ตอนที่ 1 ความติ่งเป็นเหตุ (4)
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่กว่าจะไปถึงที่นั่น งานก็เลิกแล้ว และคนที่เธอต้องการตัวก็กำลังจะขึ้นรถตู้กลับ เธอไม่รอช้าที่จะตามเขาไปทันที คิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมากับความบ้าบิ่นของเธอในวันนั้น
ถึงสะกดรอยตามจนรู้ว่าเขาไปที่ร้านอาหารกึ่งผับหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่อาจตามเขาเข้าไปในนั้นได้เพราะต้องมีบัตรเมมเบอร์ จึงได้แต่ชะเง้อคอรอคอยอยู่หน้าร้านอยู่เกือบค่อนคืน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้พบเป้าหมายที่อุตส่าห์ถ่อสังขารตามมา
รอแล้วรอเล่าจนความหวังใกล้จะดับมอดลงทุกทีๆ
จนกระทั่งวินาทีที่เธอกำลังจะถอดใจว่าจะกลับไปตั้งหลักก่อน ขณะที่เธอกำลังจะขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับไป จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็โผล่มาและแทรกตัวเข้ามานั่งที่เบาะด้านหลังข้างๆ เธออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“นี่คุณ ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ แท็กซี่คันนี้ฉันขึ้นก่อน...” หญิงสาวหันไปต่อว่าคนไร้มารยาท พลางมองร่างสูงๆ ที่คุ้นตาอย่างประหลาด แต่เพราะหมวกและหน้ากากอนามัยที่ปิดหน้าเอาไว้ทำให้เธอไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่าย
โจรหรือเปล่าวะ!
“อะ...ออกรถ...” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยงึมงำ
“เดี๋ยวค่ะ รถคันนี้ฉันขึ้นก่อนนะ คุณควรรอคันถัดไปสิ”
“ออกรถ!” คนไร้มารยาทแทบตะโกน และกระชากประตูปิดโครมใหญ่ จนหญิงสาวสะดุ้งตกใจ
“รีบไปสิ ไปเดี๋ยวนี้”
อาจเป็นเพราะเสียงเข้มๆ ดุๆ นั่นทำให้คนขับต้องรีบตาลีตาเหลือกออกรถไปตามคำสั่ง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จุดหมายของผู้โดยสารทั้งสอง จารุพัชรได้แต่อ้าปากค้าง ทำตาปริบๆ มองคนที่ถือวิสาสะ
“นี่คุณ เสียสติหรือเปล่าเนี่ย หรือว่าเมา เอาเถอะ ถือว่าเอาบุญฉันจะเสียสละรถให้ก็ได้ พี่คะช่วยจอดรถให้หนูลงข้างหน้า...”
“ไม่ต้อง ขับไปก่อน” หญิงสาวอ้าปากค้างหันไปมองคนเผด็จการเถื่อน ก็เห็นว่าเขากำลังเหลือบไปมองด้านหลังอย่างมีพิรุธ ราวกับว่ากำลังหนีอะไรมาซักอย่าง แต่ตอนนั้นจารุพัชรกำลังโมโหปนเหนื่อยล้ากับเรื่องของตัวเอง จึงไม่อยากสนใจเรื่องคนอื่นโดยเฉพาะคนแปลกหน้า
“คุณจะให้ไปส่งที่ไหนครับ”
จารุพัชรเหล่มองคนตัวโตข้างกายที่เริ่มมีอาการกระสับกระส่าย และหายใจเข้าออกแรงผิดปกติ ทั้งที่แอร์ในรถเย็นฉ่ำ แต่เธอเห็นเสี้ยวใบหน้าของเขามีเหงื่อเกาะพราวทั้งหน้า
หมอนี่ไปโดนตัวไหนมาล่ะนี่ เสี้ยนยาเปล่าวะ หากขืนนั่งไปด้วยกันเขาจะบ้าลุกขึ้นมาจับเธอปาดคอหรือเปล่าล่ะเนี่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว
“นี่คุณ จะให้เขาไปส่งที่ไหนก็บอกมาสิ อุ๊ย!”
หมับ! หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายคว้ามือเธอหมับเข้าให้
ไม่นะ หรือว่าอีตานี่จะเป็นอย่างที่เธอนึกกลัวจริงๆ หันไปเห็นเขากำลังโน้มใบหน้าลงมาพอดี อารามตกใจทำให้เธอจึงรีบสะบัดมือออกจากมือเขา แล้วดันใบหน้าของเขาไว้ แต่นั่นกลับทำให้หน้ากากอนามัยที่ปกปิดใบหน้าอีกฝ่ายเลื่อนหลุดลงมา
ขณะที่กำลังจะแหกปากขอความช่วยเหลือจากคนขับ สายตาเธอก็พลันไปเห็นใบหน้าที่แสนจะคุ้นตาของอีกฝ่ายเข้าเสียก่อน นัยน์ตาคู่สวยก็เบิกค้าง
เป็นไปไม่ได้! นี่เธอกำลังฝันหรือตาลายเพราะหิวใช่ไหม หรือความที่หมกมุ่นอยากเจอเขาคนนั้นมากไป ถึงได้เห็นภาพหลอน
“ธะ...ธิ...อุ๊บ!” เสียงนั้นไม่ทันได้หลุดออกจากปาก ก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียก่อน
จารุพัชรเบิกตาค้างด้วยความตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ เมื่อถูกจู่โจมด้วยจุมพิตจากบุคคลที่เหนือความคาดหมายตรงหน้า
จูบแรกของเธอถูกปล้นไปด้วยฝีมือของบุรุษที่สาวๆ ในประเทศนี้รวมถึงน้องสาวของเธอที่ถึงกับบอกว่าอยากพบตัวจริงเขาสักครั้งก่อนตาย คนที่เธอกำลังต้องการตัวมากที่สุดในเวลานี้หัวใจสาวโสดกระตุกอย่างรุนแรง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไปพร้อมสติสัมปชัญญะของเธอในวินาทีต่อมาพร้อมกับชื่อโจรที่ขโมยจูบอย่างร้ายกาจตรงหน้า...
ธิเบศ ดิฐวัฒน์!
