CHAPTER 5 ไม่คู่ควร
ไข่มุกวางแก้วกาแฟลงตรงมุมโต๊ะ ก่อนจะยืนนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับลังเลบางอย่าง คิรินทร์เงยหน้าขึ้นมาช้าๆ สายตาคมกริบจ้องใบหน้าซีดของเธออย่างจับผิด
“มีอะไร? ทำไมไม่พูด” น้ำเสียงเรียบแต่กดต่ำจนคนฟังสะดุ้ง
ไข่มุกกำชายกระโปรงแน่น นิ้วมือสั่นน้อยๆ ความกลัวความกังวล และความจริงที่กำลังจะพูด กดทับอยู่บนบ่าเธอหนักอึ้ง
“ท่านประธานมุกมีเรื่องจะถาม” เธอเงยหน้าขึ้นเหมือนจะพูด แต่พอเห็นดวงตาคมของเขาก็รีบหลุบตาลงอีกครั้ง
“พูดมาสิผมรอฟังอยู่” คิรินทร์วางปากกาลง พลิกเก้าอี้หันมาสบตากับเธอเต็มๆ
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกหนึ่งครั้ง ก่อนตัดสินใจถามคำถามที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา
“สมมุติว่าถ้ามีผู้หญิงเดินมาบอกคุณว่าตั้งท้องคุณจะทำยังไงเหรอคะ” เธอกัดริมฝีปากแน่น มือประสานกันจนข้อนิ้วขาวซีด
“ให้เอาออกสิ” น้ำเสียงของเขาคมกริบเย็นชาเหมือนใบมีด “ลูกของผมต้องเกิดจากความรักเท่านั้น ไม่ใช่จากความพลาดหรือความไม่ตั้งใจของใครสักคน”
คำพูดนั้นกระแทกหน้าหญิงสาวเต็มแรง จนเธอรู้สึกเหมือนทั้งโลกกำลังโคลงไปมาริมฝีปากสั่นระริก ดวงตาแดงก่ำทันที แต่น้ำตาเธอไหลไม่ได้เพราะต่อหน้าเขา เธอไม่ควรแสดงความอ่อนแอ
“…..” เธอก้มหน้าหลบ สองมือกำไว้แน่นจนเล็บจิกลงในฝ่ามือ
คิรินทร์มองสีหน้าเธอแล้วขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมีท่าทีแปลกๆ
“คุณถามทำไม? หรือว่าคุณท้อง” เขาโน้มตัวมาด้านหน้า น้ำเสียงเข้มขึ้นอย่างหงุดหงิด ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องใบหน้าของเธอไม่กะพริบความคิดแล่นวาบขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็ว
เขาเช็กประวัติพนักงานทุกคนอย่างละเอียดข้อมูลไข่มุกคือโสดสนิท ไม่มีประวัติชายคนไหนในชีวิตส่วนตัว อีกฝ่ายอาจจะแค่ถามเล่นๆ
“ไหนคุณบอกว่าเป็นผู้หญิงโสดไง หรือคุณไปพลาดท้องกับใครมา” เขาถามเสียงแข็ง
ไข่มุกใจเต้นแรง เธอกัดริมฝีปากจนแทบเลือดออก พยายามเก็บซ่อนความจริงสุดกำลัง
“มะ ไม่มีอะไรค่ะ มุกแค่ถามเฉยๆ” น้ำเสียงเธอเบาหวิวจนแทบไม่เป็นเสียง
เขามองเธออย่างจับผิดสายตาเย็นชายิ่งกว่าเดิม เขาไม่ได้ตามติดชีวิตของหญิงสาวขนาดนั้น หากจะมีแฟนหรือคนรักก็ไม่ได้ผิดอะไร มีแต่เขาที่หงุดหงิดทุกครั้งกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหญิงสาว
“คุณเป็นพนักงานของบริษัทผมเป็นผู้ช่วยของผม ด้วยซ้ำ เพราะงั้นคุณควรรู้จักวางตัวรักษาระยะห่างจากผู้ชายให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ให้ใครต่อใครเอาไปนินทาได้ไม่เว้นแต่ละวัน” เขาออกเสียงชัดถ้อยชัดคำ ทุกคำหนักเหมือนค้อนฟาดลงบนอกไข่มุก
คำพูดนั้นฟังเหมือนตำหนิ แต่ในน้ำเสียงกลับมีอะไรบางอย่าง เพียงแต่เขาเองก็ไม่ยอมรับ
“ค่ะ มุกทราบ” เสียงเธอเบาและสั่น จนฟังดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน
“ทราบ แต่ยังไม่เรื่องให้ได้ยินมาถึงหูผมคุณอายุยังน้อย หน้าตาก็ดีอย่าคิดจะเป็นของเล่นหรือเมียเก็บใครเด็ดขาด”
แต่คิรินทร์กลับยิ่งหงุดหงิดขึ้น เพราะสีหน้าของเธอมันไม่ปกติเลย เขาเท้าศอกกับโต๊ะโน้มตัวเข้าหาเธอ สายตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่ใบหน้าซีดจนถึงริมฝีปากที่กัดแน่น
“คุณท้องกับผู้ชายคนอื่น เลยมาถามผมใช่ไหม”
ไฟในอกไข่มุกเหมือนดับวูบ หัวใจเหมือนถูกบีบจนเจ็บแน่น เธอพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้เผลอสั่นจนเขารู้มากไปกว่านี้
“มะ ไม่ใช่นะคะ มุกแค่ถามเฉยๆ ไม่มีอะไร”
แต่น้ำเสียงเธอเหมือนคนโกหก และคิรินทร์ก็ดูออก เขาขมวดคิ้วมองเธออย่างจับผิดมากกว่าเดิม
“แน่ใจ? ถ้าคุณท้องขึ้นมาจริงๆ อย่าคิดเอามาโยงกับผมเชียว”
หญิงสาวยืนนิ่งราวกับถูกคำพูดของเขาตรึงไว้กับพื้นอกเธออึดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก จะตอบก็พูดไม่ออก จะเถียงก็ไม่มีแรงพอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณคินอยู่ไหมคะ?” ลิต้าคู่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ดูไม่จริงใจนัก พอเห็นผู้ช่วยอยู่ในห้องรอยยิ้มนั้นก็แผ่วลงทันทีไข่มุกสะดุ้งได้สติกลับมาในเสี้ยววินาที
เขามีคู่หมั้นแล้วผู้หญิงตรงหน้าที่สวยสมบูรณ์แบบ และเหมาะสมกับเขาทุกอย่าง แต่เธอเป็นแค่ผู้ช่วยเงินเดือนน้อยๆ ฐานะหน้าตาธรรมดาต่อให้ไม่มีเรื่องคืนนั้น เธอก็ไม่คู่ควรยืนอยู่ใกล้เขาอยู่ดี
เธอไม่ควรทำให้พวกเขาทะเลาะกัน ไม่ควรเป็นต้นเหตุของปัญหา และไม่ควรหวังอะไรเกินตัว
“ขะ ขอโทษค่ะ มุกขอตัวนะคะ” เธอรีบก้มศีรษะหัวใจเธอหนักราวกับมีอะไรมาทับจนหายใจแทบไม่ออก ขาเธอแทบก้าวไม่ออกจากห้อง แต่ก็ฝืนเดินออกไปอย่างเร็วที่สุด
“เธอทำงานผิดอะไรอีกล่ะคะ ถึงโดนดุขนาดนี้” ลิต้าหันมาถามเขา เป็นแค่ผู้ช่วยเลขาทำไมถึงมีสิทธิ์เดินเข้าออกห้องประธานบริษัทเป็นว่าเล่น
คิรินทร์หงุดหงิดขึ้นเฉียบพลันทั้งที่เมื่อครู่ยังทำเสียงเย็นใส่ไข่มุกแท้ๆ แต่พออีกฝ่ายออกไปกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาด
ไข่มุกรีบเดินหนีออกมาจากห้องทำงานของเขาให้เร็วที่สุด แต่พอก้าวถึงห้องน้ำ เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอก็ทรุดตัวลงทันทีมือรีบยกขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นที่พุ่งขึ้นมาแบบควบคุมไม่ได้ ไหล่ทั้งสองไหวสั่นแรงเหมือนคนหมดแรงจะยืน
“ฮึก…”
น้ำตาไหลลงไม่หยุดจนมองอะไรไม่เห็น คำพูดของเขายังดังก้องในหัว เหมือนหัวใจถูกเหยียบซ้ำๆ จนแหลกเป็นผง
เธอก้มมองท้องแบนราบของตัวเองที่จริงมีเด็กตัวน้อยสองคนหัวใจสองดวงที่เต้นอยู่ข้างใน
“แม่ขอโทษนะลูก” น้ำตาไหลเปื้อนมือที่ปิดปากอยู่
เธอไม่อยากให้เขารับผิดชอบเพราะความสงสาร หรือเพราะคิดว่าเธอจะมาแบล็กเมล เธอไม่อยากถูกเขาดูถูกมากไปกว่านี้ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอและลูกตอนนี้คือ ไปให้ไกลจากเขาเท่าที่จะทำได้
อย่าให้คนที่สูงเกินเอื้อมแบบเขามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเธออีก
หญิงสาวเช็ดน้ำตาออกลวกๆ พยายามสูดหายใจแรงเพื่อปรับตัวให้กลับมาเป็นปกติ เพราะอีกไม่กี่นาทีเธอต้องสวมหน้ากากเดิมและกลับไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มุกดีขึ้นหรือยัง” เพนนีถามหลังจากที่เห็นว่าไข่มุกกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานแล้ว
“ดีขึ้นแล้วค่ะ”
“มุกท้องเหรอทำไมอาการแย่ลง ดูหน้าสิดูไม่ได้เลย”
คำถามตรงไปตรงมาทำให้ไข่มุกพูดไม่ออก เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธมองซ้ายขวากลัวว่าจะมีคนผ่านมาได้ยิน โดยเฉพาะเขาคนนั้น
“มุกจะท้องได้ยังไง”
“นั่นสิ แฟนก็ยังไม่มีอย่าถือสาพี่เลยนะแก่แล้วก็เป็นแบบนี้” เพนนียิ้มให้รุ่นน้อง
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอไม่อยากเก็บมาใส่ใจ
“ทำไมคุณลิต้ามาหาท่านประธานบ่อยจัง หรือจะมีข่าวดีหมั้นกันตั้งนานแล้วก็ไม่เห็นแปลก เหมาะสมกันที่สุดเลย”
“เขาเหมาะสมกันแล้ว” เธอพึมพำเบาๆ
“อุ๊ย ดูทำหน้าเข้าเดี๋ยวนี้หวงท่านประธานเหรอ?” เพนนีแกล้งแซว แต่ไม่รู้เลยว่าความจริงมันเจ็บกว่านั้นมาก
“เปล่าค่ะ ใครจะกล้าคิดอะไร” หญิงสาวได้แต่ก้มหน้า กดเอกสารในมือแน่นจนสั่น
“โหววว ทำเสียงแบบนั้นไม่เหมือนดีใจเลยนะ” เพนนียังไม่หยุด แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจร้ายเธอแค่พูดตรงตามนิสัย
“คนหาเช้ากินค่ำอย่างเราแม้แต่คิดก็ไม่คู่ควรแล้วค่ะ” ไข่มุกสูดลมหายใจลึกพยายามกดความเจ็บลงไปที่ก้นบึ้งของหัวใจ
ไข่มุกเงยหน้าจากงานทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด แต่พอเห็นทั้งสองคนเดินเคียงกันออกมา หัวใจก็เหมือนถูกบีบช้าๆ
“เย็นนี้คุณพ่ออยากเจอคุณนะคะ อย่าลืม” ลิต้าเอามือคล้องแขนคิรินทร์อย่างสนิทสนม น้ำเสียงหวานจนคนฟังรู้สึกแสบหู
“ผมกลับแล้วนะ มีเอกสารสำคัญส่งเมลไว้ให้ผมด้วย”
สายตาคมคู่นั้นมองเธอเพียงเสี้ยววินาที แต่เหมือนลากเวลานานจนเธอแทบหายใจไม่ออก
“ค่ะท่านประธาน” ไข่มุกพยายามตอบให้เสียงนิ่งที่สุด
“ผมไม่อยู่อย่ามัวแต่นั่งคุยเรื่องคนอื่นจนลืมหน้าที่ตัวเอง” เขาตอบแค่นั้น ก่อนหมุนตัวออกไปพร้อมลิต้าที่เดินแนบชิดไม่ห่าง
ทันทีที่ลิฟต์ปิดลงหญิงสาวก็หลุบตาลงต่ำ เธอไม่ควรหวั่นไหวกับภาพตรงหน้า ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขามีคู่หมั้น แต่หัวใจมันกลับโง่และอ่อนแอเกินกว่าจะสั่งให้หยุดรู้สึก เธอยกมือขึ้นแตะหน้าท้องตัวเองเบาๆ
“ลูกจ๋า แม่จะไม่ทำให้หนูต้องเป็นปัญหาในชีวิตใคร เราจะอยู่ให้ไกลที่สุดจากเขาให้ไกลที่สุด”
