4 - เครื่องมือหมอต่อ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
มานิดารีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเสียงระฆังช่วยชีวิตมา
“จะไปไหนมานิดา”
“เปิดประตูห้องค่ะ”
“ไม่ต้อง หมอต่อเปิดเอง ใครวะ กล้ามารบกวนตอนที่เครื่องมือแพทย์จะทำงาน” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วลุกขึ้นสาวเท้ายาวๆ ไปยังประตูห้อง พอเปิดออกมาจะต่อว่าสักหน่อยก็เห็นหน้าพ่อบังเกิดเกล้ายิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้อง
“พ่อ”
“เออ! พ่อเอง พาแม่ของหลานพ่อเข้ามาบ้านแทนที่จะหาน้ำหาท่ามาต้อนรับแขกให้ดีๆ แล้วนี่ทำอะไรเนี่ยไอ้ต่อ ใส่เสื้อให้เรียบร้อย หนูมานิดาไปข้างล่างกันเถอะ ฉันจะพาไปเดินชมสวนข้างบ้าน และเดินดูรอบๆ บ้าน เพราะว่าหนูต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้ ไอ้ตอนแรกนึกว่าไอ้ต่อลูกชายฉันจะพาเดินดูบ้าน แต่พอเห็นหายมานานเลยมาตาม และนี่น้ำจ้ะ ฉันให้เด็กเอามาให้” พูดพร้อมกับเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องลูกชาย แล้วก็มีเด็กรับใช้หนึ่งคนถือถาดน้ำดื่มตามไป ส่วนภพธรถึงกับกุมขมับ นี่พ่อของเขาแกล้งเขา เขารู้ ทำไมต้องมาแกล้งตอนนี้ด้วย
“พ่อครับ พ่อไม่ควรมาตอนนี้”
“อือ...ตอนนี้แหละดีที่สุด ดื่มน้ำก่อนนะหนูมานิดา ว่าแต่ชื่อเล่นมีไหมจ๊ะ ฉันจะได้เรียกง่ายหน่อย” พยักหน้าให้เด็กรับใช้ส่งน้ำให้คนที่นั่งหน้าแดงบนเตียง
“นิดาค่ะ ชื่อเล่นของหนู ขอบคุณนะคะคุณ...”
“พ่อ เรียกฉันพ่อเหมือนไอ้ต่อเถอะ ถือว่ามาเป็นลูกสาวบ้านนี้นะ ไหนๆ ก็จะมาเป็นแม่ของหลานพ่อแล้ว”
“คือว่าหนูเปลี่ยนใจได้ไหมคะ ตอนนี้ไม่อยากอุ้มบุญแล้วค่ะ” เธอบอกคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มเอ็นดูมาให้ตนพร้อมกับหยิบแก้วน้ำที่คนของท่านส่งให้มาดื่มแก้กระหาย
“ไม่ทันแล้วมานิดา ถึงเลิกตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะเธอจะเป็นหนี้ฉันทันที ฉันจ่ายค่ารักษาให้แม่เธอแล้วนะมานิดา” ภวัตยังไม่ทันได้พูด ลูกชายตัวดีก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนพร้อมกับเดินเข้ามาหาทั้งสอง
“แต่หมอจะทำ...”
“ไม่ทำแล้ว ไม่ทำแล้ว ฉันไม่ทำแล้ว...วันนี้นะ แต่วันอื่นไม่รอดแน่” ท้ายประโยคของเขาดังแผ่วเบาให้ได้ยินคนเดียว
“จริงนะคะ” เธอถามย้ำอย่างดีใจ
“อือ...พ่อจะพามานิดาไปเดินดูบ้านก็ไปเถอะ ต่อจะอาบน้ำสักหน่อย”
“อย่าแอบใช้มือล่ะ”
“โธ่! พ่อ...เพราะพ่อนั่นแหละ” แล้วเขาก็เดินหัวเสียเข้าไปในห้องน้ำทันที
“ไปกันเถอะหนูนิดา เดี๋ยวพ่อจะพาไปเดินดูบ้านให้ทั่ว จะได้รู้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน” เมื่อแกล้งลูกชายได้แล้วก็หันมายิ้มเอ็นดูให้เด็กสาวที่หน้าแดงอยู่บนเตียง
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มา ถ้าคุณพ่อ...มาช้า หนูแย่แน่ค่ะ” แม้จะรู้สึกแปลกกับคำว่า ‘พ่อ’ แต่เธอก็สะดวกใจจะเรียกคนตรงหน้าว่าพ่อได้อย่างเต็มปาก
“ไปกันเถอะหนู พ่อจะพาชมบ้านให้ทั่ว ดีใจนะที่บ้านนี้หนูจะย้ายมาอยู่ บ้านนี้ไม่ค่อยมีใครอยู่ เพราะพ่อชอบนอนนอกบ้าน ส่วนไอ้ต่อมันก็นอนโรงพยาบาลบ้าง คอนโดบ้าง แต่พอมีหนูมาสงสัยต้องกลับมาบ้านบ่อยๆ แล้วล่ะ แล้วหนูนิดาเคยท้องมาแล้วกี่คนฮึ” ถามพร้อมกับเดินนำหน้าเด็กสาวออกไปจากห้องนอนของลูกชาย และก็หยักยิ้มสะใจเล็กน้อยที่ได้ขัดจังหวะลูกชายใจร้อนได้
“คือว่าหนู...หนูต้องย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอคะ?”
“จริงสิ หนูต้องย้ายมาอยู่นี่ระหว่างที่ท้องหลานของพ่อ จะอยู่จนกว่าจะคลอด แล้วหนูเคยท้องมากี่คนแล้วฮึ” ยังคงรอคำตอบ
“คือว่าหนูยังไม่เคยค่ะ หนูเพิ่งจะทำงานนี้ครั้งแรก พอดีหนูจำเป็นต้องใช้เงิน” เธอบอกท่านขณะเดินลงบันไดลงไป
“หืม...แบบนี้นี่เอง หนูยังไม่เคยแต่งงานด้วยใช่ไหมนิดา”
“ค่ะ หนูยังไม่เคยมีแฟน ไม่เคยแต่งงานมาก่อนด้วย”
คนแก่ได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่ซ่อนยิ้มไว้แล้วเดินตรงไปยังสวนข้างๆ บ้านเพื่อจะพาเด็กสาวเดินดูสวนดอกไม้ที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี
“ว่าแต่หนูจำเป็นต้องใช้เงินทำไมนิดา แล้วเยอะมากเลยเหรอถึงต้องทำแบบนี้ และเมื่อกี้ไอ้ต่อลูกพ่อมันก็พูดถึงเรื่องเงินค่ารักษา...” หยุดเดินแล้วหันมาถามคนที่เดินตามมา
“คือแม่หนูเส้นเลือดในสมองแตกค่ะ แล้วเราก็ไม่มีเงิน หนูเลยไม่รู้จะหาเงินด้วยวิธีไหนเลยเลือกวิธีนี้” เธอบอกท่านเสียงเศร้า
“หนูเป็นคนดีนะเท่าที่คุย เป็นเด็กดีด้วย พ่อชอบ แต่ว่าปกติอุ้มบุญเขาจะให้คนที่เคยมีประสบการณ์มาอุ้มบุญไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมลูกชายพ่อถึงเลือกหนู”
“เขาบอกแค่ว่าชอบความกตัญญูของหนูค่ะ” เธอบอกท่าน
หึ!
“เหรอ” ภวัตตอบรับแค่นั้น เพราะรู้ดีว่าลูกชายชอบอะไร คนอย่างภพธรลูกชายเขานั่นเหรอจะชอบคนกตัญญู มันน่ะปากล่อลวงชัดๆ และก็ได้ของดีเสียด้วยสิ เท่าที่คุยมานี่เด็กคนนี้เป็นคนดีทีเดียว ชักไม่อยากให้แค่อุ้มบุญแล้วสิ อยากได้มาเป็นสะใภ้จริงๆ ซะแล้ว แต่ก็ต้องรอดูต่อไป เพราะลูกชายของเขาทำตัวแปลกวันนี้ พามาที่บ้าน ทั้งๆ ที่ไม่เห็นต้องพามาอยู่บ้านเลย เช่าคอนโดหรือเช่าบ้านให้มานิดาอยู่ก็ได้
“เดี๋ยวพ่อพาเดินเข้าไปดูในสวนนะ” แล้วภวัตก็เดินนำหญิงสาวเข้าไปในสวนที่อยากจะอวด คือจริงๆ แล้วตัวเขาก็เพิ่งจะมาครั้งแรกในรอบหลายๆ สิบปีเลยก็ว่าได้
“ค่ะ”
“หนูนิดาอยู่บ้านนี้ก็คิดเสียว่าเป็นบ้านตัวเองนะ หนูต้องอยู่อีกนาน” เขาบอกเป็นนัย
“ขอบคุณนะคะที่ใจดีกับหนู”
“ไม่ใจดีได้ยังไง หนูจะมาเป็นแม่ของหลานพ่อนะ แล้วนี่เก็บกระเป๋ามารึยังนิดา”
“ยังเลยค่ะ หนูถูกฉุดลากพามานี่ก่อน”
“ลูกชายพ่อเป็นคนแบบนี้แหละ ไอ้ต่อมันใจร้อน แต่มันเป็นหมอที่ดีนะ มือดีระดับหนึ่งของโรงพยาบาลเราเลยนะ และที่สำคัญมันทำลูกเก่งด้วย เพราะต่างชาติก็ต่างมาให้มันทำลูกให้ ใครที่ติดลูกยากๆ มีลูกเลยนะถ้ามาหาหมอต่อ” เขาเน้นย้ำทุกคำในประโยค และคำชื่นชมลูกชายก็มีความหมายอีกความหนึ่งแอบแฝงอยู่ด้วย
“หนูไม่รู้หรอกค่ะ แต่เท่าที่หนูเห็น เขาไม่น่าเป็นหมอที่ดี เขาหื่น”
หึหึ
