ตอนที่4 เกลียดชัง
ตอนที่4 เกลียดชัง
"ฉันเกลียดผู้หญิงอย่างเธอ เกลียดที่สุด!"
"อื้อ!"เสียงร้องอู้อี้ดังออกมาริมฝีปาก หลังจากริมฝีปากของพัฒน์พงษ์กระแทกจูบเธออย่างดุดันทำเอาหญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัวเบิกตาโตกว้างทันที พอได้สติคนตัวเล็กก็พยายามดีดดิ้นดันอีกฝ่ายออกห่างจากกายแต่ด้วยที่ถูกอีกฝ่ายบีบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้มันก็ทำให้เธอไม่อาจหยุดอีกฝ่ายได้
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ทันทีที่อีกฝ่ายถอนจูบหญิงสาวก็หาอากาศหายใจทันที เธอรู้สึกเจ็บระบมไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ไม่รู้ทำไมผู้ชายคนนี้ต้องทำกับเธอด้วย ปากบอกเกลียดเธอต่อว่าเธอสารพัดแต่ก็มาจูบเธอ แถมเป็นจูบแรกของเธออีกด้วยมันอาจจะฟังดูตลกที่อายุยี่สิบห้าปีแล้วแต่ก็ไม่เคยจูบใคร สำหรับฟ้าน้ำค้างเธอไม่เคยมีแฟนไม่เคยเปิดใจให้กับใครเพราะไม่อยากทำให้คุณย่าผิดหวังเลยตั้งใจเรียนมาโดยตลอดพอเรียนจบก็เอาเวลาไปสนใจร้านขนมจนไม่ได้เปิดโอกาสให้ใครเข้ามาในชีวิต
"คู่นอนเธอไม่สอนเรื่องจูบเลยรึไง ไม่ได้เรื่อง!"ไม่รู้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ดูไม่ประสีประสากับเรื่องพวกนี้เลย หรือว่าเธอกำลังแสดงละครว่าเป็นสาวน้อยอ่อนต่อโลกอยู่ไม่น่าทันแล้วมังป่านนี้แล้วคิดว่าเขาโง่นักเหรอ
"เลว เปิดประตูค่ะน้ำจะกลับเอง!"
"อวดเก่งไม่ดูตัวเอง เอาสิอยากลงไปให้คนรุมโทรมก็เอาเลย อยากเห็นข่าวหน้าหนึ่งพอดีว่าพบศพผู้หญิงใจแตกโดนรุมข่มขืน"
"คุณพัฒน์ ใจร้ายที่สุดทำไมถึงต้องพูดจาแบบนี้กับน้ำด้วย ไม่พอใจน้ำเรื่องที่รับปากคุณย่ามากเลยงั้นเหรอคะถึงได้ทำแบบนี้กับน้ำ"
"เพราะฉันเกลียดเธอไง ปลิงที่เกาะกุลไพรัตน์มานานหลายสิบปีอย่างเธอ ฉันเกลียดที่สุด"
"คิดว่าน้ำไม่อยากไปจากบ้านนั้นงั้นเหรอคะ น้ำเคยขอคุณย่าแล้วแต่คุณย่าไม่ยอม อีกอย่างนะคะตอนนี้น้ำหาเงินเองได้แล้วไม่ได้เกาะคุณย่าเสียหน่อย"
"หึ ไอ้ร้านขนมของเธอก็มาจากเงินใคร อย่าปากเก่งถ้ายังทำไม่ได้อย่างที่พูด!"ชายหนุ่มพูดจบก็เหยียบคันเร่งการกระทำของชายหนุ่มทำเอาฟ้าน้ำค้างสะอึกไม่น้อย เธอหันหน้ามองออกนอกหน้าต่างรถด้วยน้ำตาที่คลอล้นออกมา ตลอดเวลาที่อยู่บ้านหลังนั้นคำพูดที่เธอต้องเจอตลอดก็คำพูดที่ว่าเธอเป็นปลิงเกาะกุลไพรัตน์์ไม่ยอมปล่อย เรื่องเงินลงทุนร้านเธอไม่เถียงว่าคุณหญิงวิไลวรรณเป็นคนออกให้แต่เธอก็ผ่อนคืนท่านมาหลายงวดแล้วถึงแม้หญิงชราไม่อยากได้คืนก็ตาม
ทันทีที่รถหรูเลี้ยวมาจอดที่โรงจอดรถ คนตัวเล็กก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูวิ่งเข้าบ้านทันที ทำให้พัฒน์พงษ์มองก่อนจะส่ายหน้าไปมา เขารู้ว่าหญิงสาวร้องไห้กับคำพูดของเขาแต่แล้วไง เขาพูดผิดตรงไหนทุกอย่างที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ไม่รู้คุณย่าจะเอ็นดูผู้หญิงแบบนี้ทำไมต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่าง แค่นึกถึงภาพที่หญิงสาวออกมาจากโรงแรมกับผู้ชายที่เขาเจอในวันนี้ชายหนุ่มก็ยิ่งไม่พอใจ เขาเกลียดผู้หญิงประเภทนี้ที่สุด
"ฮึกฮือ คนใจร้ายน้ำเกลียดคุณ"หญิงสาวนึกถึงรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้ก็ยิ่งไม่พอใจ เธอต้องมาเสียจูบแรกให้กับผู้ชายใจร้ายอย่างพัฒน์พงษ์ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ
เช้าของวันใหม่
คนตัวสูงเดินลงบันไดมายังห้องอาหารตามเวลาเดิมเฉกเช่นทุกวัน พอเห็นคนเป็นย่านั่งอยู่ชายหนุ่มก็เอ่ยทักทายทันที หญิงชราได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มพอเห็นฟ้าน้ำค้างจะเดินออกไปจากบ้านเธอก็เรียกไว้เสียก่อน
"จะรีบไปไหนหนูน้ำมาทานข้าวก่อนสิจ๊ะ"
"เอ่อ น้ำจะไปเปิดร้านค่ะวันนี้มีออเดอร์นัดรับช่วงเที่ยง"
"ยังพอมีเวลามาทานข้าวกับย่าก่อน หนูน้ำไม่ค่อยทานข้าวกับย่าเลยยุ่งตลอดเวลา หรือว่าไม่อยากทานข้าวกับคนแก่อย่างย่า"
"ไม่ใช่นะคะคุณย่า"พอเห็นสีหน้าของหญิงชราที่ดูน้อยใจเธอ หญิงสาวก็จำใจเดินเข้าไปนั่งร่วมรับประทานอาหารเช้าทันทีที่เธอไม่อยากอยู่ทานข้าวด้วนก็เพราะไม่ต้องการเห็นหน้าคนใจร้ายอย่างพัฒน์พงษ์ยังไงล่ะ
"วันนี้รสชาติอาหารฝีมือป้าอ่อนไม่อร่อยเลยนะครับ"
"ป้าก็ทำรสชาติเหมือนเดิมเลยนะคะคุณพัฒน์"
"งั้นเหรอครับ สงสัยวันนี้อากาศมันไม่ดีเลยทำให้อาหารตรงหน้าผมไม่อร่อยทุกอย่างเลย ผมขอตัวก่อนนะครับคุณย่า"ชายหนุ่มตวัดสายตาดุดันมาที่หญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่ก่อนจะเผยรอยยิ้มมุมปากออกมา วันนี้ทำเป็นกลัวเมื่อวานยังปากเก่งกับเขาอยู่เลย คงเล่นละครให้ย่าเขาเห็นกระมังรับบทผู้น่าสงสารอีกแล้ว
"อย่าไปสนใจเลยหนูน้ำ ทานข้าวกันเถอะ"เธอรู้ดีว่าหลานชายของตัวเองพูดจากระแทกแดกดันใคร เพราะแบบนี้ฟ้าน้ำค้างถึงไม่อยากทานข้าวด้วยทำไมเธอจะไม่รู้กัน หลานชายเธอก็กระไรปากร้ายต่อว่าฟ้าน้ำค้างสารพัดคอยดูเถอะอย่ามาตกหลุมรักฟ้าน้ำค้างของเธอแล้วกัน
หลังจากที่หญิงสาวทานข้าวอิ่มก็ขอตัวไปที่ร้าน หญิงชราที่เห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมา ชีวิตบั้นปลายคนแก่จะมีอะไรกัน อยู่แบบนี้ทุกวันมันก็เหงามากๆ อยากมีเหลนน้อยวิ่งเล่นไปมาสักคนสองคน เธอมาคิดดีแล้วว่าจะเริ่มแผนการที่วางไว้เร็วๆ นี้ เธอให้คนไปซื้อสิ่งที่ต้องการมาแล้วรู้สึกสิ่งที่เธอกำลังทำมันแย่ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างที่ทำให้หญิงชราตัดสินใจทำแบบนี้
"วันนี้เริ่มแผนการเลยนะแม่อ่อนฉันจะไม่รออะไรอีกแล้ว"
"ได้ค่ะคุณท่าน บางทีพอคุณพัฒน์กับหนูน้ำมีลูกด้วยกันทุกอย่างก็คงดีขึ้น หนูน้ำน่ารักนิสัยดีแบบนี้อ่อนเชื่อว่าจะทำให้คุณพัฒน์ตกหลุมรักได้แน่"
"ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น บอกตามตรงฉันกลัวว่าหลานชายของฉันจะไปคว้าใครที่ไหนไม่รู้มาเป็นเมีย ดูอย่างแม่เจนอะไรนั่นดีนะที่ตาพัฒน์จับได้ไม่งั้นก็คงโง่ให้แม่นั้นหลอกอยู่นาน"นึกถึงผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นสีหน้าของหญิงชราก็เผยความไม่พอใจออกมา เธอเคยเตือนหลานชายหลายครั้งแต่ก็ไม่เชื่อไม่รู้จะหลงอะไรแม่นั่นนักหนาท้ายที่สุดพ้นคำพูดเธอเสียเมื่อไหร่กัน
อีกด้านของฟ้าน้ำค้าง
หญิงสาวมาถึงร้านก็เจอน้องพนักงานที่มาเปิดร้านก่อนหน้านั้นแล้ว เธอจึงรีบเข้าไปทำขนมที่ลูกค้าสั่งรวมถึงที่ต้องขายหน้าร้านด้วย ดีที่มีผู้ช่วยคอยเตรียมทุกอย่างเอาไว้เธอจึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไร พอได้ทำอะไรที่เธอรักสมองก็ดูผ่อนคลายมากขึ้นไม่ได้เครียดเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว
เพราะเหตุการณ์บ้าๆ ทำให้หญิงสาวแทบนอนไม่หลับกว่าจะหลับก็ผ่านตี3 ไปแล้ว วันนี้พอหลังจากทำขนมเสร็จคนตัวเล็กก็ไปงีบนอนหลังร้านที่เธอทำห้องนอนเล็กๆ เอาไว้พักผ่อน เธอนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งหลับไปในที่สุด
หลังจากที่ฟ้าน้ำค้างพักสายตาได้ไม่กี่ชั่วโมงเธอก็ออกมาดูความเรียบร้อยภายในร้าน ก่อนที่หญิงสาวจะมานั่งเคลียร์รายรับรายจ่ายภายในร้าน ถือว่าผลประกอบการเดือนนี้ของเธอเป็นที่น่าพอใจอยู่มาก หักจากค่าพนักงานค่าในส่วนของการซื้อของเข้าร้านวัตถุดิบต่างๆ หักค่าที่ผ่อนให้กับคุณหญิงวิไลวรรณเธอก็ยังเหลือกำไรอยู่พอสมควร แบบนี้ในอนาคตเธอก็คงอยู่ตัวแล้ว แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้แน่นอนเสมอไปฟ้าน้ำค้างจึงต้องหาขนมใหม่ๆ มาให้ลูกค้าเลือกมากขึ้น แบบนี้ร้านของเธอก็จะได้มีลูกค้าเรื่อยๆ
"เก็บร้านเสร็จก็กลับบ้านกันเลยนะ"
"ค่ะพี่น้ำ เอ่อขอบคุณสำหรับขนมด้วยนะคะ น้องสาวหนูชอบขนมฝีมือพี่น้ำมากๆ"อิงแก้วหนึ่งในพนักงานที่เธอจ้างเอ่ยออกมาด้วยร้อยยิ้ม เวลาที่ขนมที่ร้านขายไม่หมดเธอก็ให้พนักงานเอากลับไปทานที่บ้านได้ เพราะเธอไม่เก็บขนมค้างคืนมาขายให้กับลูกค้า
"โอเคจ้า งั้นพี่ไปก่อนนะกลับบ้านดีๆ กันล่ะ"หญิงสาวบอกก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา วันนี้เธอขับรถมาเองจึงไม่ต้องเรียกรถ ปกติไปเที่ยวผับจะเป็นวาตะเป็นคนมารับเธอ พูดถึงเพื่อนสนิทก็เงียบหายไปเลยไม่รู้ป่านนี้เป็นไงบ้าง
