ตอนที่2 ก็แค่ผู้หญิงใจแตก
ตอนที่2 ก็แค่ผู้หญิงใจแตก
"มันก็จริง แต่จะให้ฉันปฏิเสธคุณย่าก็ทำไม่ได้ แกก็รู้ว่าท่านคือคนที่ทำให้ฉันมีวันนี้"ฟ้าน้ำค้างเอ่ยออกไปด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ใช้ว่าเธอไม่คิดถึงเรื่องนี้ แต่ทว่าเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะพบเจอผู้ชายคนนั้นรึเปล่า คนที่เธออยากสร้างอนาคตไปกับเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
"เฮ้อ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น วันนี้เราไปดื่มไหมจะได้ลืมความเครียดพวกนี้ไป"
"ฉันคออ่อนจะตายยังชวนไปดื่มอีก"เรื่องแอลกอฮอล์ฟ้าน้ำค้างไม่สู้จริงๆ ถึงแม้จะเคยไปสถานที่พวกนั้นก็ตามแต่ก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น
"เอาแค่จิบๆ ชวนพลอยไปด้วยตอนเย็นเจอกันฉันไปทำงานก่อนล่ะ"
"โอเค ขับรถดีๆ นะ"หญิงสาวพูดจบเพื่อนหนุ่มก็ลุกเดินออกไปจากร้านไม่ลืมถือกาแฟที่พนักงานนำมาเสิร์ฟด้วย
อีกด้านของพัฒน์พงษ์
ชายหนุ่มนั่งประชุมด้วยสีหน้าบึ้งตึง ดูเหมือนวันนี้ท่านประธานหนุ่มอย่างเขาจะหงุดหงิดจนทำให้เหล่าพนักงานทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว กว่าประชุมจะจบลงก็ทำเอาทุกคนแทบขาดใจตาย ปกติพัฒน์พงษ์เป็นคนดุอยู่แล้ว มาวันนี้ก็ยิ่งดูดุมากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าใครไปทำอะไรให้ไม่พอใจกันถึงได้เป็นแบบนี้
"เหมือนวิญญาณฉันจะออกจากร่างแล้ว"
"นั้นสิท่านประธานโมโหอะไรมากันถึงได้ทำหน้าบอกบุญไม่รับแต่เช้าเลย"
"ใครจะไปรู้ ที่แน่ๆ เราอย่าทำให้ท่านไม่พอใจมากไปกว่านี้เถอะไม่งั้นตายของจริง"พนักงานต่างพูดกันออกมาด้วยสีหน้าขนลุกกับสิ่งที่เกิดขึ้น กว่าจะออกมาจากห้องประชุมเรียกได้ว่าสาหัสพอสมควร
ร่างสูงเข้ามาในห้องทำงานก่อนจะเลื่อนมือมาดึงเนคไทเล็กน้อย จากที่พยายามไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นย่าแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ ยิ่งนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น พัฒน์พงษ์ก็ยิ่งหงุดหงิด เธอไปพูดหรือไปทำอะไรให้ย่าเขามีความคิดอย่างนั้นกัน หรือว่าฟ้าน้ำค้างคิดอยากจับเขางั้นเหรอ
ปกติก่อนน่าย่าของชายหนุ่มก็เคยพูดถามเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นจริงจังมากขนาดนี้เลย ต้องมีคนไปพูดอะไรเป้าหูแน่ๆ ไม่งั้นก็ไม่มาบังคับเขาแบบนี้หรอก เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาหลายต่อหลายครั้ง เขาไม่รู้ว่าจะจัดการผู้หญิงอย่างฟ้าน้ำค้างยังไง ตั้งแต่เด็กยันตอนนี้ก็ยังเกาะเป็นปลิงกับครอบครัวเขา ใช่อยู่ที่ว่าหญิงสาวเป็นลูกสาวของอดีตคนงานที่บ้านแต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะมาชูคออยู่ที่บ้านของเขาเสียหน่อย เอาอกเอาใจย่าเขาเก่งเหลือเกินจนบางครั้งชายหนุ่มก็รู้สึกไม่แน่ใจแล้วใครกันที่เป็นหลาน เขาเกลียดที่สุดก็คือผู้หญิงที่สร้างภาพเป็นคนดีแต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย สำหรับเขาฟ้าน้ำค้างก็แค่ผู้หญิงใจแตกคนนึงที่เข้าโรงแรมกับผู้ชาย ถ้าไม่เห็นกับตาก็คงไม่เข้าใจอย่างนี้หรอก แต่นี่เขาเห็นกับตาตัวเอง ไม่รู้ว่าย่าของเขาจะหลงเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนั้นไปได้ยังไงกัน
"คอยดูฉันนี่แหละจะกระชากหน้ากากของเธอเองฟ้าน้ำค้าง!"
20:21 นาที
ร่างสูงของพัฒน์พงษ์เดินเข้ามาในผับแห่งหนึ่งด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หลังจากที่เคลียร์งานเสร็จชายหนุ่มก็ตรงมาดื่มกับเพื่อนที่นี่ พอเห็นหน้าของตุลย์ เพื่อนสนิทที่รู้จักมานานหลายปีก็พยักหน้าทักทายทันที
"ไงวะ ทำหน้าบอกบุญไม่รับมาเชียวนะ"
"ก็ไม่ไง มีเรื่องหงุดหงิดนิดหน่อย"ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรับแก้วเหล้าที่พนักงานชงมาให้ก่อนจะกระดกลงคอฮึกใหญ่
"เรื่องอะไรวะ?"ตุลย์เอ่ยถามเพื่อนออกมาทันที เพราะท่าทางสีหน้าอมทุกข์ของเพื่อนสนิทมันทำให้เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อได้ยินคำถามพัฒน์พงษ์ก็ถอนหายใจออกมาทันทีก่อนที่เขาจะพูดเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจออกไป
"ว่าไงนะ ย่ามึงอยากอุ้มเหลนจนให้มึงมีลูกกับเด็กในบ้านงั้นเหรอ"
"อืม"
"เชี้ย กูนึกว่ามีแต่ในนิยายไอ้เรื่องพวกนี้ แล้วผู้หญิงคนนั้นยอมงั้นเหรอวะ มีลูกนะมึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ”
"เธอยอมเห็นย่าบอกอย่างนั้น"พอได้ยินคำพูดของเพื่อนตุลย์ก็ระบายยิ้มออกมาทันที
"ก็ไม่แย่ไม่ใช่รึไงวะเด็กคนนั้น หน้าตาก็ดีหุ่นนี่นะอือหือเลย เป็นกูไม่มาเครียดแบบมึงหรอก"
"หึ! กูไม่ได้พิศวาสผู้หญิงใจแตกแบบนั้น เข้าโรงแรมกับผู้ชายเป็นว่าเล่นกูไม่แปลกใจเลยทำไมถึงตอบตกลงกับย่ากูง่ายๆ คงจะหน้าเงินพอตัว"
"เข้าโรงแรมกับผู้ชาย หมายความว่าไงวะผู้หญิงอย่างฟ้าน้ำค้างน่ะเหรอ?"
"เออ ผู้หญิงอย่างยัยนั่นแหละกูเห็นมากับตาตัวเองถึงได้รู้ไงว่าหน้ากากที่ดูใสซื่อเรียบร้อยแท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย"
"เชี้ย กูคิดไม่ถึงเหมือนกันแล้วนี่มึงเอาไงวะ"
"กูไม่ได้ตกลงอะไรไป แต่คุณย่าก็พูดไม่เลิกกลัวว่ากูจะโดนผู้หญิงคนอื่นจับ แต่ไม่ยอมดูผู้หญิงที่พยายามยัดเยียดให้กับกู เฮ้อยิ่งคิดยิ่งเครียดวะ"
"เออ ไม่แปลกใจล่ะว่าทำไมมึงทำหน้าอย่างนี้ คุณย่ามึงก็แปลกคิดอยากให้มึงได้กับเด็กในบ้านซะงั้น"
"ใช้วิธีแพทย์ แต่ถึงอย่างงั้นกูก็ไม่ได้อยากมีลูกกับผู้หญิงคนนั้น ลูกกูควรเกิดจากผู้หญิงที่ดีกว่านี้"เขาคิดอย่างที่พูดจริงๆ ฟ้าน้ำค้างมีอะไรดีกันคุณย่าเขาถึงได้อยากให้เป็นแม่ของลูกเขา ก็แค่เด็กกำพร้าแถมเป็นลูกคนงานในบ้าน ไหนจะทำตัวเหลวแหลกอีก แค่คิดเขาก็ส่ายหัวแล้ว
อีกด้านในเวลาเดียวกัน
"วันนี้คนเยอะจัง"เสียงหวานของหญิงสาวดังออกมาเมื่อเดินเข้ามาในสถานที่บันเทิงแห่งนี้
"วันศุกร์ด้วยไงคนเลยเยอะ เฮ้อพอเห็นผู้ชายเยอะแบบนี้หัวใจฉันก็เต้นแรงเป็นบ้า"วาตะพูดขึ้นทำให้ฟ้าน้ำค้างส่ายหน้าไปมาทันที ต่อหน้าทุกคนเพื่อนสนิทมักจะทำตัวเหมือนชายแท้เพราะครอบครัวไม่ยอมรับแต่พอมาอยู่กับเธอชายหนุ่มก็ดูเป็นตัวเองมากจริงๆ
"พลอยใกล้มาถึงรึยัง?"
"เดี๋ยวฉันโทร.หาแป๊บนะ"หญิงสาวหยิบโทรศัพท์กดโทร.หาเพื่อนอีกคน แต่ทว่าพลอยพรรณก็เข้ามาในร้านพอดี
"ฉันอยู่นี่จ้า"เสียงใสของพลอยพรรณทำให้ฟ้าน้ำค้างหันหน้าไปยิ้มทันที
"คิดถึงๆ"
"ไม่ต้องเลย เจอกันทุกอาทิตย์ยังมาบอกคิดถึงอีก"พลอยพรรณเอ่ยขึ้นก่อนที่พวกเธอทั้งสามจะเดินไปนั่งโต๊ะที่วาตะจองเอาไว้
ในบรรดาเพื่อนคงเป็นวาตะที่ร่ำรวยกว่าใคร ส่วนเธอก็แค่เด็กที่คุณหญิงวิไลวรรณรับอุปการะถึงแม้จะเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยติดอันดับในประเทศแต่ก็ไม่ใช่เงินของเธออยู่ดี ส่วนพลอยพรรณ เพื่อนคนนี้ฐานะที่บ้านก็ปานกลางแต่เดี๋ยวก็คงร่ำรวยเพราะได้ข่าวมาว่าแม่ของเพื่อนสนิทของเธอกำลังจะแต่งงานกับมหาเศรษฐีคนนึง ส่วนเป็นใครอะไรยังไงเธอก็ไม่ได้รู้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อน
"รู้สึกดีเป็นบ้า"พลอยพรรณเอ่ยออกมาหลังจากที่กระดกน้ำสีอำพันลงคอ เธอเองก็มีเรื่องกลุ้มใจถึงออกมาดื่มกับเพื่อนๆ
"ชนแก้วๆ"วาตะที่อยากเมาอยู่แล้วพอได้ออกมาดื่มก็ไม่สนใจอะไรอีก เขากระดกเหล้าลงคอเป็นว่าเล่นทำให้ฟ้าน้ำค้างต้องคอยเบรกอยู่บ่อยครั้ง
"ค่อยๆ ดื่มดิ แบบนี้ก็เมาแย่"
"ถ้าเมาเธอก็แบกฉันกลับด้วยไปนอนโรงแรมเหมือนเดิมก็ได้ ฉันเครียดมาทั้งวันให้ฉันได้ปลดปล่อยหน่อยนะน้ำ"
"เฮ้อ ก็ได้ๆ เดี๋ยวฉันจะรับหน้าที่แบกแกเองโอเคไหม?"
"ดีมาก เพื่อนใครวะน่ารักที่สุดเลย"วาตะไม่พูดเปล่าเขายกมือขึ้นมาโอบไหล่ของหญิงสาวอย่างที่ชอบทำ โดยการกระทำนั้นทำให้ผู้ชายสองคนที่นั่งดื่มอยู่โซนบนเห็นทุกอย่าง
"หึ! ผู้หญิงใจแตก!"
