บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

ในหนึ่งปี พิชญ์จะต้องหาเวลาว่างเพื่อบินกลับมาเยี่ยมย่าที่เชียงรายสามครั้งเป็นอย่างต่ำเพื่อไม่ให้ท่านต้องรู้สึกเหงาจนเกินไป และทุกครั้งที่มาเขาก็มักจะคนรักมาด้วยทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ มันคงจะเป็นครั้งแรก...ที่เขาไม่ได้พาเธอมาด้วย

“ทำไมมาคนเดียว แล้วหนูอุ้มล่ะ ไม่ได้ด้วยกันหรอกรึ” คุณจรัสแสงเอ่ยถามหลานชายอย่างอดสงสัยไม่ได้ ไหนเลยจะเรื่องข่าวลือที่นางเองก็จะพอได้ยินมาจากหลายๆ ช่องทาง แต่กระนั้นก็ยังอยากได้ยินจากปากของหลานชายมากกว่า และการที่อีกฝ่ายมาที่นี่คนเดียวนั้น ก็เป็นการตอกย้ำ ‘ข่าวร้าย’ ให้มีความน่าจะเป็นไปเกินครึ่ง

“ผมกับอุ้ม...เราเลิกกันแล้วครับย่า”

ไม่ช้าก็เร็วย่าของเขาก็ต้องได้รู้ความจริงนี้อยู่แล้ว สู้ให้ท่านได้รู้มันจากปากของเขาเองจะดีกว่า ชายหนุ่มคิด ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่บางเบา

“ย่าเสียใจนะที่ได้ยินแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ คนเราน่ะนะพิชญ์ ถ้าลองเกิดมาคู่กันแล้ว คงไม่แคล้วกันหรอก” แม้จะเสียดาย แต่ในเมื่อหลานชายกับอดีตคนรักของเขาได้เลือกแล้ว นางก็ต้องทำใจรับ สิ่งเดียวที่ติดอยู่ในหัวตอนนี้ คือขนาดหนูอุ้มที่เป็นคนใจเย็นขนาดนั้นยังทนพฤติกรรมบ้างานของหลานชายนางไม่ได้ แล้วใครที่ไหนจะทนไหว!

“แบบนี้เรื่องที่ย่าหวังจะได้อุ้มเหลน...ก็คงต้องรอต่อไปสินะ” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางเฝ้าฝันอยากจะได้เหลนสักคนจากหลานชาย แต่ก็ต้องพบกับผิดหวังอยู่ทุกครั้ง เพราะเจ้าตัวยืนยันเสียงแข็ง ว่ายังอยากทำงานไปอีกหน่อย ซึ่งนางก็เข้าใจถึงสิ่งที่หลานจำใจต้องแบกรับ ไม่มีใครอยากให้เรื่องร้ายเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนเป็นที่ต้องมามองเห็นลูกชายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ การจากไปของณดล ลูกชายสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อครอบครัวเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะกับพิชญ์ ที่ต้องละทิ้งความฝันที่อยากเป็นหมอ เพื่อก้าวเข้าสู่อาชีพนักธุรกิจอย่างเต็มตัว และแม้จะไม่ใช่ทางเดินที่เลือกแต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมานี้หลานชายของนางทำได้ดี

“ถ้าย่าอยากให้ผมแต่ง ผมก็จะแต่งให้ครับ” ไม่รู้เพราะอยากจะประชดชีวิต หรือเพราะอะไรกันแน่ ที่มันทำให้พิชญ์เลือกที่จะตอบกลับท่านไปแบบนั้น ใจมันคิดแต่ว่าหากไม่ใช่อดีตคนรักแล้ว เขาก็ไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกับใครทั้งนั้น! แต่ครั้นจะให้เมินเฉยต่อความต้องการของย่าไปเลย ก็กลัวว่าตัวเองต้องกลับไปนั่งรู้สึกผิดอีกสุดท้ายจึงอยากทำให้ทุกอย่างมันจบ

“รู้ใช่ไหม...ว่าพูดแล้วจะกลับคำไม่ได้”

“ครับ”

“ถ้าเรายืนยันมาแบบนี้ ย่าก็จะหาผู้หญิงมาช่วยอุ้มท้องให้ รับรอง...ว่าคนนี้สะอาดหมดจด” เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะเชื่อในฝีมือของย่า หากท่านเลือกแล้ว ทุกอย่างจะต้องดีต่อเขาอย่างแน่นอน

อีกทั้งย่าเอง...ก็เหมือนจะมีคนในใจอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงไม่อยากขัดต่อความต้องการของท่าน นาทีนี้ใครก็ได้ทั้งนั้น

เพราะว่ามันคงไม่ได้สำคัญอะไรกับเขามากนัก!

หลังจากอยู่พูดคุยกับผู้เป็นย่าจนหมอปากหอมคอแล้ว พิชญ์ก็ขอตัวออกมาเดินเล่นที่สวนมะม่วงหลังบ้าน ซึ่งนานๆ จะได้กลับมาบ้านทั้งที ก็ต้องยอมรับว่าทุกสิ่งรอบด้านนั้นไม่ได้ดูเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ในความรู้สึกของเขา โดยเฉพาะแปลงกุหลาบของแม่ ที่ยังอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี

เมื่อตอนยังเด็ก จำได้ว่าเขาเคยวิ่งเล่นอยู่แถวนี้ โดยมีแม่และย่านั่งมองอยู่ห่างๆ

“อื้อ พี่โก๋อย่าดูดแรงนักสิจ๊ะ...เดี๋ยวเป็นรอย!” เสียงไม่พึงประสงค์ที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้น ทำให้เขาต้องรีบสาวเท้าเข้าไปดู ก่อนจะพบเข้ากับแผ่นหลังบอบบางของใครคนหนึ่ง ซึ่งกำลังหลบซ่อนอยู่ที่หลังต้นไม้ สายตากำลังมองไปยังภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังเล่นหนังสดกันกลางสวนมะม่วง ซ้ำยังเป็นเวลากลางวันๆ แสกๆ อย่างไม่วางตา

“มายืนทำอะไรตรงนี้!” / “ว้าย!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel