ตอนที่ 2 One Night Stand with Super Star (1)
มันรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เหมือนจะฝัน แต่สัมผัสที่กำลังเคล้นคลึงเรือนร่างเธอมันก็เหมือนจริงเสียจนแยกไม่ออก หูแว่วได้ยินเสียงหอบกระเส่าที่ฟังแล้วแสนจะเซ็กซี่แต่ก็ชวนให้หัวใจวาบหวาม แรงกดแรงบีบเคล้น หรือแม้แต่การลูบไล้ที่ชวนให้กายสาวร้อนวูบวาบ แต่ก็หนาวเหน็บไปในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกนี้คืออะไรกันแน่นะ
หรือว่าเธอจะ...ฝันลามกอยู่!
จารุพัชรพยายามยกเปลือกตาขึ้นเพื่อหาคำตอบนั้น แสงสลัวจากโคมไฟที่หัวเตียงทำให้เธอต้องกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับภาพให้ชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรมาก
“ที่ไหนวะเนี่ย” หญิงสาวขยับปากงึมงำ เมื่อเห็นเพดานสีแปลกตา ไม่ใช่ห้องเช่าของเธอแน่ แต่ที่ไหนไม่รู้
“อ๊ะ...” เพียงคิดจะขยับ ร่างกายก็ไม่อาจขยับเขยื้อนได้ และรู้สึกแปลกประหลาดโดยเฉพาะบริเวณปลายยอดทรวงอวบอิ่มที่เหมือนจะเปียกชื้นมีแรงดูดดึงจนซ่านสยิว หรือแม้แต่หว่างกลางขาที่ถูกเสียดสีด้วยวัตถุแปลกปลอมที่แสนจะร้อนฉ่าชวนให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
หรือเธอจะโดนผีอำ ผีบ้าลามกสมัยนี้ช่างสรรหาวิธีการอำได้สัปดนชวนขนลุกเสียจริง แต่ก็เสียวแปลกๆ แฮะ
“สะ...สะ...สัพเพสัตตา สะ…เสียว เอ๊ย! ไม่ใช่! สัตว์ทั้งหลายที่เป็นพะ...เพื่อนทุกข์ อร้าย! อา...”
ปากอิ่มสวยขมุบขมิบท่องคาถาเดียวที่เธอนึกออกอย่างกระท่อนกระแท่น เพราะถูกผีลามกโจมตีป้อมปราการที่เธอหวงแหนถี่รัว จนหัวใจเต้นกระหน่ำ
“จงเป็นสุขเป็นสะ...สุขเถิด อึ้ยยย” ใบหน้านวลใสบิดเบ้เพื่อถูกขบย้ำหยอกเอินที่ปลายยอดทรวงสล้างราวกับแกล้ง
ไม่ไหวแล้ว ขืนเป็นแบบนี้เธอคงเป็นทุกข์เพราะความเสียวซ่านตายเสียก่อนแน่ๆ
“ไอ้ผีบ้า ออกไปนะ ไม่งั้นฉันจะแช่งไม่ให้ได้ผุดได้เกินนะ ไปสิ”
“หึๆ”
หูแว่วได้ยินเสียงแว่วมา นั่นไอ้ผีสัปดนหัวเราะเยาะเธอหรือ แทนที่จะฟังคราวนี้ผีตัวร้ายกลับเหิมเกริมโจมตีจุดอ่อนช่วงล่างของเธอแทน
“โอ๊ย! เจ็บ! ออกไปนะ” นาทีนี้ความกลัวผีกระเจิงหายหมด เมื่อกลีบกายสาวที่ไม่เคยผ่านการใช้งานถูกชำแรกด้วยสิ่งแปลกปลอมที่ขนาดใหญ่โตจนคับแน่นเหมือนจะฉีกกายเธอออกเป็นเสี่ยงๆ
“ออกไป บอกว่าเจ็บ โอ๊ย!”
“บ้าชิบ! ยังซิงเหรอเนี่ย”
“เออสิโว้ย ฮือๆ เจ็บนะ...”
“เวรเอ๊ย!”
คำนั้นทำให้หญิงสาวกลั้นใจลืมตาสู้ผีตัวแสบอย่างลืมกลัว แต่แล้วเมื่อจักษุสัมผัสกับใบหน้าที่ลอยเด่นตรงหน้า หัวใจเธอก็คล้ายจะโดนกระชากออกจากอก
คุณพระ! ผีอะไรวะหล่อชิบเป๋ง เอ๊ย! ไม่ใช่สิ พอมองดีๆ หน้าคุ้นๆ จังแฮะ หน้าหล่อๆ แบบนี้เคยเห็นที่ไหนวะ สมองมึนๆ พยายามประมวลผล แต่มันก็ยากเหลือเกินเมื่อกายส่วนที่บอบบางที่สุดถูกตอกตรึงด้วยเสาโรมันยักษ์ฉึกๆ
“เจ็บ...เอาออกไป ฮือ...” หญิงสาวตีแขนเขาปับๆ น้ำตาไหลพราก
“ผมขอโทษ แต่ผมถอยตอนนี้ไม่ได้”
คนหล่อกัดฟันเอ่ย ใช่แต่เธอที่ปวดร้าว สีหน้าเหยเกของคนตรงหน้าบ่งบอกว่าเขาคงทรมานไม่น้อย เพราะขนาดที่แตกต่างกัน อีกทั้งร่างกายของเธอยังไม่พร้อมที่จะรับตัวตนของเขา
แต่นาทีนี้ร่างกายเขามันร้อนไปหมดและไม่อาจห้ามตัวเองได้ จะเดินหน้าก็ติด จะถอยหลังก็ไม่ได้ แม้แต่ความกำหนัดที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มาจากความรัก แต่มาจากบางสิ่งในกายที่ถูกกระตุ้นให้เตลิดจนควบคุมไม่อยู่ แม้เขาจะพยายามแช่ความใหญ่โตนิ่งในกายบอบบางอุ่นนุ่มเพื่อให้เธอได้ปรับตัวให้คุ้นชินกับลูกชายสุดที่รักของเขา และผลิน้ำหวานในกายสาวออกมาช่วยให้การสอดผสานราบรื่นขึ้น แต่การต้องค้างๆ คาๆ แบบนี้ก็ทรมานไม่หยอกเลย
“ไม่ไหว ผมต้องขยับแล้ว” เสียงแตกพร่ากระเส่ากระซิบบอก พร้อมกับแนบริมฝีปากไปคลึงเคล้ากลีบปากนุ่ม
มือทั้งสองฟอนเฟ้นดอกบัวตูมเต่งปลุกกระตุ้นอารมณ์หวามของเธอไปพร้อมๆ กัน จนสาวซิงชักจะเคลิบเคลิ้ม จากต่อต้าน ก็กลายเป็นมึนงง และคล้อยตามบทเรียนที่อีกฝ่ายป้อนให้ ใจกลางร่างสาวค่อยๆ ขับน้ำหวานออกมาช่วยผ่อนคลายความคับตึงและโอบกระชับต้อนรับผู้มาเยือนตัวโตอย่างลืมตัว
“อ๊ะ อร๊าย...” หญิงสาวกรีดร้องลั่น เมื่อถูกอีกฝ่ายดึงดันฝ่าด่านฉีกปราการความบริสุทธิ์เข้ามาจนเต็มลำเสียงดังฉึกร้าวก้องในหู พร้อมกับสมองที่ไม่ได้เรื่องของเธอเกิดทำงานขึ้นมาในนาทีนั้น
นึกออกแล้วว่าเธอเคยเห็นหน้าหล่อๆ แบบนี้ที่ไหน
