บท
ตั้งค่า

CHAPTER 4 หัวใจไกลเกินเอื้อม

สองเดือนที่คิรินทร์ตามหาผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขาแทบไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ แต่กลับฝังอยู่ในความคิดไม่เคยหายเขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ในเมื่อเธอไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย แล้วทำไมเขาถึงต้องอยากเจอ

ทำไมถึงรู้สึกเหมือนบางอย่างขาดหายไป เขาขมวดคิ้วแน่น มือข้างหนึ่งกำปากกาแน่นจนข้อขาว

“บ้าเอ๊ย...” เขาสบถเบาๆ กับตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาเห็นศิวกร ผู้ช่วยคนสนิทยืนรอรายงานอยู่หน้าห้อง

“ไปตามผู้ช่วยเลขามาหาฉัน” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม

“ครับ ท่านประธาน” ศิวกรรับคำก่อนรีบออกไป

ในห้องที่กลับมาเงียบอีกครั้ง คิรินทร์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาทอดมองออกนอกกระจกสูงของตึก เขาไม่มีเบาะแสอะไรเลย ไล่จากกล้องวงจรปิดก็เห็นแค่แผ่นหลังของอีกฝ่าย

เสียงอาเจียนดังลอดออกมาจากในห้องน้ำหญิงของบริษัทไข่มุกจับขอบอ่างแน่น พยายามประคองตัวไม่ให้ล้ม ก่อนจะล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อเรียกสติ ใบหน้าของเธอซีดจนแทบไม่มีสีเลือด

“ไข่มุกเป็นอะไรไหม” เสียงของเพนนี รุ่นพี่ร่วมแผนกดังขึ้นพร้อมร่างของเธอที่ยื่นทิชชูให้

“ไม่ค่ะ มุกแค่เพลียๆ ช่วงนี้นอนน้อย” เธอฝืนยิ้มบาง

“ถ้าไม่สบายอย่าฝืนเลยนะ” เพนนีมองรุ่นน้องอย่างไม่วางตา

“พี่เพนมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ท่านประธานเรียกพระวังตัวด้วยนะช่วงนี้ยิ่งทำอะไรไม่เข้าตาอยู่”

“ค่ะ มุกจะรีบไปค่ะ” เธอรีบเช็ดหน้าให้แห้ง สูดลมหายใจลึกเพื่อปรับสีหน้าให้ดูปกติ

“มุก...” เพนนีเรียกอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องน้ำ “อย่าลืมไปตรวจนะ”

“ตรวจอะไรคะ?” เธอขมวดคิ้ว

“ก็อาการแบบนี้แหละ เหมือนคนท้องชัดๆ เลย อย่าเครียดนะ เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก” รุ่นพี่ยิ้มแหย

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของไข่มุกเต้นแรงวูบ เธอเผลอกำมือแน่น ริมฝีปากซีดเผือดกว่าเดิม

“มุกขอตัวก่อนนะคะ”

เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องน้ำ มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของท่านประธาน โดยที่หัวใจสั่นไม่เป็นจังหวะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงของไข่มุกแผ่วเบาเมื่อเธอเคาะประตูแล้วก้าวเข้ามาในห้องทำงานขนาดใหญ่

“ผมเป็นเจ้านายจะเรียกใช้ไม่ได้หรือไง เมื่อไหร่คุณจะฉลาดขึ้นมาบ้าง” น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแรงกดดัน ทำให้เธอรีบก้มหน้ารับคำ คำพูดนั้นเหมือนมีคมแทงเข้าไปในใจเธอโดยไม่ต้องตะโกนแม้แต่น้อย

“มุกขอโทษค่ะ”

“คุณเลิกงานกี่โมง?” เขาถามต่อโดยไม่เงยหน้า

“5 โมงค่ะ” เธอตอบเสียงเบา พลางบีบมือตัวเองแน่นเพื่อระงับความประหม่าที่ไม่รู้สาเหตุ

“ไปช่วยเลือกของขวัญเป็นเพื่อนผมหน่อย”

“ทำไม” ไข่มุกเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความงุนงง

“ผมจ้างเป็น OT แล้วกันรีบตามมา” เขาลุกขึ้นจากโต๊ะสูดลมหายใจเบาๆ ก่อนหยิบเสื้อสูทจากพนักเก้าอี้

ภายในร้านจิวเวลรี่ชื่อดังกลางห้างหรู แสงไฟส่องกระทบกับเพชรนับร้อยเม็ดระยิบระยับจนเกือบแสบตา ไข่มุกยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ท่านประธานร่างสูงในสูทสีเข้มดูสง่างามจนพนักงานในร้านแทบกลั้นหายใจ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขาอย่างเคารพและหลงใหล

แต่หัวใจของเธอกลับเจ็บแปลบ เมื่อเห็นเขาหยุดมองแหวนเพชรในตู้โชว์อยู่นาน

“ท่านประธานจะขอคนรักแต่งงานเหรอคะ?” เสียงเธอเบาแผ่ว แทบกลืนไปกับเสียงเพลงคลอในร้าน

“คิดว่ายังไงล่ะ ช่วยผมเลือกหน่อยสิ” คิรินทร์เหลือบมองเพียงแวบเดียว ก่อนเอ่ยเรียบๆ

“ท่านประธานพาว่าที่เจ้าสาวมาเลือกเองไม่ดีกว่าเหรอคะ” ไข่มุกพยายามยกยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกที่ตีขึ้นในอก

“ผมให้คุณช่วยเลือก ก็เลือกเถอะอย่าถามมาก” เขาขมวดคิ้วทันที

“วงนั้นค่ะ เรียบหรูดูมีระดับ เหมาะกับท่านประธานดีค่ะ” เสียงเข้มของเขาทำให้เธอต้องเม้มปากแน่น ฝืนยกมือชี้ไปยังแหวนวงหนึ่งในตู้โชว์

คิรินทร์มองตามสายตาเธอไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าให้พนักงานจัดการ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นแววตาเศร้าของเลขาสาวที่รีบหันหนี

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วมุกขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอกล่าวเบาๆ ก่อนจะโค้งลาและเดินออกจากร้านไปโดยไม่รอคำตอบ

คิรินทร์มองตามแผ่นหลังบางที่หายลับไปในฝูงคน ใจเขาแปลบวูบโดยไม่เข้าใจสาเหตุ

ระหว่างทางกลับที่พักไข่มุกแวะร้านขายยา เธอยืนลังเลอยู่หน้าชั้นวางยาลังเลว่าจะซื้อสิ่งที่ต้องการดีหรือไม่ ภายในหัวใจก็กังวล

“รับอะไรดีคะ”

“เอ่อ ขอที่ตรวจครรภ์ค่ะ”

“นี่ค่ะ” เภสัชแนะนำวิธีใช้ หญิงสาวรีบจ่ายเงินแล้วออกมา

เช้าวันใหม่อากาศขมุกขมัวเหมือนอารมณ์ของเขา คิรินทร์มาถึงออฟฟิศเร็วกว่าทุกวัน ทั้งที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้หลับ เขาอ้างกับตัวเองว่าอยากจัดการเอกสารค้างไว้ให้เสร็จ แต่ความจริง เขาแค่อยากเห็นหน้าผู้ช่วยเลขาแสนซื่อของเขาอีกครั้ง

แต่พอเดินเข้ามาในห้องทำงานเงียบจนแปลกตา ไม่มีเสียงหญิงสาวทักทายเหมือนทุกวัน ไม่มีรอยยิ้มจืดๆ ที่เขามักแอบมองเวลาหงุดหงิด

“ลูกน้องนายไปไหน”

“ไข่มุกเหรอครับฝ่ายบุคคลบอกว่าลาป่วย”

“ขอบคุณ” ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพูดเพียงเท่านั้นก่อนหันกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน

เอกสารกองโตตรงหน้าไม่ช่วยให้เขามีสมาธิได้เลย เขาพยายามไล่สายตาอ่านทีละแผ่น แต่ในหัวกลับมีแต่ภาพของหญิงสาวคนนั้น

ภายในห้องตรวจสีขาวสะอาด เสียงเครื่องอัลตราซาวด์ดังเบาๆ คลอไปกับจังหวะหัวใจเล็กๆ ที่เต้นถี่รัวอยู่บนหน้าจอ

“คุณแม่เห็นไหมคะ หัวใจน้องเต้นแล้ว” คุณหมอยิ้มพลางขยับหัวตรวจไปมา

ไข่มุกนอนนิ่งบนเตียง ความรู้สึกมากมายตีวนอยู่ในอกทั้งตกใจ สับสน เธอไม่คิดเลยว่าความผิดพลาดเพียงคืนเดียวจะพาเธอมาถึงจุดนี้

“...”

“โอ๊ะ”

“อะไรคะ” ไข่มุกรีบถามเสียงสั่น เธอกลัวจนปลายนิ้วเย็นเฉียบ

“หัวใจอีกดวง คุณแม่เห็นไหม” คุณหมอเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างแผ่วเบา

“คะ?”

เธอเบิกตากว้างมองจอภาพจุดเล็กๆ อีกจุดหนึ่งที่เต้นอยู่ข้างๆ อย่างชัดเจน หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก

“คุณแม่กำลังจะมีลูกแฝดค่ะ” เสียงคุณหมอนุ่มนวล แต่กลับดังชัดในหูจนไข่มุกน้ำตาคลอ เธอยกมือแตะหน้าท้องเบาๆ

ไข่มุกกลับมานอนพักต่อบนเตียง ร่างกายยังอ่อนแรง แต่สมองกลับยุ่งเหยิงเต็มไปหมด

เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี พ่อของลูกเธอมีคนรักอยู่แล้ว และการต้องเลี้ยงเด็กสองคนเพียงลำพังไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับหญิงสาวที่ฐานะไม่มั่นคง เสียงมือถือดังขึ้นทำให้หัวใจเธอเต้นวูบหนึ่ง

“ไข่มุกพูดค่ะ” เธอรับสายด้วยความระวังเบอร์แปลกที่ไม่เคยเจอมาก่อน

“ผมเอง”

“ท่านประธาน! เอาเบอร์มุกมาจากไหนคะ” เสียงทุ้มคุ้นหู แต่เธอก็ยังช็อกอยู่

“อย่าทำเป็นไม่รู้ ผมเป็นใครคุณลืมไปแล้วเหรอ”

“มีอะไรคะ วันนี้มุกลาป่วยนะ” เธอกัดฟันแน่นใจเต้นแรง

“คุณป่วยเป็นอะไร แล้วจะมาทำงานวันไหนรู้ไหมว่าลางานบ่อยๆ มันไม่ดี” เสียงเขาเรียบ แต่กลับแฝงแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้เธอสะดุ้ง เธอรับรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้ตำหนิ แต่กลับเป็นแบบที่ คนอื่นอาจเข้าใจผิด

“พรุ่งนี้ค่ะ อีกอย่างมุกป่วยก็มีสิทธิ์ลาตามกฎหมายนะ ถ้าโทรมาเรื่องแค่นี้มุกขอตัดสายเลยค่ะ”

ไข่มุกกดวางสายทันทีใจเต้นแรง รู้สึกทั้งโมโหและสับสนที่เขายังตามเธอไม่เลิก เธอทิ้งมือถือบนเตียงมือสั่นเล็กน้อย และร้องไห้ออกมาเพราะยังหาทางออกกับปัญหานี้ไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel