ๆก็มีสิ่งของหน้าตาประหลาด ปรากฏอยู่กลางหมู่บ้าน อะไรก็ไม่รู้ดำๆกลมๆ “…”

ว่านลุ่ยใช้งานเหล่าหญิงสาวในหมู่บ้านก็มิได้ใจร้าย นางเห็นตนมีลิ่วล้อมากก็นึกถึงระบบกองทัพ ดังนั้นจึงแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นผู้บัญชาการ “…”

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง! ว่านลุ่ยคำนึงถึงจุดนี้ นางจึงตีหม้อเหล็กใบใหญ่ขึ้นมา จากนั้นนำไปตั้งไว้กลางหมู่บ้าน ก่อเตาจากก้อนหินและโคลนดิน รอจนนางทำเสร็จเหล่าบุรุษกลับมาก็ตกใจแทบตาย เมื่อเห็นวัตถุประหลาดปรากฏอยู่ตรงที่แบ่งอาหาร จึงพากันส่งเสียงกุลีกุลูล้อมวง พิจารณาดูว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร?

พี่หมีย่อมรู้จักเจ้าสิ่งนี้ เค้าแอบเยาะเย้ยลูกสมุนของตนว่าโง่เขลา จากนั้นจึงอธิบายบอกว่าของสิ่งนี้เอาไว้ทำอะไร ซึ่งทุกคนพอทราบก็ตกใจมาก ส่งเสียง อูก้าอูก้า อู อู อู ชื่นชมความร้ายกาจของหัวหน้าตนเอง…

บุรุษทุกคนต่างมองพี่หมีด้วยสายตายกย่อง สมแล้วที่เป็นหัวหน้าเผ่า รู้แม้กระทั่งของประหลาด แต่ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง เมื่อตัวเมียหมอผีของท่านหัวหน้า นำเศษอาหารที่เหลือจากการแบ่งลงไปในนั้น จุดไฟจนควันโขมง แล้วใช้ไม้หน้าตาแปลกๆคนวนไปวนมา จากนั้นใส่ใบไม้ใบหญ้าลงไป!

“อูก้าอูก้า อู อู อู”!!!

ชายหนุ่มในหมู่บ้านร้องเสียงหลง เค้าเห็นหัวหน้าเผ่าตักสิ่งเละๆที่อยู่ภายในเข้าปาก ควรเข้าใจไว้ว่า สิ่งของใดที่ไม่รู้จักชนชาวป่าจะไม่กิน เพราะความโหดร้ายของธรรมชาติมีมาก หากเป็นสิ่งมีพิษกินเข้าไปก็มีแต่หนทางตายสถานเดียว

ทุกคนยืนมองพี่หมีด้วยสายตาตกตะลึง!

หลายวันผ่านไป

เรียบลำธารสายหนึ่ง วันนี้พี่หมีแบ่งคนออกเป็นห้ากลุ่ม พวกเค้าเดินย่องกันภายในป่าด้วยความเงียบ แต่เหล่าหนุ่มน้อยด้านหลังภายในใจตื่นเต้นยิ่งนัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเค้าได้ติดตามหัวหน้ามา

ตามกฎของชนชาวเผ่า มีเพียงผู้ที่ฝีมือติดสิบอันดับแรกเท่านั้น ถึงจะได้ติดตามหัวหน้าออกล่า คนที่เหลือต้องถูกแบ่งกันออกไป เรียนรู้กับผู้อาวุโสหลายปี กว่าจะได้เข้าพิธีคัดเลือกตำแหน่งขั้น แล้วประลองฝีมือจัดอันดับเลื่อนขั้นตนเองขึ้นมา ให้สูงมากพอที่จะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหัวหน้าเผ่าของตน

หนุ่มน้อยสองในเจ็ดด้านหลัง มองแผ่นหลังบิดาของตนด้วยความเคารพบูชา…

ตรงหน้าเป็นบิดาของตน นี่เป็นบิดาผู้ร้ายกาจ ไม่ว่าอะไรท่านพ่อก็รู้หมด แม้กระทั่งอาหารแปลกๆรสชาติดีก็รู้ ทั้งยังฝึกตัวเมียของตนให้เชื่องได้ทุกคน สร้างสิ่งแปลกใหม่ที่พวกเค้าไม่เคยเห็น ช่างเป็นบิดาที่ร้ายกาจจริงๆ “…”

ห้าคนที่เหลือแม้ไม่ใช่บุตรชายพี่หมีก็คิดเช่นนี้ พวกเค้าอดเทิดทูนหัวหน้าเผ่าในใจมิได้ จ้องมองเค้าทุกการกระทำ หวังจะเรียนรู้ความเก่งกาจจากหัวหน้าเผ่าให้มาก เพื่อนำไปพัฒนาฝีมือตนเอง!

ในความเข้าใจของบุรุษชาวป่า ไม่ว่าตัวเมียจะทำอะไร ย่อมมาจากการสอนสั่งของตัวผู้ ดังนั้นการที่ว่านลุ่ยทำสิ่งแปลกใหม่ ทุกคนจึงเข้าใจไปว่า หัวหน้าเผ่าเป็นคนสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้นาง “…”

แต่ว่าทุกคนคิดผิด พี่หมีคิดต่างออกไป เค้าเฝ้ามองทุกการกระทำของนางตัวเล็ก แล้วนำมาเรียนแบบตาม เริ่มจากพฤติกรรมการฝึกสอน เค้าสังเกตว่านางดูจะใส่ใจกับเหล่าเด็กสาวมากกว่าผู้มีอายุ ดังนั้นจึงเปลี่ยนกฎในชนเผ่า เริ่มจากให้เด็กหนุ่มอายุน้อยมาติดตามข้างกาย

ขณะที่กลุ่มพี่หมีกำลังย่องไปตามลำธารด้วยความเงียบ จู่ๆสิ่งไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้น เมื่อลูกดอกปริศนาพุ่งมาจากพุ่มไม้ฝั่งตรงข้าม ตรงดิ่งใส่ลำคอพี่หมีด้วยความรวดเร็ว เด็กหนุ่มด้านหลังยังไม่ทันทราบว่าเกิดอะไรขึ้น พี่หมีก็เบี่ยงตัวหลบแบบหวุดหวิด แต่ก็ยังมิอาจหลุดพ้น เพราะลูกดอกอาบยาพิษได้ปักเข้าใส่หัวไหล่ด้านซ้ายของเค้าแล้ว!

“คุโมโม่ คุโมโม่ อูก้าอูก้า อู อู อู”!!!

พี่หมีคำรามดังลั่น พริบตากลุ่มพี่หมีตกอยู่ในวงล้อม ชนชาวเผ่าคุโมโม่พบว่าคนหัวหมีถูกลูกดอกตนเองแล้วแน่ๆ เห็นดังนั้นจึงพากันเฮโลเข้าบุก ทะยานออกจากที่ซ่อนวิ่งเข้าใส่รวดเดียวหลายสิบคน

ในความชุลมุน พี่หมีเหวี่ยงกระบองหินของตนฟาดหวดศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า เหล่าเด็กหนุ่มถูกสั่งให้พุ่งลงน้ำ ไหลลงไปตามลำธารหลบหนี คนที่ไม่ยินยอมก็ถูกพี่หมีจับโยนลงไป สุดท้ายทุกคนลอยคอไปตามน้ำ มองภาพหัวหน้าเผ่าตนเองต่อสู้กับกองกำลังศัตรูเพียงลำพัง!

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel