บท
ตั้งค่า

2

“ถ้าขายที่นี่ราคาก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 70 กว่าล้านบาท” ขุนพันประเมินราคาที่ต่ำสุดให้ฟังคร่าวๆ

“มั้งคะ” เขมมิกาพยักหน้ารับ เบาๆ กับตัวเลขที่ฟ้ารุ้งเองก็เคยเข้ามาเสนอให้เธอ เมื่อสองอาทิตย์ก่อน

“คุณเป็นทุกข์กับเงิน 20 กว่าล้านบาท แต่ไม่ยอมเป็นสุขกับเงินอีก 50 ล้านบาทที่จะได้?”

“ของบางอย่าง...วัดที่เงินไม่ได้ค่ะ แค่คิดว่าจะต้องขาย ใจของฉันก็ไม่เคยเป็นสุขอีกเลย”

“แล้วถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างที่ทำให้ไม่ต้องขายที่ผืนนี้ล่ะครับ” ขุนพันเอ่ยถามหยั่งเชิง

“ฉันยินดีจะทำมันทันทีเลยค่ะ” เขมมิกาหันไปตอบยิ้มๆ กับข้อสมมุติของอีกฝ่าย

“...” ขุนพันได้ฟังคำตอบก็แอบจุดพลุในใจอย่างเข้าทาง

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เขมมิกาถามอย่างแปลกใจที่อยู่ๆ เขาก็เงียบไป

ขุนพันหันไปจ้องมองใบหน้างามนิ่ง ก่อนจะยื่นข้อเสนอ “ถ้าคุณยอมเป็นผู้หญิงของผมภายใต้สัญญาและเงื่อนไขที่จะไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ ยี่สิบล้านเป็นราคาที่สูงมาก แต่ผมยินดีจะล้างหนี้ที่ธนาคารให้กับคุณ”

“หมายความว่า...” เขมมิกาถามกลับด้วยหัวใจสั่นๆ

“ก็ตามที่ผมเสนอไปครับ มันอาจจะฟังดูทุเรศและเห็นแก่ตัวไปสักนิด แต่หากคุณไม่อยากจะขายไร่จริงๆ ก็รับไว้พิจารณาดูก่อน หรือหากอยากจะขายที่จริงๆ ก็รบกวนติดต่อผมมาเป็นคนแรก” ขุนพันบอกทางเลือกอย่างใจเย็น ขณะเดียวกันก็แปลกใจที่สาวเจ้าไม่ได้โกรธ แต่กลับมีท่าทีนิ่งกว่าที่คิด

“...” เขมมิกาอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ กับสิ่งที่เธอนั่งคิดในใจไปก่อนหน้าที่เขาจะมาเพียงไม่กี่นาที ว่าขอให้มีปาฏิหาริย์ช่วยให้เธอไม่ต้องเสียไร่แห่งนี้ไป ไม่ว่าข้อแลกเปลี่ยนนั้นจะเป็นอะไร เธอจะยอมทำตามอย่างไม่มีข้อแม้ ‘หึ! นี่สินะ! ข้อแลกเปลี่ยนที่ว่า’

“โยโกะ! คุณโอเคไหม?” ขุนพันเอ่ยถามอย่างรู้สึกเป็นกังวลนิดๆ ที่สาวเจ้าใช้เวลาคิดคำตอบนาน

“เมื่อกี้คุณพูดจริงเหรอคะ” เขมมิกาเงยหน้าขึ้นถาม พร้อมกับปลอบตัวเองในใจ ‘เอาน่าโยโกะ! อย่างน้อยเขาก็หล่อบาดใจ ไม่ได้อายุ 50-60 สักหน่อย’

“จริงสิ! ผมพูดจริงทุกคำครับ” ขุนพันยืนยันเจตนาและข้อเสนอ

“แล้วฉันต้องอยู่ภายใต้สัญญาไปกี่ปีคะ” เธอถามพลางลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ

“5 ปีครับ” ขุนพันส่งยิ้มบางๆ ไปให้ หลังสาวเจ้ายอมเปิดใจ

“หมายถึง...ถ้าครบ 5 ปีแล้วฉันจะ...”

“คุณจะเป็นอิสระจากพันธะทุกอย่าง และจะได้ครอบครองที่ดินผืนนี้ต่อโดยสมบูรณ์ นี่เบอร์โทรของผม หากคุณสนใจ คืนนี้ผมจะให้ทนายร่างสัญญามาให้คุณอ่านดูคร่าวๆก่อน” ขุนพันบอกพร้อมกับล้วงมือถือออกมาให้สาวเจ้ากดเพิ่มไอดีไลน์ลงไปในช่องเพิ่มเพื่อน

“ค่ะ” เขมมิการับมือถือของเขามากดใส่ไอดีไลน์ของตัวเองลงไป จากนั้นก็กดค้นหา แล้วเพิ่มเพื่อนไปพร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์ให้ตัวเอง ก่อนจะส่งมือถือคืนให้อีกฝ่าย ‘เอาน่า ไหนไหนก็มาถึงขั้นนี้แล้ว โลกสวยไป ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้นะโยโกะ’

“เอ่อ...ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีต้องไปธุระต่อ” ขุนพันรับมือถือมาเก็บใส่กระเป๋า พลางเหลือบมองใบหน้างดงามอีกครั้งอย่างดีใจ ที่สาวเจ้ายอมรับฟังเงื่อนไขของข้อเสนอ

“ค่ะ” เขมมิกามองตามร่างที่ดูสูงสง่าและดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เข้าไปนั่งในรถ

“ผมไปก่อนนะ” ขุนพันส่งยิ้มหวานไปให้นางฟ้าคนสวย ก่อนจะกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างครึ้มอกครึ้มใจ

“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ” เธอส่งยิ้มตอบอย่างรู้สึกเขินๆ

“ครับ” ขุนพันขานรับก่อนจะขับรถออกไปตามทาง

เขมมิกายืนมองตามอยู่ครู่หนึ่ง ก็เตรียมจะเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกที่สับสน เหมือนจะดีใจ เสียใจและหน้าชานิดๆ อยู่ในคราเดียวกันอยู่ๆ ก็มีรถเก๋งแล่นเข้ามาจอดห่างจากจุดที่เธอไปเพียงสามคืบ

บรื้นนนน

หญิงสาววัย 41 ปี รูปร่างอวบ ก้าวออกมาจากรถแล้ว เอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นๆ “เขาอยู่ไหน?”

“คะ...ใครคะ?” เขมมิกาถามกลับด้วยสีหน้าซื่อๆ

“ก็คนที่มาดูไร่ไง?” ฟ้ารุ้งเริ่มจะไม่สบอารมณ์ที่เด็กสาวทำมึนใส่

“ไม่มีนี่คะ” เธอยังคงยืนยันในคำตอบเดิม

“ไม่มีได้ยังไง ก็ยัยน้ำเพิ่งจะโทรไปบอกฉันว่ามีรถสปอร์ตหรูขับเข้ามาที่นี่” ฟ้ารุ้งขึ้นเสียงใส่อย่างโมโห เพราะผิดหวังที่พอเปิดพินัยกรรมเสร็จ ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของเขมมิกาทั้งหมด รวมทั้งหนี้สินที่ยังคงติดค้างกับธนาคาร ซึ่งหากอีกฝ่ายขายไร่เดชาเมื่อไหร่จะมีเงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และเธอต้องได้ครึ่งหนึ่งในฐานะภรรยาของพ่อเลี้ยงธนินที่อยู่กินกันมาได้ 5 ปีกว่าๆ

“คนหลงทางน่ะค่ะ” เขมมิกาบอกอย่างรู้สึกขำๆ กับอาการร้อนรนของหญิงสาวที่สุดแสนจะตอแหล นี่หากพ่อของเธอยังอยู่ อีกฝ่ายคงไม่กล้าขึ้นเสียงใส่เธอแบบนี้

“จริงเหรอ?” ฟ้ารุ้งถามย้ำอย่างไม่เชื่อ

“มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ” เขมมิกาถามตัดบททันที

“อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอแอบขายที่โดยไม่บอกฉัน”

“ทำไมต้องบอกด้วยล่ะคะ คุณเองก็ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับคุณพ่อ จะมาเรียกร้องอะไร” เขมมิกายกยิ้มมุมปากขึ้นนิดๆ ที่อีกฝ่ายเรียกร้องสิ่งที่ไม่ควรได้ เพราะก่อนจะมาอยู่ที่นี่ บิดาของเธอก็ได้เรียกคนงานในไร่มารวมตัวกันและประกาศต่อหน้าทุกคนว่า หากวันใดที่ท่านจากไปอย่างกะทันหัน!

ฟ้ารุ้งจะไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินแม้แต่บาทเดียว เรื่องนี้อีกฝ่ายก็รู้ดี แต่ก็ยังหน้าด้านเข้ามาขอ ซึ่งหากอยู่นิ่งๆ เธออาจจะแบ่งเงินให้เป็นค่าน้ำใจที่ดูแลบิดามาหลายปี

“อย่ามาปากดี ถ้าแกขายที่แล้วไม่แบ่งเงินให้ฉัน รับรองแกได้เห็นดีแน่” ฟ้ารุ้งบอกอย่างโมโหที่เห็นสายตาเหยียดๆ ของเด็กสาวจ้องมองมายังเธอด้วยความสมเพชและถือดี

“ถ้าคุณลองเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้อีกครั้ง คุณเองก็จะได้เห็นดีเหมือนกัน เพราะฉันจะแจ้งตำรวจจับคุณ” เขมมิกาตอกกลับอย่างไม่กลัว

“หึ! อีกไม่ถึงเดือนบ้านหลังนี้ก็จะถูกยึดแล้ว ถ้าแกโง่ก็โอบกอดความโอหังต่อไป แต่หากแกฉลาดพอก็ควรจะขายตอนที่มันยังขายได้ราคางามๆ ซะ”

“คุณจะมาเดือดร้อนอะไร เท่าที่ผ่านมาก็ได้จากพ่อของฉันไปเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ”

“มันไม่พอ ฉันยังอยากได้ส่วนแบ่งก้อนสุดท้ายจากแก”

“งั้นก็ไปฟ้องร้องเอาเถอะค่ะ หากศาลตัดสินให้ฉันแบ่งเงินให้กับนางบำเรอของพ่อ ถึงตอนนั้นฉันจะแบ่งให้คุณ”

“กรี๊ด...ฉันไม่ใช่นางบำเรอ ฉันเป็นเมียพ่อของแก” ฟ้ารุ้งกรีดร้องขึ้นอย่างเจ็บใจที่ถูกเด็กวันซืนตอกกลับด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ

“ขอตัวนะคะ” เขมมิกายักไหล่นิดๆ ก่อนจะเดินกลับขึ้นบ้าน

“แกมันก็แค่อีเด็กโอหังที่กำลังจะถังแตก ฉันจะคอยดูวันที่แกไม่เหลืออะไร” ฟ้ารุ้งตะโกนด่าตามหลัง

“ก็ถ้าคุณไม่รีบตายตามพ่อของฉันไปซะก่อน ก็อาจจะต้องรอไปจนแก่” เขมมิกาหันไปตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกฝ่าย

“กรี๊ด...อีโยโกะ แก...” ฟ้ารุ้งกรีดร้องและกระทืบเท้าไปมาอย่างโมโห พยายามนึกหาถ้อยคำมาด่าคืน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายพูดแทรกขึ้นอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel