4แค่เพื่อน
ลักษิกาออกมาจากห้องเห็นว่าน้องสาวกลับเข้าไปในห้องส่วนตัว เธอจึงมองไปที่ช่องว่างด้านล่างของประตู เห็นว่ามืดสนิทจึงรู้ว่าลัลนาน่าจะหลับไปแล้ว
หญิงสาวหยิบขวดไวน์บนตู้พร้อมกับแก้ว 1 ใบเดินไปนั่งที่ริมระเบียง พลางครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 2 เดือนก่อน…
ในวันนั้นลักษิกาเดินทางไปที่ภูเก็ต หญิงสาวได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมการประกวดออกแบบจิวเวอร์รี่ ซึ่งเธอเองก็ไม่พลาดที่จะลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรม เนื่องจากเธอนั้นเป็นนักออกแบบสายประกวดอยู่แล้ว จึงไม่เคยปฏิเสธเมื่อมีคนมาทาบทามให้นำผลงานขึ้นเวที
สาวแบกความมั่นใจไปเต็มเปี่ยม แม้ว่าในงานเธอจะได้พบเจอกับนักออกแบบที่มีชื่อเสียง แต่ หญิงสาวก็ไม่หวั่น เพราะมั่นใจในฝีมือของตัวเองเป็นอย่างมาก
“ลักษิกา”
เสียงเรียกคุ้นหูทำให้หญิงสาวหันขวับไปมองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอก็เอ่ยทักทายทันที
ชายหนุ่มร่างสูงสวมสูทสีดำและกางเกงสีเดียวกัน ผมถูกเซ็ตเปิดหน้าผากดูแปลกตากว่าทุกวัน ทำให้ลักษิกาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขา
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือเปล่า”
หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่าเธอนั้นเผลอเสียมารยาทจ้องมองชายหนุ่มนานจนเกินไป จึงสะดุ้งก่อนจะเกาศีรษะและส่งยิ้มฝืดเฝื่อนให้เขา
“คือวันนี้นายดูแปลกตา ฉันก็เลยเผลอมองนานไปนิดนึง”
ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าไม่ได้ว่าอะไร เขายกนาฬิกาขึ้นมาดูก่อนจะเอ่ยกับหญิงสาว
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว รีบไปกันเถอะ”
ลักษิการีบเตรียมผลงานของเธอออกมาเพื่อส่งให้กับทีมงานนำไปจัดวางบนเวที โดยมีวรกรคอยควบคุมดูแลและสังเกตการอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการทุจริต
“ฉันอยากเห็นงานของเธอแล้วว่าจะออกมาเป็นยังไง”
ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ กระซิบข้างหู หญิงสาว เนื่องจากเสียงรอบข้างค่อนข้างดัง ทำให้ วรกรนั้นต้องขยับเข้าไปใกล้ลักษิกาเพื่อสนทนากับเธอ
“ฉันมั่นใจว่านายต้องชอบ”
หญิงสาวเอ่ย เพราะรู้ดีว่าวรกรนั้นชอบสไตล์การออกแบบของเธอมาก ถึงขั้นออกปากชมบ่อยๆ และยังอนุมัติให้นำแบบของเธอไปผลิตเพื่อส่งออกอยู่บ่อยๆ
“ฉันเชื่อ ว่ายังไงฉันก็ต้องชอบ”
ประโยคหลังชายหนุ่มหันมองหญิงสาว แต่เธอนั้นไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่ชะเง้อมองขึ้นไปบนเวที รอเวลาที่ตัวเองจะได้ขึ้นไปบนนั้นเพื่อนำเสนอผลงานชิ้นเอก
“ตื่นเต้นเหรอ”
เห็นลักษิกายืนไม่นิ่งขยับตัวไปมา วรกรจึงเอ่ยถาม หญิงสาวพยักหน้าสูดลมหายใจลึก แม้จะผ่านประสบการณ์มามาก ผ่านเวทีประกวดมาไม่น้อยกว่า 10 แห่ง แต่ความตื่นเต้นในใจของเธอก็ยังคงเด่นชัดทุกครั้ง
“ใช่ ที่นี่มีแต่นักออกแบบดังๆที่มีชื่อเสียง ฉันก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา”
หญิงสาวเอ่ยก่อนที่เธอจะหันไปยิ้มทักทาย นักออกแบบอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งกันแต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่คิดสร้างศัตรู เธอสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคู่แข่งในวงการเดียวกันก็ตาม
“ฉันเข้าใจ แต่ก็แปลกใจนิดหน่อย คิดว่าการที่เธอผ่านเวทีประกวดมามากจะทำให้เธอชิน”
ลักษิกาเป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศ ชื่อเสียงของเธอเลื่องลือมากในวงการ ไม่มีใครไม่รู้จักนักออกแบบมือทองที่กวาดรางวัลมาหลายเวที ฉะนั้นชายหนุ่มจึงรู้สึกแปลกใจ ที่หญิงสาวยังคงตื่นเต้นราวกับว่าตัวเองเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยผ่านการประกวดมาก่อน
ทั้งสองไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันมากมายก็ถึงเวลาประกาศรางวัล หัวใจของหญิงสาวสั่นไหวเมื่อรางวัลนั้นค่อยๆลดหลั่นเข้ามาเรื่อยๆ
รางวัลเล็กๆถูกแจกไปหมดแล้ว จนกระทั่งตอนนี้เหลือแค่รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ 2 รางวัลเท่านั้น ลักษิกาไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เธอไม่เคยยึดติดกับชัยชนะของตัวเอง แต่ก็ยังหวังอยากจะได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับไปบ้างแม้เป็นรางวัลเล็กๆเธอก็พอใจแล้ว
แต่ก็เป็นตามที่ทุกคนคาด ผลงานของลักษิกาโดดเด่นเกินกว่าใคร การออกแบบในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เธอนั้นได้รับรางวัลชนะเลิศมาครอบครองอย่างง่ายดาย
โดยงานครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยเดอะเจมส์จิวเวลรี่ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นำเข้าอัญมณีและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ
ผู้บริหารของที่นี่เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ เป็นหนุ่มหล่อวัย 40 ปีที่ยังดูสมาร์ทและอ่อนเยาว์ เขามักจะจัดประกวดการออกแบบจิวเวลรี่อยู่เสมอ เพื่อเฟ้นหานักออกแบบมาร่วมงานด้วย
