ตอนที่3 คนใจร้าย
ตอนที่3 คนใจร้าย
ผ่านไปนานหลายชั่วโมง
ในตอนนี้วาตะเมาจนได้ที่แล้วส่วนพลอยพรรณก็ดื่มไปมากโข คนที่ดูเหมือนมีสติที่สุดก็ไม่พ้นฟ้าน้ำค้างเฉกเช่นเคย หญิงสาวมองสภาพของเพื่อนก่อนจะส่ายหน้าไปมา เธอยกมือเรียกพนักงานมาเก็บเงินก่อนจะปลุกเพื่อนทั้งสอง ดีหน่อยที่พลอยพรรณยังมีสติพอที่จะเดินเองได้ส่วนวาตะไม่ต้องพูดถึงเมาจนแทบเดินไม่ไหว ดีที่พลอยพรรณช่วยพยุงไม่งั้นเธอก็คงเหนื่อยอีกตามเคย
"วาตะเดินดีๆ สิ เดี๋ยวล้มกันไปหมดนี้เลยหรอก"
"ชนแก้ว ชน!"
"ชนอะไรอีก เมาขนาดนี้แล้ว"พลอยพรรณเอ่ยออกก่อนจะถอนหายใจอย่างหมดคำจะพูดเมื่อเห็นสภาพของเพื่อน
"ขออนุญาตครับผมมารับคุณชายกลับ"เสียงเข้มของผู้ชายในชุดสูทสีดำเอ่ยขึ้น ฟ้าน้ำค้างจำได้ว่าเขาคือบอดี้การ์ดของพ่อเพื่อนหนุ่ม แต่ที่สงสัยก็คือเขาตามวาตะมาที่นี่งั้นเหรอ
"เอ่อ คือว่า"
"มัวยืนรออะไรไปพยุงคุณชายสิ!"เขาหันไปบอกชายชุดดำอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังทำให้ฟ้าน้ำค้างกับพลอยพรรณไม่กล้าห้ามอะไรอีกฝ่ายถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็เป็นคนของเพื่อนหนุ่ม
"ถ้างั้นก็ฝากด้วยนะคะ"เธอเอ่ยออกไปก่อนจะมองภาพที่เพื่อนสนิทโดยพยุงขึ้นรถไปในที่สุด พอหมดเรื่องตรงนี้สองสาวก็พากันถอนหายใจออกมาทันที นี่แหละนะชีวิตของคนรวยอะไรก็ต้องอยู่ในกรอบเป็นตัวของตัวเองแทบไม่ได้ ข้อนี้เธอก็รู้สึกสงสารเพื่อนสนิทเหมือนกันที่ถูกให้ปิดบังเพศสภาพของตัวเอง
"งั้น เรากลับก่อนนะน้ำดึกมากแล้ว"
"โอเค ขับรถดีๆ นะไหวแน่ใช่ไหม"
"ไหว แค่นี้จิ๊บๆ"พลอยพรรณหันหน้ามาบอกเพื่อนก่อนจะระบายยิ้มออกมาให้ เธอเดินตรงไปที่รถของตัวเอง พอฟ้าน้ำค้างเห็นอย่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเรียกแกร๊บทันที แต่ทว่ายังไม่ทันกดตกลงเสียงของใครอีกคนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"ไง เสียดายรึไงที่วันนี้คู่ขาไม่ว่างนอนด้วย"หญิงสาวหันหน้าไปมองตามเสียงพอเห็นว่าเป็นใครใบหน้าสวยก็เผยความตกใจออกมาทันที เธอไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายที่เธอไม่อยากเจออย่างเขาคนนี้
"คะ?"เธอตั้งสติก่อนจะขมวดคิ้วไม่เข้าใจคำพูดของชายหนุ่มคนตรงหน้า
พัฒน์พงษ์ยกมุมปากขึ้น ท่าทางของชายหนุ่มทำให้ฟ้าน้ำค้างยิ่งไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอไม่ชอบเลยจริงๆ ไอ้ท่าทางแบบนี้ของอีกฝ่าย ทั้งสายตาดูถูกรอยยิ้มร้ายๆ ของอีกฝ่ายเธอไม่ชอบเลยสักครั้งเดียว
"ขึ้นรถฉันมีเรื่องจะคุยด้วย"
"เอ่อ...."
"อย่าให้พูดหลายรอบขึ้นรถซะ!"เพราะเห็นว่านี่ดึกแล้วและก็อยากคุยผู้หญิงคนนี้ให้รู้เรื่องเขาจึงเอ่ยออกไปอย่างนั้น แต่ท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าที่ไม่อยากไปกับเขามันสร้างความหงุดหงิดให้แก่ชายหนุ่มพอสมควร ทำท่าเหมือนเป็นผู้หญิงอ่อนต่อโลกไปได้คิดว่าเขาไม่รู้รึไงว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทไหน คิดจะเล่นละครตบตาเขามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
เมื่อปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้หญิงสาวจึงจำใจขึ้นรถของชายหนุ่มไปในที่สุด เธอรู้สึกอึดอัดพอสมควรกับการนั่งรถไปกับผู้ชายคนนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงแม้จะอยู่บ้านเดียวกันแต่ทุกครั้งฟ้าน้ำค้างก็พยายามหาทางหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอหน้าของผู้ชายคนนี้ พอมาคิดถึงตรงนี้ใบหน้าสวยก็เผยความกังวลออกมา เธอไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่จะยอมอุ้มท้องลูกของเขา แค่นั่งข้างๆ ยังแทบทนไม่ไหวแล้ว
"เรื่องลูก คิดอะไรอยู่ถึงไปตอบตกลงคุณย่า?"ชายหนุ่มที่เงียบอยู่นานในที่สุดก็เอ่ยออกมา เขาอยากรู้ว่าทำไมฟ้าน้ำค้างถึงได้ตอบตกลงไปอย่างนั้น หรือเพราะเงินงั้นเหรอทำให้หญิงสาวยอมรับข้อเสนอของคุณย่าเขา
"เอ่อ น้ำก็แค่อยากตอบแทนบุญคุณคุณย่าค่ะ"
"หึ!"เสียงหัวเราะในลำคอของชายหนุ่มดังออกมา ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่ชอบเอาเสียเลย
"......"แต่ถึงไม่ชอบหญิงสาวก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เธอรู้ตัวเองดีว่าเป็นเพียงเด็กที่คุณหญิงย่ารับอุปการะส่วนเขาเป็นถึงทายาทเพียงคนเดียวของผู้มีพระคุณอีกอย่างถึงตีฝีปากกับผู้ชายคนนี้ไปเธอก็สู้เขาไม่ได้อยู่ดี
"ไปปฏิเสธคุณย่าซะ เพราะฉันจะไม่มีวันมีลูกกับผู้หญิงอย่างเธอ ลูกของฉันควรเกิดมาจากผู้หญิงที่ดีกว่านี้"จุกชะมัด ปากของพัฒน์พงษ์ยังร้ายไม่เคยเปลี่ยน ผู้หญิงอย่างเธอเป็นยังไงกันในสายตาของเขาคงแย่มากสินะ
"ถ้าหากคุณพัฒน์ไม่ยอมก็คงต้องไปบอกคุณย่าเอง น้ำตกลงไปแล้ว"เธอจะไปบอกคุณย่าว่าไม่ยอมก็คงไม่ได้ ถ้าหากเขาไม่อยากทำอย่างนั้นรังเกียจเธอมากก็ควรจัดการเรื่องนี้เอง เขาพูดคงมีอำนาจมากกว่าเธอส่วนเธอจะทำอะไรได้กัน แค่คิดเห็นใบหน้าของหญิงชราผิดหวังในคำพูดเธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว
"ที่ไม่ปฏิเสธเพราะหวังอะไรอยู่ล่ะฟ้าน้ำค้าง?"
"คุณพัฒน์หมายความว่าไงคะ?"
"ต้องให้ฉันพูดสาธยายงั้นเหรอว่าผู้หญิงอย่างเธอต้องการอะไรจากฉัน ที่ผ่านมายังไม่พอใจรึไงเกาะเป็นปลิงมาตั้งนานคิดอยากกอบโกยไปถึงไหนกันล่ะ ฉันก็ไม่รู้นะว่าอะไรทำให้คุณย่ามองเธอว่าควรเป็นแม่ของลูกฉัน เธอมันก็แค่ผู้หญิงใจแตกหลับนอนกับผู้ชายเป็นว่าเล่นมีอะไรคู่ควรกัน!"
"คุณพัฒน์!"ด้วยความโมโหทำให้หญิงสาวเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจออกไป ชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้นก็หักรถเลี้ยวจอดข้างทางก่อนจะตวัดสายตามามองคนตัวเล็กอย่างเกลียดชัง ดีที่ถนนในตอนนี้ไม่ได้มีรถสัญจรมากเหมือนตอนกลางวันไม่งั้นก็คงเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว
"ขึ้นเสียงใส่ฉันงั้นหรอห๊ะ!"
"ก็คุณพูดจาไม่ดีกับน้ำก่อนหนิคะ"
"แล้วมันไม่จริงรึไง เธอเดินออกมาจากโรงแรมกับผู้ชายเป็นว่าเล่นจะให้ฉันคิดว่าไง เธอมันนี่เลี้ยงไม่เชื่องคุณย่าอุตส่าห์เลี้ยงดูเธอมาแต่เธอมันก็ไม่คิดรักดี!"คำพูดของชายหนุ่มยิ่งทำให้คนตัวเล็กไม่พอใจ เธอจะเปิดประตูรถลงไปแต่ทว่าก็เปิดไม่ออกจนต้องหันหน้ากลับมามองชายหนุ่มอีกครั้ง
"เปิดประตูค่ะ น้ำไม่กลับไปกับคุณแล้วคนที่เอาแต่คิดดูถูกคนอื่นน้ำไม่ชอบ"
"เป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาบอกไม่ชอบฉัน ลืมไปรึเปล่าเธอเป็นใครฉันเป็นใคร อีกอย่างฉันไม่ได้พูดผิดเลยสักนิดรับไม่ได้รึไงที่ฉันรู้เรื่องเน่าๆ ของเธอที่ทำลับหลังคุณย่า!"เธอหมดคำจะพูดกับผู้ชายอย่างเขาเลยจริงๆ จิตใจมืดบอดไม่สนใจใครอย่างพัฒน์พงษ์เธอไม่อยากข้องเกี่ยวเลยสักนิด
"ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอร้องของคุณย่า น้ำก็ไม่อยากมีลูกกับคุณเหมือนกัน น้ำสงสารลูกถ้าต้องเกิดมาเป็นลูกของผู้ชายใจร้ายอย่างคุณ!"จากที่คิดว่าไม่ควรตีฝีปากกับคนอย่างเขาแต่ทว่าในตอนนี้เธอกลับไม่กลัวอะไรอีกฝ่ายแล้ว ที่ผ่านมาเธอไม่ตอบโต้ไม่สนใจคำพูดต่างๆ นานาของพัฒน์พงษ์แต่ตอนนี้เธอไม่ทนแล้ว คนอะไรปากสกปรกด่าเธอแต่ละคำแรงๆ ทั้งนั้น
"ว่าอะไรนะ!"
"คิดว่าน้ำอยากมีลูกกับคุณรึไงกัน ดีเหมือนกันที่คุณปฏิเสธ เปิดประตูรถด้วยน้ำจะลง"
"หึ! เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น ที่ผ่านมาผู้หญิงคนนี้มีเงินเรียนจนจบมีเงินใช้ถ้าไม่ได้มาจากเขามาจากใครกัน ถึงแม้คุณย่าของเขาจะอุปการะแต่ทว่าเรื่องเงินเขาเป็นคนดูแลทุกอย่าง มาวันนี้ผู้หญิงคนนี้กล้าตีฝีปากกับเขางั้นเหรอคิดว่าคนอย่างเขาจะยอมอยู่เฉยๆ ให้เธอได้ใจงั้นเหรอฝันไปเถอะ
"ปากดีนักใช่ไหม!"
"คุณพัฒน์จะทำอะไร ถะ ถอยออกไปนะคะ"ฟ้าน้ำค้างตกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะโน้มตัวเข้ามาหาเธอ เธอจะหนีไปไหนได้รถก็แค่นี้
"มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง?"ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างดุดันก่อนจะกระชากเรียวแขนทั้งสองของหญิงสาวเอาไว้พร้อมบีบมันเอาไว้แน่น ฟ้าน้ำค้างรู้สึกเจ็บจนเผยสีหน้าเหยเกออกมา เธอพยายามดีดดิ้นแต่ทว่าก็ไม่เป็นผล เธอไม่อาจหลุดจากการกอบกุมของอีกฝ่ายได้เลย
