บท
ตั้งค่า

พี่หมีถูกพิษ

พี่หมีถูกพิษ

พี่หมีคิดไม่ถึงว่าเจ้าพวกนี้ถึงขั้นกล้าบุกมายังใจกลางถิ่นตน เค้าเมื่อทราบว่าถูกซุ่มก็คิดว่าผิดท่า แต่ยังกัดฟันถ่วงเวลาให้เด็กๆหลบหนี พิษจากกบภูเขารุนแรงยิ่งนัก แต่ชายหนุ่มมีร่างกายแข็งแกร่ง ฟาดศีรษะศัตรูแหลกไปสิบกว่าคนโดยไม่ล้มลง

ชายหนุ่มร่างยักษ์ต่อสู้จนแทบหมดแรง แต่ไม่นานลูกสมุนกลุ่มที่อยู่ใกล้ๆก็มาถึง พวกเค้าช่วยพี่หมีต่อสู้ตะลุมบอนจนหัวหน้าเผ่าคุโมโม่ล่าถอยไป...

คนหัวเสือวิ่งฝ่าใบไม้เถาวัลย์ไปเรื่อย เค้าเป็นหัวหน้าเผ่าคุโมโม่ ตอนนี้แม้สังหารเจ้าหมีดำไม่สำเร็จแต่ไม่นานมันก็ต้องตายแน่นอน ดังนั้นจึงรีบวิ่งพาลิ่วล้อที่เหลือกลับชนเผ่า เพื่อกลับไปนำกำลังคนมาบุกโจมตีหมู่บ้านเพิ่ม!

ในความคิด แม้การบุกมาครั้งนี้จะเสียคนไปมาก แต่เค้าก็คิดว่าคุ้มค่ายิ่งนัก หัวหน้าเผ่าอูก้าที่เป็นศัตรูกันมาช้านาน ยามนี้ถูกพิษกบภูเขาไม่เกินคืนนี้มันต้องตายอย่างแน่นอน…

***

จริงดังคาด พี่หมีกลับถึงหมู่บ้านก็อ่อนแรงแทบสลบ แต่เค้ายังกัดฟันเรียกทุกคนออกมาสั่งเสีย บอกว่าตนเองคงไม่รอดแล้ว

ว่านลุ่ยเห็นพี่หมีบาดเจ็บหนักก็ตกใจยิ่งนัก แต่เค้าไม่ยอมให้นางเข้าใกล้ เพียงเรียกบุรุษในหมู่บ้านมาพูดคุยคนแล้วคนเล่าสั่งการว่าให้ทุกคนแยกย้ายกันไป หากรออยู่นี่ไม่เกินสามวัน กองกำลังชนเผ่าคุโมโม่ต้องบุกโจมตีที่นี่อย่างแน่นอน

หากแต่ทุกคนไม่ยอมจากไป เหล่าบุรุษบอกว่าจะสู้ พวกเค้ากลับกระโจมตนเองไปหยิบเอาหอกและโล่ไม้ วางกำลังป้องกันชนเผ่าตามจุดต่างๆ ตามยุทธวิธีที่เคยได้รับการฝึกฝนมา

พี่หมีไม่มีเรี่ยวแรงจะพูดอีกแล้ว เค้าสลบไปบนตักพี่สาวจอมยั่ว ทุกคนต่างก็พากันร่ำไห้จนดังระงม แม้แต่ว่านลุ่ยที่ฟังไม่เข้าใจก็ร้องไห้ตามไปด้วย

เพียงแต่คุณหนูหยินไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตะ หากพี่หมีตายไปทั้งแบบนี้ชีวิตนางคงจบสิ้นแล้ว นางไม่ใช่หมอแต่ก็รู้ว่าเค้าต้องถูกพิษ เพราะพี่หมีร่างกายแข็งแรงมาก จะล้มลงง่ายๆได้ยังไง

ริมฝีปากเริ่มเป็นสีม่วง มือเท้าเริ่มเย็น ปลายเล็บมีสีคล้ำ ขณะที่ผู้อื่นร่ำไห้นางกับวิ่งไปต้มน้ำ จากนั้นกลับมาสำรวจหาบาดแผล แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด หัวไหล่ซ้ายพี่หมีบวมเป่ง นางก็ไม่รอช้า นำมีดเผาไฟแล้วกรีดลงไปจนเลือดสีดำไหลทะลักออกมา

พี่สาวจอมยั่วตกใจมากแต่ก็มิกล้าห้ามว่านลุ่ย นางทราบถึงความเก่งกาจของน้องสาว แม้จะไม่เข้าใจในการกระทำแต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ทำร้ายบุรุษของตนอย่างแน่นอน

คุณหนูใหญ่มีความรู้ด้านการแพทย์แค่หางอึ่ง แต่นางทราบว่าน้ำขิงไล่ความเย็นในร่างได้ ทั้งยังคิดไปถึงละครงิ้วที่เคยดู ตอนท่านกวนอูถูกพิษ หมอฮัวโต๋ก็ทำเช่นนี้ ถึงกับขูดเอาเนื้ออกจากกระดูก ตอนนางเป็นเด็กได้ชมก็หวาดกลัวมากจริงๆ

เพียงแต่ว่านลุ่ยมิได้จะทำถึงขั้นนั้น นางนั่งมองเลือดสีดำไหลออกมาจนเป็นสีแดง เห็นเช่นนั้นก็ยังไม่วางใจ ยังคงก้มลงไปใช้ปากดูดครั้งแล้วครั้งเล่า ถ่มเลือดเสียของเค้าออกมาราวกับดูดพิษงู

ทุกขั้นตอนตกอยู่ภายใต้สายตาพี่สาวน้องสาว คิดในใจว่า ใช่แล้ว ปากวิเศษของนางที่พี่หมีใช้เครื่องเพศยัดเข้าไปทุกวันต้องมีความลับอะไรบางอย่างแน่ๆ ถึงตอนนี้ทุกคนค่อยมีความหวังขึ้นมา “…”

กลางดึก พี่หมีมีไข้จนตัวสั่น ว่านลุ่ยอมน้ำขิงใช้ปากตนช่วยป้อนพี่หมี นางเรียกทุกคนให้มาช่วยกอดเค้าไว้ ถ่ายทอดไออุ่นจากร่างกาย เหมือนที่นางเคยอ่านตามวรรณกรรมลามก ที่พวกบัณฑิตต้าเว่ยเขียนแต่งขึ้นมา

ภายในถ้ำ สตรีทุกคนผลัดกันเข้าไปกอดพี่หมี พวกนางโอบซ้ายโอบขวาตามคำสั่งว่านลุ่ย แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่มีผู้คัดค้านแม้แต่คนเดียว

***

รุ่งเช้าพี่หมีตื่นนอนมาพบว่าตนเองยังไม่ตาย เค้าตกอยู่ในอ้อมกอดเหล่าตัวเมีย บางคนถึงขั้นใช้เท้าพาดคอเค้าไว้ หันหัวไปกันคนละทิศคนละทาง

“…”

แม้เรี่ยวแรงจะยังไม่กลับมาทั้งหมด แต่พี่หมีรู้สึกได้ว่ามือเท้าไม่ชาด้านแล้ว เค้ามิทราบไฉนจึงเป็นเช่นนี้ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีผู้ใดรอดจากพิษกบภูเขาได้ ดังนั้นจึงพกพาความยินดีออกจากถ้ำ เดินไปยังหมูบ้านเพื่อประกาศตัวว่าข้ากลับมาแล้ว!

หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตกใจแทบฉี่ราด เห็นชัดๆว่าเมื่อวานหัวหน้าเผ่าถูกพิษกำลังจะตาย แต่ไฉนวันนี้กับเดินส่ายอาดๆราวกับไม่มีเรื่องราวใดเกิดขึ้น ทุกคนดีใจมากคิดว่าเค้าต้องเป็นเทพเจ้าแน่ๆ ถึงกับหมอบลงกับพื้นทำท่าเคารพบูชา “…”

แล้วก็เป็นอีกครั้ง ว่านลุ่ยราวกับทุ่มก้อนหินใส่หลังเท้าตนเองครั้งใหญ่ พี่หมีพอกลับมาพี่สาวจอมยั่วและคนอื่นๆก็ส่งเสียง อูก้าอูก้า ไม่ทราบพวกเค้าคุยอะไรกัน?

คราแรกชายหนุ่มยังสงสัย ว่าตนไฉนรอดมาได้ แต่ตัวเมียทั้งหลายก็เฉลยให้ เมื่อทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า นางตัวเล็กมอบพลังชีวิตให้เค้า ด้วยการใช้มนต์ดำคาถา ปรุงแต่งอะไรบางอย่างในหม้อ จากนั้นใช้ปากวิเศษถ่ายทอดพลัง ทั้งยังเน้นย้ำว่าริมฝีปากของนางร้ายกาจจริงๆ “…”

จู่ๆว่านลุ่ยรู้สึกขนลุกขนชัน เพราะพี่หมีเอาแต่จ้องหน้าตนเองตาไม่กระพริบ เมื่อเค้าเดินมานางก็ทราบว่าผิดท่าแล้ว อยู่ด้วยกันมาตั้งนานมีหรือตนจะไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไร พอนิ้วมือหยาบเอื้อมมาสัมผัสกลีบปากตนเองเท่านั้น คุณหนูใหญ่ก็แทบจะร้องไห้โฮออกมา

“เจ้าสารเลว!เมื่อคืนข้าเพิ่งจะช่วยชีวิตเจ้าเช้ามาก็คิดทำบัดซบกับข้าเลยหรือ!”

ว่านลุ่ยได้แต่ด่าทอชายหนุ่มในใจ แววตาหื่นกระหายของเค้าปิดไม่มิด พอถูกนิ้วหยาบสอดเข้ามาในโพรงปาก หญิงสาวก็คุกเข่าลงกับพื้น ยอมรับชะตากรรมของตนเองทันที

คุณหนูใหญ่ชินแล้ว นางผงกศีรษะห้อปากรูดเข้ารูดออก ต่อหน้าพี่สาวน้องสาวทั้งหมด ต่อให้ทำอะไรทุเรศกว่านี้ นางก็ไม่นึกอับอายอะไร

พี่หมีพึงพอใจกับการกระทำนางตัวเล็กมาก ยืนจับเส้นผมดำสยายของนาง ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ โก่งเอวกระแทกสวนเข้าไปเป็นบางครั้ง จนกระทั่งหญิงสาวทุบตีต้นขาตนด้วยความไม่พอใจ เค้าจึงทราบว่าตนเองเผลอทำรุนแรงกับนาง

ในโถงถ้ำ ผู้อื่นไม่อยู่ชมดูทั้งสองแล้ว ยามนี้ทั้งหมดออกไปด้านนอก เหลือเพียงพี่หมีและว่านลุ่ย ที่บัดนี้ยืนใช้มือเกาะผนังถูกรัวบั้นท้ายเข้าใส่จากด้านหลัง จนทรวงอกและปทุมถันทั้งสองสั่นกระพือ

แม้จะทรมานแทบขาดใจแต่ก็เสียว ว่านลุ่ยทราบว่าพี่หมีหากได้ขึ้นควบขับ เค้าจะไม่หยุดกระแทกง่ายๆ ดังนั้นนางจึงเลือกใช้ท่ายืน เพื่อมิให้ตนเองเข่าถลอก โดยการโน้มตัวใช้มือค้ำยัน จากนั้นแนบหน้าติดกับผนังถ้ำ แอ่นแผ่นหลังราวกับเดือนเสี้ยว สู้กันให้ตายกับพี่หมีไปข้าง ดูว่าใครจะเป็นผู้หมดแรงก่อนกัน

เสียง ตับๆ ตับๆ ดังต่อเนื่องจนฟ้ามืดค่ำ น่าแปลกใจพี่หมีเป็นคนออกแรงแท้ๆ แต่ว่านลุ่ยกับหอบหายใจราวกับใกล้ตาย ร้องครวญครางว่า ไม่ไหวแล้ว ข้าจะตายแล้ว!

ณ ชนเผ่าคุโมโม่

ทันทีที่ชายหัวเสือพาบุรุษในเผ่าออกไป แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน ชายแก่ผู้หนึ่งก็ลอบออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปยังชนเผ่าที่อยู่ใกล้เคียง

ชนเผ่าอากูอยู่ห่างจากคุโมโม่เพียงเดินเท้าหนึ่งวัน ชายแก่รีบนำข่าวสำคัญไปบอกฝ่ายนั้น เมื่อหัวหน้าเผ่าอากูทราบก็ตกใจมาก เค้าถามกลับชายแก่ว่าเจ้าหมีดำตายแล้วจริงหรือ? ผู้มาก็บอกว่ามั่นใจแน่นอน ถูกลูกดอกพิษกบภูเขาเข้าไปเต็มๆปานนั้น ไม่มีทางรอดแน่ๆ

หัวหน้าเผ่าอากูรู้ว่าตอนนี้ต่อให้ติดตามไปก็คงไม่ทันการ หากพวกคุโมโม่ยึดเผ่าอูก้าได้ เป้าหมายต่อไปต้องอยู่ที่เผ่าตนแน่ ดังนั้นจึงรีบเรียกรวมนักรบในชนเผ่า หวังจะบุกไปโจมตีพวกคุโมโม่มิให้ทันตั้งตัว

ตอนนี้หัวหน้าเผ่าอากูมีแค่สองทางเลือก หนึ่งลอบเข้าไปตลบหลังเผ่าคุโมโม่ตอนกำลังรบไม่อยู่ แต่ชนเผ่านี้ใหญ่มาก จำนวนคนมากกว่าตนถึงสามเท่า แม้เจ้าหัวเสือจะนำนักรบออกไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังไงการบุกยึดก็คงเป็นเรื่องยากอยู่ดี

สองคือตามไปตีชนเผ่าอูก้าซ้ำ รอให้พวกคุโมโม่สู้กับอูก้าจนย่อยยับ จากนั้นตนจึงยกพวกเข้าจู่โจมสายฟ้าแลบ ต่อให้คนหัวเสือร้ายกาจเพียงใด ไหนเลยสู้กับพวกตนที่กำลังรบสดใหม่ จากนั้นยึดชัยภูมิเดิมของพวกอูก้า อพยพเผ่าของตนปักหลักอยู่ที่นั่นแทน

ไม่ต้องคิดให้นาน หัวหน้าเผ่าอากูก็ตัดสินใจได้ เค้าสั่งสมุนให้เรียกรวมคนทั้งหมด อพยพลงใต้ไปยังชนเผ่าอูก้าในทันที

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการเดิมพันสุดตัว จำนวนประชากรเกือบสามร้อย หากไม่สามารถยึดครองพื้นที่ของชนเผ่าอูก้าได้ พวกเค้าคงต้องกลายเป็นเผ่าเร่ร่อนแล้ว!

นักรบในชนเผ่ามีร้อยกว่าคน ที่เหลือเป็นเด็กสตรีและคนชรา หัวหน้าเผ่าอากูค่อนข้างมั่นใจว่า หลังจากการต่อสู้ระหว่างคุโมโม่และอูก้าจบลง คนหัวเสือไม่น่าจะเหลือนักรบถึงหนึ่งร้อยคนอย่างแน่นอน

***

เป็นจริงอย่างที่คิด หัวหน้าเผ่าคุโมโม่เพียงนำกำลังมาร้อยคน เค้าเหลือนักรบไว้ปกป้องหมู่บ้านเกินกว่าครึ่ง เพราะคิดว่าเจ้าหมีดำตายไปแล้ว ดังนั้นกำลังเพียงเท่านี้ก็เพียงพอยึดครองชนเผ่าอูก้าได้

จากเผ่าอูก้าถึงคุโมโม่ใช้เวลาไปกลับสามวัน นอกจากว่านลุ่ย ทุกคนในเผ่าทราบว่าพวกตนกำลังจะถูกโจมตีครั้งใหญ่ แต่ละคนต่างก็เลิกออกล่าสัตว์ หันมาเตรียมอาวุธประจำตัว พี่หมีก็หยิบโล่เหล็กขึ้นมาปัดๆถูๆ จนว่านลุ่ยนึกสงสัย

แต่แล้วคุณหนูใหญ่ก็ทราบเรื่อง ตกกลางคืนวันที่สองพี่สาวจอมยั่วส่งเสียงกุลีกุลู ห้ามพวกนางออกจากบริเวณถ้ำ แม้แต่เช้าวันที่สามก็ยังไม่ยอมให้ผู้ใดออกไปเช่นกัน…

วันรุ่งขึ้นพี่หมีจากไปแล้ว เค้านำโล่ที่นางมอบให้ไปด้วย ว่านลุ่ยนึกได้ทันทีถึงคืนนั้น คืนที่ชนเผ่าของนางถูกบุกโจมตีเมื่อปะติดปะต่อเรื่องที่พี่หมีบาดเจ็บเมื่อสามวันก่อน นางจึงถึงบางอ้อ ใช่แล้ว พวกนางกำลังจะถูกข้าศึกจู่โจมอย่างแน่นอน!

ทรวงอกคุณหนูใหญ่เต้นโครมคราม ในนั้นราวกับมีกวางน้อยกระโดดโลดเต้น แม้จะตื่นตกใจแต่ก็สงบลงในไม่ช้า เพราะวันเวลาที่ผ่านมา นางมิได้อยู่ใช้ชีวิตไปเปล่าๆ หากแต่อย่างไรตนเองก็ไม่เคยฆ่าคน จึงยังมีความร้อนรนอยู่บ้าง…

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel