2ไปไหน
เวลาล่วงเลยเข้าเที่ยงคืนแต่เพราะมีเรื่องมากมายให้ต้องคิด เธอจึงไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ หญิงสาวใช้เวลาที่เงียบสงบยามค่ำคืนคิดอะไรไป เรื่อยเปื่อย ก่อนที่เธอจะหยิบสมุดขึ้นมาและระบายความฟุ้งซ่านไปกับงานที่รัก
ลักษิกาทำงานอยู่ที่บริษัทของวรกร แต่เนื่องจากเธอเป็นพนักงานพิเศษจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าบริษัททุกวัน หญิงสาวใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในคอนโดแห่งนี้ อาชีพหลักของเธอคือการออกแบบเครื่องประดับ และแน่นอนว่าฝีมือเธอนั้นไม่ธรรมดา การันตีด้วยรางวัลจากหลากหลายเวที
ลักษิกาเป็นคนเก่ง แม้พื้นฐานครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เธอก็ถูกดึงตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่เต็มไปด้วยลูกท่านหลานเธอ ทายาทนักธุรกิจและนักการเมือง
หญิงสาวเป็นคนจิตใจดี แม้จะไม่ได้ดีมากจนถึงกับเป็นผ้าขาวที่ไร้สีสัน แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่ดี ไม่เคยคิดร้ายหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ใคร ด้วยเหตุผลนี้เพื่อนทุกคนจึงสนิทใจที่จะคบลักษิกาเป็นเพื่อน แม้ว่าฐานะจะแตกต่างกันก็ตาม
จิตใจของหญิงสาวค่อยๆสงบลง ราวกับว่าความทุกข์ในใจถูกระบายลงกับภาพวาดในกระดาษจนหมดแล้ว ลักษิการู้สึกว่าหนังตาของเธอเริ่มหนักอึ้งมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อใช้สายตาจดจ้องอะไรบางอย่างจนมากเกินไป
หญิงสาวใช้มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะ ขณะที่มือนั้นยังคงขีดๆเขียนๆลงบนกระดาษ เพียงครู่เดียวเธอก็หลับตาลงก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว…
เสียงโทรศัพท์แผดดังลั่น ปลุกลักษิกาให้ตื่นจากหลับใหล หญิงสาวสะดุ้งลุกขึ้นนั่งพร้อมมองไปรอบข้างอย่างงุนงง จำได้ว่าครั้งสุดท้ายเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อตื่นมาเธอกลับมานอนอยู่ที่พื้นด้านล่าง
หญิงสาวเกาศีรษะเล็กน้อย เธอเดินงัวเงียเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะรีบล้างหน้าล้างตา
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้เธอนั้นหยุดชะงัก ลักษิการีบเดินไปดูก่อนจะรีบกดรับสาย
“ว่าไงเม”
ปลายสายทักทายด้วยการถอนหายใจ ฟังจากน้ำเสียงของลักษิกาแล้วเธอรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเพิ่งตื่นนอน
“เพิ่งตื่นหรือไง รู้ไหมว่านี่กี่โมงแล้ว”
ลักษิกาขมวดคิ้วเบนสายตามองไปที่นาฬิกาซึ่งติดอยู่บนผนัง ปกติเธอตื่นเวลานี้เป็นประจำ เพื่อน ทุกคนก็รู้ดีและไม่น่าแปลกใจ
“นี่เป็นเวลาตื่นนอนของฉัน เธอตกใจอะไร”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไง เมื่อคืนนัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันที่ร้านอาหาร เธอเองก็อ่านข้อความแล้วไม่ใช่เหรอ”
ลักษิกาจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้อความที่ถูกส่งมาเธอแทบไม่ได้สนใจเพราะในหัวคิดถึงแต่เรื่องการ์ดแต่งงาน หลังจากที่เห็นภาพนั้นเธอก็แทบไม่รับรู้อะไรแล้ว ถึงไม่ทันสังเกตว่าเพื่อนๆนัดหมายเพื่อมาเจอกันในวันนี้
“ไม่รู้แหละ เธอต้องรีบมาให้ทันภายใน ครึ่งชั่วโมง ตอนนี้เพื่อนๆมากันเกือบครบแล้ว เหลือแค่เธอกับวิกานดานะ”
ได้ยินชื่อวิกานดา เหมือนของแสลงทิ่มแทงใจ ลักษิกานิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนที่เธอจะรับปากว่าจะเดินทางไปพบเพื่อนๆ เพราะหากเธอไม่ไปในครั้งนี้จะกลายเป็นจุดสนใจเอาได้
“ฉันขอเวลาแต่งตัวแล้วจะรีบไป”
เธอเอ่ยสั้นๆก่อนจะปิดโทรศัพท์ ลักษิการีบอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอสวมเสื้อยืดสีขาวลายเรียบๆ และกระโปรงยีนส์ยาวถึงครึ่งแข้ง ก่อนสะพายกระเป๋าผ้าราคาแพง ซึ่งเมรีซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อหลายปีที่แล้ว
“ไปไหนเหรอเจ๊”
ลัลนาร่างบางนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นว่าพี่สาวเดินออกมาจากห้องเธอก็รีบกระเด้งตัวขึ้นนั่ง
“พอดีพี่นัดเพื่อนไว้ที่ร้านอาหารในห้าง จะเอาอะไรไหมขากลับจะซื้อมาให้”
หญิงสาวเอ่ยถาม อีกไม่นานลัลนาก็ต้องบินไปเรียนที่ประเทศจีนแล้ว อาจมีของที่ต้องการและจำเป็นต้องใช้
