บท
ตั้งค่า

CHAPTER 3 ผู้หญิงคนนั้น

ปั๊ก!

เสียงดังขึ้นเมื่อคิรินทร์โยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะอย่างแรง จนไข่มุกสะดุ้งเฮือก เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆ ด้วยแววตาตื่นกลัว

“ทำผิดอีกแล้ว คุณตกเลขหรือไงถึงได้ทำพลาดแบบนี้ซ้ำๆ” น้ำเสียงเขาเย็นเฉียบ

“ขะ…ขอโทษค่ะ มุกตรวจสอบไม่ดีเอง” เธอก้มหน้างุด มือกำแฟ้มในมือแน่น ความจริงเธอเป็นแค่คนรวบรวมข้อมูล ไม่ใช่คนตรวจตัวเลขด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่กล้าแก้ต่าง

       “ขอโทษแล้วมันดีขึ้นไหม?” คิรินทร์พ่นลมหายใจแรง เสียงของเขาเข้มขึ้น

“…” เธอเงียบรู้ดีว่าคำตอบใดๆ ในตอนนี้คงยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ

“กลับไปแก้ให้เรียบร้อย ถ้าทำผิดอีกผมจะเชิญคุณลงไปช่วยงานแผนกแม่บ้านแทน” เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแรงกดดัน

       “ค่ะ…” ไข่มุกเม้มปากแน่นพยักหน้า แล้วหมุนตัวเดินออกไปช้าๆ

ขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือเปิดประตู กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอใช้ลอยมาแตะจมูกเขา กลิ่นเดียวกับเมื่อคืนนั้นที่ทำให้เขาหัวเสียมาจนถึงทุกวันนี้ เขาชะงักสายตาแข็งค้างอยู่ที่แผ่นหลังบอบบางของเธอ

“อย่าเพิ่งไป…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว

       “ท่านประธานมีอะไรอีกคะ” ไข่มุกหยุดชะงักหันกลับมาช้าๆ ด้วยแววตาสับสน ขณะที่หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา

       เขาลุกจากเก้าอีกและเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวอย่างเชื่องช้า สายตาของเขาจับจ้องเธอไม่วางตา เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของไข่มุก

       “น้ำหอมกลิ่นอะไร?” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม กำลังเกิดความสับสน

       “คะ?” เธอไม่เข้าใจในคำถาม

       “คุณใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร” กลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับแป้งเด็กซึ่งทำให้เขาผ่อนคลายไม่น้อย

       “ฟลอรัลค่ะ” เธอรีบหลบสายตาหัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาด้านนอก มือบางบีบเข้าหากันแน่นเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง

       “คืนนั้น...”

       “มุกขอตัวก่อนนะคะมีงานต้องทำต่อ” เธอรีบหมุนตัวแล้ววิ่งออกจากห้องทำงานของเขาอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นแรงราวจะทะลุออกจากอก

เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอรีบปิดประตูแน่น แผ่นหลังพิงกับบานประตูเย็นเฉียบ ร่างกายอ่อนแรงเหมือนหมดเรี่ยวแรงจะยืนต่อ

ลมหายใจสั่นระรัวปลายนิ้วเย็นเฉียบ เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังจะหลุดออกมา ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นจะย้อนกลับมาในหัวอย่างห้ามไม่อยู่

“อื้อ คุณคิรินทร์เบาๆ หน่อยได้ไหม”

“อืม เธอทำให้ฉันคลั่ง”

ไข่มุกสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมความเมื่อยล้าทั้งร่าง แสงอ่อนจากหน้าต่างสาดเข้ามาในห้อง เธอกะพริบตาช้าๆ ก่อนที่ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนจะไหลย้อนกลับเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว

หัวใจของเธอเต้นแรง มือสั่นเทาเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างของชายที่ยังหลับอยู่ข้างกายท่านประธานคิรินทร์ ลมหายใจของเธอสะดุดทันที ไข่มุกยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นไว้ ดวงตาร้อนผ่าวด้วยความตกใจและเสียใจปนกัน

เมื่อคืนเธอนอนกับเขา และที่สำคัญเขามีคู่หมั้นอยู่แล้วหัวใจเธอแทบแตกสลาย ไข่มุกรีบลุกจากเตียง คว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายมาสวมอย่างลนลาน ก่อนจะออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่หันกลับมามองอีกครั้ง

หญิงสาวรีบตั้งสติและกลับมานั่งทำงานเหมือนเดิม เธอไม่กล้าบอกเรื่องนั้นกับเขา หวังว่าเขาจะจำเธอไม่ได้เช่นกัน

“คุณคินอยู่ไหม” เสียงหวานดังขึ้นหน้าห้องทำงาน

“คุณคือ...” เธอกำลังจะถามต่อ แต่หญิงสาวอีกคนพูดแทรกขึ้นทันที

“ฉันคือลิต้าคู่หมั้นของเขา ไม่ต้องบอกว่าฉันมาฉันจะเข้าไปหาเขาเอง” ลิต้ามองผู้หญิงตรงหน้าขนาดไม่แต่งหน้าจัดยังสวยขนาดนี้ ปล่อยไว้ใกล้คิรินทร์ไม่ได้เด็ดขาด

“ไม่ได้ค่ะฉันต้องแจ้งเขาก่อนคุณ...” ไข่มุกรีบลุกขึ้นพยายามขวางไว้ แต่ลิต้าเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ เธอจึงจำใจรีบวิ่งตามหลัง เพราะรู้ดีว่าทุกคนที่เข้าพบท่านประธานต้องได้รับอนุญาตก่อนเสมอ

“เลขาคุณทำงานดีจังเลยนะขนาดลิต้าบอกว่าเป็นคู่หมั้นก็ยังไม่ยอม”

คิรินทร์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ มองหญิงสาวทั้งสองสลับกัน สายตาคมนิ่งเรียบก่อนจะโบกมือไล่ผู้ช่วยออกจากห้อง

“คุณมีธุระอะไร” เขาถามด้วยความเฉยชา

“เลขาคุณเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ” ลิต้าถามเพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นมาก่อน

“ผู้ช่วยเลขาเพิ่งให้ย้ายขึ้นมา คุณมีธุระอะไร” เขาถามย้ำอีกครั้ง

“ผู้ช่วยเลขาของคุณต้องสวยขนาดนั้นเลยเหรอ เหมือนเพิ่งจบมาใหม่ๆ” เธอไม่ยอมเข้าเรื่องรู้สึกอิจฉาในความสวยน่ารักของผู้ช่วยของคิรินทร์

“คุณจะพูดหรือไม่พูด” เขาวางปากกาลงก่อนจะหันไปมองจ้องตากับอีกฝ่าย

“คุณจะถอนหมั้นกับลิต้าจริงๆ เหรอคะ”

“ผมพูดชัดเจนแล้ว” คิรินทร์เงยหน้าขึ้นจากเอกสารน้ำเสียงเรียบแต่เย็นเฉียบ

“ลิต้ารักคุณนะ หรือคุณมีคนอื่นไปแล้ว” ดวงตาเธอเริ่มร้อนผ่าว

“เราหมั้นกันก็เพราะผลประโยชน์ ตอนนี้คุณไม่มีผลประโยชน์อะไรแล้ว อีกอย่างคนที่อยากให้ผมหมั้นก็ไม่อยู่แล้ว”

“คุณใจร้ายที่สุดเลย” เสียงเธอแผ่วเบาแต่สั่นสะท้าน

“ผมจะไม่เอาเรื่องคุณก็ได้ แต่อย่ามาใช้วิธีสกปรกแบบนั้นอีก” น้ำเสียงของคิรินทร์เย็นเฉียบ ราวกับตัดสินแล้วไม่ลังเล

“เรื่องอะไรคะ” เธอไม่กล้าสบตาเขา เสียงขาดๆ หายๆ ไม่กล้าสบตา

“คุณอย่าทำเหมือนนางร้ายในละครได้ไหมวางยาผู้ชายเพื่อจะลากเขาขึ้นเตียงด้วยไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี”

“คุณคิน”

“ถ้าคุณล้ำเส้นผมอีก ผมจะไม่ไว้หน้าพ่อของคุณ” เขาหยิบเสื้อสูทมาสวมอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับ ความเย็นชาของเขาทิ้งให้ลิต้ายืนนิ่งกับคำพูดที่แทงใจ หญิงสาวพยายามวิ่งตามเรียกชื่อเขาเสียงสั่น

“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณคิน เรามาคุยกันให้รู้เรื่อง”

คิรินทร์เดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของไข่มุกตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี เขาล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกงสายตามองหญิงสาวเหมือนเป็นการบังคับ

“พักเที่ยงแล้วไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย”

“เอ่อ คือ...” ไข่มุกไม่แน่ใจว่าเขาคุยกับเธอหรือเปล่า เพราะด้านหลังมีหญิงสาวยืนอยู่ตรงนั้น

“ไข่มุกนี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย” เขาสั่งเสียงเข้ม

“แต่คุณผู้หญิง...” เธอถามด้วยความลังเล สายตาอาฆาตที่มองมาทำให้เธอตัวสั่น

“เธอไม่ใช่แขกของผมคราวหน้าถ้าปล่อยให้คนแปลกหน้าเขามาอีก ผมจะหักเงินเดือนคุณรีบตามมา” เขาเดินนำหน้าจนไข่มุกต้องรีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามหลังเขา จนมาถึงลิฟต์ผู้บริหารเธอไม่กล้าก้าวเข้าไป

“เข้ามา!”

“แต่นี่มันลิฟต์” เธอไม่ยอมก้าวเข้าไป

“คุณจะเอายังไงกันแน่” เขาหัวเสียเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้าไปขึ้นลิฟต์ฝั่งตรงข้าม จนต้องรีบเดินตามไป

“คุณเข้ามาทำอะไรในนี้”

“ผมเป็นผู้บริหารจะขึ้นลงลิฟต์ไหนก็ได้” เสียงทุ้มต่ำของคิรินทร์ดังขึ้นข้างหูจนไข่มุกเผลอกลั้นหายใจ

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาโดยไม่ตั้งใจ ความสูงของเธออยู่แค่ระดับอกของเขาเท่านั้น ใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่แผ่วผ่านผมข้างขมับ

“คุณนี่ชอบสร้างปัญหาให้ผมจริงๆ” เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแรงกดดัน

ติ้ง

เสียงลิฟต์ดังขึ้นประสานกับการเปิดออกของประตู หน้าลิฟต์มีพนักงานยืนต่อแถวรออยู่ พอเห็นว่าท่านประธานอยู่ข้างใน ทุกคนชะงักเหมือนถูกแช่แข็ง ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับ

“เข้ามาสิ!” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยสั้นๆ แต่หนักแน่นจนไม่มีใครกล้าขัด

“คะ ค่ะ! พวกเรารีบเข้าไปเร็ว!” หญิงพนักงานคนหนึ่งกระซิบเสียงสั่น ก่อนทั้งหมดจะรีบก้าวเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ

พื้นที่ในลิฟต์คับแคบกว่าที่คิด คิรินทร์จึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลีกทาง แต่กลับกลายเป็นว่าร่างสูงของเขาโน้มเข้ามาใกล้ไข่มุกจนแทบจะแนบชิด

ความสูงของเธออยู่พอดีกับระดับอกเขา กลิ่นน้ำหอมของเขาอบอวลในอากาศ เสียงลมหายใจทุ้มใกล้เสียจนหัวใจของเธอเต้นถี่ มือของเขาโอบเอวเธอไว้หลวมๆ ทั้งสองอยู่ด้านหลังสุดจึงไม่มีใครสังเกต

ขณะที่คิรินทร์นิ่งเฉย ดวงตาคมกริบมองตรงไปข้างหน้าเหมือนไม่รู้ตัว เขาเผลอยิ้มเล็กน้อยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

“คนออกไปหมดแล้วเลิกกอดมุกได้แล้วค่ะ”

“ใครเขาอยากกอดคุณกัน ตัวก็ผอมหน้าตาก็ไม่สวย ทำงานก็ไม่เก่งโง่ก็โง่ ผู้ชายที่ไหนจะอยากได้คุณ!” เสียงเข้มของชายหนุ่มดังขึ้นกะทันหัน แววตาแข็งกร้าว

คำพูดเหมือนมีดที่ฟันฉับลงกลางใจ เขาเองก็รู้ว่ามันแรงเกินไป แต่ความหงุดหงิดที่ควบคุมไม่ได้ทำให้หลุดปากไปก่อนจะทันยั้ง

“ขอโทษด้วยนะคะที่มุกโง่” เธอพูดเสียงเบาแต่เจ็บลึก ก่อนหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่หันกลับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel