เมียคนป่านักก่อสร้าง
เมียคนป่านักก่อสร้าง
หลังจากวันนั้น พี่หมีก็เรียกร้องไม่มีที่สิ้นสุด นางต้องรองรับอารมณ์ทั้งบนและล่าง พี่สาวน้องสาวคนอื่นก็ไม่ช่วยเหลือ มีเพียงปากของนางเท่านั้นใช้ปรนนิบัติพี่หมี จนทุกคนในชนเผ่าเข้าใจไปว่า นี่เป็นการมอบพลังให้หมอผี ที่ผู้นำของตนถ่ายทอดให้ตัวเมียเค้า ช่วยให้นางมีอำนาจมากยิ่งขึ้น
อย่างเช่นตอนนี้ แม้บุรุษหลายคนจะเดินเข้ามาในถ้ำ ว่านลุ่ยยังคงต้องคุกเข่าใช้ปาก ผงกหัวขึ้นลงตามแรงมือของพี่หมีด้วยความจำยอม...
หลายสิบวันต่อมา
เสียงป๋องๆแป๋งๆดังเป็นระยะ คุณหนูใหญ่ยามนี้ยึดถือคนป่าทั้งหมดเป็นชนเผ่าของนาง ดังนั้นจึงต้องช่วยหาทางปกป้อง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอีก เพราะแม้พี่หมีจะร้ายกาจมาก แต่เค้าก็เสียประชากรไปเกือบสิบคน ถูกคนป่าเผ่าศัตรูที่บุกเข้ามายามค่ำคืนสังหาร
พืชผักของว่านลุ่ยเริ่มงอกแล้ว ตอนนี้วัฒนธรรมการกินในถ้ำเปลี่ยนไป ยามบุรุษในชนเผ่าล่าสัตว์ป่ามาได้ หัวหน้าเผ่ามักจะเอาแต่ส่วนที่ถูกทิ้ง กับกลายเป็นว่าลูกสมุนทั้งชายหญิง ได้รับส่วนแบ่งมากกว่าเดิม ยินดีจนแทบหลั่งน้ำตา เพราะมีหัวหน้าที่ไม่เอาเปรียบตนเอง
“อูก้า อู อู อูก้า อู อู”!!! นี่เป็นคำกล่าวที่ชาวบ้านมีต่อหัวหน้าเผา ซึ่งว่านลุ่ยก็ฟังไม่ออกเหมือนกัน “…”
ข้างสระน้ำเล็กๆว่านลุ่ยตั้งเสาทำเป็นเพิงพัก นางเก็บใบไม้ใบใหญ่มาต่อกันมุงเป็นหลังคา จัดแต่งเตาหลอมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถถลุงเหล็กได้จำนวนมากกว่าเดิม
พี่สาวน้องสาวทั้งหลาย กลายเป็นคนงานเหมืองให้นางไปแล้ว ทุกคนต่างวิ่งขึ้นลงระหว่างถ้ำกับเนินดิน ช่วยเก็บหินกรวดแบบที่หญิงสาวต้องการ
คุณหนูใหญ่ฝึกให้ทุกคนใช้จอบใช้เสียม แม้บางคนจะโง่เขลา แต่ก็พอเรียนรู้ได้บ้าง วิ่งแบกตะกร้าขึ้นมาสิบครั้ง ยังไงก็ต้องมีกรวดเหล็กผสมมาบ้าง ซึ่งว่านลุ่ยก็มิได้รีบร้อนอะไร
เพราะไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ความร้อยจากเตาจึงทำให้เหงื่อไคลนางไหลย้อย หยดผ่านส่วนสงวนครั้งแล้วครั้งเล่า กระทบลงบนพื้นดินด้านล่างจนเจิ่งนอง
หากแต่ว่านลุ่ยก็ยังทุบเหล็กก้อนใหญ่อย่างไม่ย่อท้อ นางทุบจนแบนเป็นแผ่นๆ ตั้งหน้าตั้งตาทำไปเรื่อยๆ โดยที่ยังมองไม่ออกว่าหญิงสาวกำลังสร้างอะไร?
***
“แครก! แครก! แครก!” เสียงระคายหูดังน่ารำคาญมาก แต่ไม่มีผู้ใดในถ้ำกล่าวโทษว่านลุ่ย ทุกคนเพียงทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมาย น้องสาวตะวันจันทราไปรดน้ำผัก พี่สาวจอมยั่วและน้องสาวอรุณไปขนกรวดหิน ส่วนพี่สาวแมวก็ให้อยู่ดูแลพี่สาวราตรีเช่นเคย
เพียงแต่ว่านลุ่ยเข้าใจผิดไป เจ้าดำใช่แมวเสียที่ไหน หลายเดือนมานี้มันโตไวมาก ตอนนี้สูงเลยหัวเข่าคุณหนูใหญ่แล้ว ไหนเลยยังจะเรียกแมวได้อีก “…”
เพราะว่านลุ่ยคุ้นเคยกับมันตั้งแต่เล็ก ดังนั้นนางจึงไม่ได้กลัวเจ้าดำตัวนั้นมาก แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเล่นใกล้ๆ เพราะเขี้ยวของมันแหลมคมเหลือเกิน
วันนั้น วันที่ชนเผ่าของนางถูกโจมตีกลางดึกหลังจากทุกอย่างสงบ ว่านลุ่ยพบว่าโล่และหอกตกอยู่ในหมู่บ้านจำนวนมาก ปกติพี่หมีไม่ใช้ของสิ่งนี้ โล่ที่สานจากเถาวัลย์เป็นที่นิยมในหมู่บ้าน ส่วนหอกก็มีแต่ผู้ติดตามของเค้าที่ใช้ ตนจึงคิดสร้างโล่ให้กับเค้าด้วยเช่นกัน
หากแต่โล่ของคุณหนูใหญ่ไหนเลยเรียบง่าย นางเคยเห็นอาวุธของทหารรักษาการเมืองมาแล้ว โล่ที่นางจะสร้างย่อมเลียนแบบมาจากนั่น แม้จะไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็จำรูปลักษณะได้ ดังนั้นจึงคิดสร้างเลื่อยมืออันใหญ่เพื่อผ่าท่อนซุง จะได้นำมาซอยไม้เป็นแผ่นๆ ประดิษฐ์โล่แข็งแรงให้พี่หมีซักอัน...
แผ่นเหล็กกว้างเท่าฝ่ามือยาววาเศษ คุณหนูใหญ่ทุบตีจนเบาบาง จากนั้นซอยข้างหนึ่งออกเป็นซี่เล็กๆราวกันฟันฉลาม บิดไขว้สลับซ้ายขวา แล้วนำหินแม่น้ำเนื้อหยาบมาถูกไถจนคม กว่าจะทำเสร็จก็กินเวลานับสิบวัน
นางหนีบด้ามทั้งสองด้วยท่อนไม้ทำเป็นมือจับ คราแรกพี่สาวน้องสาวคนอื่นๆเห็นก็นึกสงสัย แต่พอว่านลุ่ยแสดงวิธีการใช้ พวกนางก็เข้าใจโดยง่าย น่าเวทนาไม้ใหญ่ใกล้ถ้ำเป็นเหยื่อรายแรก ถูกเหล่าหญิงสาวช่วยกัน ชักเย่อซ้ายขาวจนลำต้นขาด ถูกโค่นลงมาถึงสามต้นภายในวันเดียว
ตอนพี่หมีกลับถึงถ้ำเค้าตกใจแทบฉี่ราด นึกว่าเกิดเรื่องราวผีสางใด ปกติไม้ใหญ่ไม่ได้ล้มง่ายๆ ถึงกับวิ่งหน้าตาแตกตื่นเพราะเป็นห่วงตัวเมียของตน “…”
ปกติชนชาวป่าจะโค่นไม้ใหญ่ด้วยการจุดไฟ พวกเค้าใช้ขวานหินจามลำต้นจนเป็นรูลึก จากนั้นรอจนยางไม้ไหลออกมา นำเศษหญ้าใส่เข้าไปแล้วจุดไฟเผาไปเรื่อยๆ ใช้เวลานานมากกว่าจะล้มลงมาได้ซักหนึ่งต้น
***
“ครืดดดครืดดดครืดดด”!!!
รุ่งเช้า ว่านลุ่ยและพี่สาวจอมยั่วนั่งอยู่คนละฝั่ง ตรงกลางมีท่อนซุงยาวเกือบวา ทั้งสองท่านดึงเข้าข้าดึงออก ช่วยกันเลื่อยไม้ออกเป็นแผ่น โดยมีน้องสาวคนอื่นๆส่งเสียง อูก้าอูก้า แสดงสีหน้าไม่พอใจเพราะพวกนางอยากเล่นด้วย แต่ว่านลุ่ยก็ไม่ยินยอม เนื่องจากพวกนางทำท่อนซุงเสียหายไปหลายท่อนแล้ว!
แผ่นไม้บิดๆเบี้ยวๆบางหนาไม่ได้ขนาด วางกระจัดกระจายไปทั่ว นี่เป็นฝีมือของน้องสาวตะวันและจันทราเอง
หลายวันนี้ พี่หมีในถ้ำมองนางตัวเล็กด้วยสายตาแปลกๆ ในบรรดาของประหลาดที่นางสร้างขึ้น เค้าสนใจอันนี้ที่สุด เพราะที่ผ่านมาชนชาวเผ่าไม่สามารถผ่าไม้เนื้อแข็งท่อนใหญ่ให้เป็นแผ่น อย่างมากก็ทำได้แต่เพียงใช้ขวานจามไม้เนื้ออ่อนต้นเล็กให้แตกออก แต่ผิวไม้ก็ไม่ได้เรียบเหมือนอย่างของนาง
สมัยก่อนว่านลุ่ยมักจะเข้าออกโรงตีเหล็กของบิดาบ่อยๆ ที่นั่นทำเครื่องใช้ในครัวการเกษตรและช่าง ดังนั้นนางย่อมรู้จักอุปกรณ์ทั้งหมด แม้ไม่เคยลงมือทำแต่ก็จดจำขั้นตอนได้ เลยสร้างสิ่งของง่ายๆออกมาได้ไม่ยากนัก
อย่างเช่นกบไสไม้และสิ่วเจาะ นางมีฝีมือแกะสลักเย็บปักถักร้อยอยู่แล้ว พอสร้างเจ้าสิ่งนี้จึงเป็นเรื่องง่าย เพียงตีใบมีดเล็กๆขึ้นมา ยึดด้วยหมุดเหล็กเข้ากับแท่งไม้ที่แกะสลักไว้ ก็นำมาถูไถท่อนซุงจนเรียบงดงาม
วันเวลาดำเนินต่อไปตามปกติ พวกบุรุษในหมู่บ้านออกไปล่าสัตว์ หากแต่พวกสาวๆกับเปลี่ยนไป หลายคนเริ่มขึ้นมาแอบมองแถวถ้ำหัวหน้าเผ่า จ้องมองจนว่านลุ่ยรู้สึกขนลุกขนชัน!
นานวันเข้าคุณหนูใหญ่ก็ค่อยๆชิน เพียงแต่ระยะนี้นางเริ่มจดจำเด็กสาวสองคนได้ ทั้งคู่มักจะมายืนแอบมองนางจนใกล้ค่ำ พอพี่หมีกลับมาพวกนางจึงหายตัวไป สร้างความสงสัยให้ว่านลุ่ยไม่น้อย
แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังช่วยกันกับพี่สาวจอมยั่วแบกเสาไม้ อีกฝ่ายกับวางไม้ที่พาดอยู่บนบ่าลง จากนั้นเดินตรงไปหาเด็กสาวมอมแมมทั้งสอง พวกนางก็ทำท่าหวาดกลัวจะวิ่งหนี แต่ถูกพี่สาวจอมยั่วตวาดเสียงดัง จนทั้งสองหยุดอยู่กับที่ แสดงสีหน้าท่าทางเกรงกลัวขึ้นมา
ไม่ทราบพี่สาวจอมยั่วพูดอะไรกับเด็กสาวจนร้องไห้ จากนั้นจึงจูงแขนพวกนางเดินเข้ามาหาว่านลุ่ย กล่าวกับตนว่า อูก้าอูก้า อู อู อู ซึ่งหญิงสาวก็ไม่เข้าใจ นางจึงตอบกลับไปมั่วๆว่า กา กา อู อู แล้วแบกหามเสาไม้ของตนเองไม่สนใจพวกนางอีก “…”
คุณหนูใหญ่หารู้ไม่ว่า เด็กสาวเหล่านี้เป็นตัวเมียของบุตรชายนาง ทั้งสองสงสัยว่าแม่ของตัวผู้ตนทำอะไร จึงได้พากันมาแอบมอง เพราะอยากจะเล่นด้วยก็เท่านั้นเอง
จู่ๆว่านลุ่ยก็ได้คนงานเพิ่มอีกสอง นางยินดียิ่ง จึงใช้ทั้งคู่ให้ช่วยหยิบจับคานไม้ ส่งให้ตนระหว่างกำลังต่อโครงหลังคา
ใช่แล้ว! คุณหนูหยินต่อเติมปากถ้ำจนกลายเป็นเพิงหลังคาขนาดใหญ่ นางตั้งเสาไว้สิบสองต้น จากนั้นยึดให้เข้ากันด้วยคานไม้ ตอกเชื่อมหมุดเหล็ก แล้วถึงตั้งจั่วต่อจันทัน ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของนางแต่เพียงผู้เดียว!
***
เสียงเคาะป็อกๆแป็กๆดังตลอดทั้งวัน พี่หมีชินกับสิ่งแปลกใหม่ของนางตัวเล็กแล้ว เค้าเดาออกว่านางต้องการจะสร้างรังตนเอง แต่เป็นรังแบบที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน “…”
หากเป็นปกติตัวเมียทั่วไปไหนเลยแยกออกไปสร้างรังตัวเองได้ แต่พี่หมีเชื่อใจในตัวนางจึงไม่ห้าม ทั้งยังส่งเสริมให้ตัวเมียที่เหลือไปช่วยอีกแรง
ผ่านไปอีกหลายสิบวัน เช้าวันหนึ่ง ขณะชายหนุ่มจะออกจากถ้ำ นางตัวเล็กก็วิ่งเข้ามาดึงแขน ลากตนไปยังรังลับของนาง จากนั้นส่งของสิ่งหนึ่งให้ ร่ำร้อง อู อู อู กล่าวคำพูดที่เค้าไม่เข้าใจแม้แต่น้อย!
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะทันทีที่เค้าเห็นเจ้าแผ่นใหญ่ๆตรงหน้า ดวงตาก็เป็นประกาย ไม่รอให้นางตัวเล็กอนุญาตก็หยิบจับขึ้นมา รู้ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นของตนแน่ๆ เพราะตัวเมียที่ไหนจะใช้สอยสิ่งนี้
“อูก้าอูก้าอูก้า อู อู อู”!!!
คุณหนูใหญ่มองบุรุษร่างยักษ์ของตนตื่นเต้นยินดี เค้าจับโล่ของนางพลิกคว่ำพลิกหงาย แม้หนวดครึ้มจะปกปิดใบหน้า แต่ก็มิอาจกดข่มความตื่นเต้นได้ และก็เป็นอีกครั้งที่นางต้องเรียนรู้ ว่าอะไรคือการทุ่มก้อนหินใส่หลังเท้าตนเองอีกครั้ง!
“เอ๊ะ!เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่ง วันนี้ข้าไม่พร้อม!”
ว่านลุ่ยร้องเสียงหลง เมื่อพี่หมีกดนางลงบนพื้นไม้ เนื่องจากมิได้นุ่งผ้า พอนางคุกเข่าลง กาบหอยเล็กๆก็เปิดอ้าออก กลายเป็นเป้าให้พี่หมีจู่โจมอย่างง่ายดาย
นอกรังลับ พี่สาวน้องสาวต่างได้ยินเสียง พั่บพั่บพั่บ แต่พวกนางก็ไม่ได้สนใจ ยังคงทำหน้าที่ของตนเองอย่างรู้งาน
ว่านลุ่ยร้อง อู อู อู เมื่อเช้าประจำเดือนนางเพิ่งมา ตอนนี้กับต้องคลานสี่ บ้างโดนจับพลิกหงาย ถูกพี่หมีกระแทกควบขับ ทั้งยังใช้กำลังมากกว่าปกติ ทำให้นางรู้สึกจุกเสียดไม่น้อย
ในความมืดสลัว ชายหนุ่มกอดเอวตัวเมียของตนไว้แน่น เค้าดีใจมาก โล่ของนางดูครู่เดียวก็รู้ว่าแข็งแกร่งเพียงไหน ต่างจากเถาวัลย์ไม้สานที่ผู้อื่นนิยมใช้ ซึ่งไม่อาจป้องกันการฟาดหวดจากกระบองหินได้ ดังนั้นเค้าจึงไม่เคยคิดที่จะนำมาใช้ เพราะถึงยังไงโยกหลบเอาก็ไม่มีผู้ใดฟาดหวดเค้าโดน
เสียง ตับ ตับ ยังดังอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มชอบช่องแคบของนางมาก ในบรรดาตัวเมียทั้งหมด นางตอดดีที่สุด ทั้งยังคับแน่นมาก ยามกระแทกเข้าแต่ละครั้ง เสียวเสียจนแทบหลั่งเชื้อพันธุ์ออกมา
ทรวงอกของคุณหนูใหญ่สั่นกระเพื่อม นางปล่อยตัวปล่อยใจ นอนระทวยให้พี่หมีจับพลิกไปมา ซ่องเสพความเสียวที่ตนชอบ ไม่ได้ขัดขืนอย่างเช่นตอนแรกแล้ว
ว่านลุ่ยนอนรองรับแรงกระแทก สายตาเหม่อลอย แต่ในสมองกับคิดว่า สมควรทำอาวุธให้เค้าด้วยดีหรือไม่ กลัวว่าพอทำเสร็จ ประวัติศาสตร์จะกลับมาซ้ำรอยกับวันนี้หรือเปล่า “…”
***
