อุ้มรักจอมบงการ

230.0K · จบแล้ว
yochita-uri
110
บท
5.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หนุ่มเจ้าสำราญ ที่หล่อเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ขับรถเข้าไปยื่นสัญญาทาส (สวาท) ให้กับโยโกะ เด็กสาวที่กำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก เรื่องราวจะวุ่นวาย ว้าวุ่น และ ดราม่าขนาดไหน ติดตามต่อได้ใน...อุ้มรักจอมบงการ

นิยายรักโรแมนติกประธานพลิกชีวิตรักหวานๆรักวัยรุ่นรักแรกพบมาเฟียเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยนักศึกษา

1

ซีรีส์ ‘หลอกเด็ก’ ประกอบด้วย

1 อุ้มรักอสูรเถื่อน

เรื่องราวของหนุ่มเสน่ห์แรงอย่าง...จอมพล สิรางประกรณ์ ที่เรียนจบบริหารธุรกิจ แต่ดันหลงใหลในวิถีชีวิตแบบชาวสวน ปลูกผักออร์แกนิคกับผลไม้หลากหลายสายพันธุ์บนที่ดินหลายร้อยไร่ และยังเป็นเจ้าของคอนโดหรูใจกลางเมือง รวมไปถึงหอพักที่อยู่ใกล้กับมหา’ลัย. ดัง อีกหลายแห่ง

เขาเป็นหนุ่มฮอตที่มีข่าวฉาวเรื่องสาวๆ นัดตบตีกันออกสื่อมากที่สุดในกลุ่ม แต่กระนั้น...ก็หาได้แยแสไม่ เพราะชีวิตทั้งหมดของเขา ทุ่มเทให้กับผักและผลไม้ในไร่เพียงอย่างเดียว

2 อุ้มรักจอมบงการ

เรื่องราวของหนุ่มหล่อมาดผู้ดีอย่าง...ขุนพัน ดิลกสาร ที่ร่วมหุ้นเปิดบริษัทขนส่งเอกชนภายในประเทศกับเพื่อนรัก และยังทำธุรกิจเนื้อหมัก (โคขุน) รวมไปถึงการเปิดร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างที่มีสาขามากมายอยู่ทั่วประเทศ

เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อ รวย และหวงแหนอิสรภาพจัด ถึงขั้นจับสาวที่จะขึ้นเตียงด้วยมาเซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนราคาแพง

3 อุ้มรักซาตานลวง

เรื่องราวของหนุ่มเพลย์บอยตัวพ่ออย่าง...แม่ทัพ อินธิรากรณ์ เสี่ยใหญ่ใจป้ำ เจ้าของค่ายมวยดังและเป็นเจ้าของฟาร์มโคขุนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังร่วมหุ้นทำบริษัทขนส่งภายในประเทศกับขุนพันจนขึ้นมาติด TOP 10 หนุ่มหล่อรวยแห่งปี ทำให้เหล่าดารา-นางแบบในวงการต่างพากันถวายตัวให้อย่างไม่ขาดสาย แต่เขาก็ไม่เคยยอมให้สาวคนไหนเข้ามามีอิทธิพลในชีวิต

ตอนที่ 1

โยโกะ เขมมิกา พิกุลณากร เด็กสาวที่บ้านล้มละลาย บิดาก็ชิงตัดช่องน้อยแต่พอตัว แต่ทว่า...หนี้สินต่างๆ ไม่ได้ตายตามบิดาไปด้วย ทุกอย่างยังคงอยู่เช่นเดียวกับแม่เลี้ยง ซึ่งพยายามบีบให้เธอขายบ้านไร่เดชาชดใช้หนี้สินและแบ่งเงินให้กับอีกฝ่าย ¬¬

เธอเหมือนคนสิ้นไร้ไม้ต่อ มืดแปดด้าน ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร คิดอยู่อย่างเดียวคืออยากจะรักษาความทรงจำสุดท้ายของพ่อกับแม่ บนผืนดินแห่งนี้เอาไว้ให้นานที่สุดตราบเท่าที่เธอยังมีลมหายใจอยู่ แต่นั่นดูจะเป็นเพียงความฝันของเด็กสาวที่เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี ใช้หลอกตัวเอง

ขณะที่กำลังขบคิดถึงปัญหาและนั่งจ้องมองทิวทัศน์ของไร่ อยู่ๆ ก็มีรถสปอร์ตหรูแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน...ซึ่งไม่มีแม้แต่คนงานหลงเหลืออยู่สักคน

เพราะหลังงานศพของบิดา แม่เลี้ยงก็ประกาศสถานะทางการเงินว่าไม่มีปัญญาจะจ้างใครต่อ จากนั้นอีกฝ่ายย้ายออกไปอยู่ข้างนอก โดย 2-3 วันจะขับรถแวะเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้เธอขายบ้านและไร่แห่งนี้

ชายหนุ่มที่สูงราวๆ 190 เซนติเมตร ใบหน้าของเขาดูหล่อเหลา เพราะถูกรายล้อมด้วยเคราที่ตัดแต่งมาอย่างดี ทำให้ดูมีเสน่ห์ คมคาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอมเทาอ่อน คล้ายหนุ่มลูกครึ่งทางฝั่งยุโรป ก้าวออกมาจากรถและส่งยิ้มอันแสนจะสะกดใจมาให้ พร้อมกับเอ่ยทักทาย

“สวัสดีครับ ผมขุนพัน ดิลกสาร”

เขมมิกาที่กำลังเหม่อลอย ถึงกับตื่นตกใจ กระพริบตามองซ้ำๆ อย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก ‘เขามีถ่ายหนังถ่ายโฆษณากันแถวนี้หรือเปล่านะ?’

เธอถามตัวเองในใจพลางจ้องมองเขาอย่างเอียงอาย ก่อนจะเอ่ยทักทายตอบไปอย่างเขินๆ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ โยโกะ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”

“เอ่อ...ผมจะมาขอเที่ยวชมไร่น่ะครับ คุณโยโกะช่วยพาผมทัวร์ไร่หน่อยจะได้ไหม” ขุนพันถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ เดาว่าสาวเจ้าคงจะเพิ่งตื่น เพราะหน้าสด มัดผมขึ้นสูง ใส่เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงนอนสีฟ้าอ่อน แลดูคล้ายเด็กสาวอายุ 16-17 ก็ไม่ปาน แต่กระนั้น...เธอก็ยังดูสวยและมีเสน่ห์เย้ายวนสมคำล่ำลือที่ได้ยินมาค่อนข้างจะหนาหู

“ได้ค่ะ” เขมมิกาฉีกยิ้มให้อีกฝ่ายบางๆอย่างเข้าใจ ‘อ้อ! ที่แท้ก็มาดูไร่ ข่าวไปไกลเหมือนกันนะเนี่ย ขนาดคนไม่รู้จักไม่เคยพบหน้า ก็ยังขับรถมาดูที่’

“คุณอายุเท่าไหร่เหรอครับ?” ขุนพันเอ่ยถามพร้อมกับออกเดินนำ เพื่อจะเบี่ยงเบนสายตาของตัวเองให้หันไปมองทิศทางอื่น ที่ไม่ใช่ใบหน้าอันงดงามนั้น

“22 จะ 23 ค่ะ” เขมมิกาออกเดินตามร่างสูงสมบูรณ์แบบที่ดูราวกับ ท็อปโมเดลไปด้วยหัวใจสั่นๆ

“กำลังเรียนอยู่เหรอครับ?” ขุนพันหันไปเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามอีกครั้งอย่างอดไม่ได้

“เรียนจบแล้วค่ะ กำลังจะเข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า” เขมมิกาบอกด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เมื่อนึกไปถึงแผนที่ตัวเองวางไว้ ว่าหากขายไร่เดชาเมื่อไหร่ เธอก็คงจะย้ายไปอยู่คอนโดที่พ่อซื้อให้ตอนเรียนอยู่ปีหนึ่งอย่างถาวร และเข้าทำงานในบริษัทที่มีความมั่นคงระยะยาว ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากคอนโดของเธอเท่าไหร่นัก

“ผมได้ข่าวว่าคุณจะขายที่ดินผืนนี้” ขุนพันเอ่ยเข้าเรื่องอย่างไม่รอช้า

“...” เขมมิกาถึงกับสตั๊นไปทันใดกับคำถามตรงๆ ของอีกฝ่าย

“ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่าครับ?”

“เปล่าค่ะ ฉันแค่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะขายดีหรือเปล่า” เขมมิกาตอบพลางส่ายหน้านิดๆ

“แสดงว่าลึกๆ แล้วคุณไม่อยากขายมัน”

“ใช่ค่ะ ฉันวิ่งเล่นบนที่ดินผืนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ”

“แต่ผมทราบมาว่ามันกำลังจะถูกธนาคารยึดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า” ขุนพันกัดฟันเอ่ยเรื่องที่รับรู้มา เพื่อจะปูทางสู่บทสนทนาต่อไป

“ค่ะ” เธอเอ่ยรับด้วยสีหน้าเศร้าๆ เพราะชายหนุ่มไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาคุยเรื่องนี้กับเธอ อย่างน้อยก็ยังมีฟ้ารุ้งอีกคน ที่พยายามอยากจะให้เธอขายไร่แห่งนี้ให้กับคนที่ติดต่อผ่านอีกฝ่ายมา

“ขอโทษด้วยที่ผมเสียมารยาท” ขุนพันรีบบอก เมื่อเห็นใบหน้างามเศร้าสลดลงไปทันตา

“ไม่เป็นไรค่ะ ต่อให้วันพรุ่งนี้ฉันถูกรางวัลที่หนึ่งก็คงไม่สามารถจะโอบกอดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้เหมือนเดิมได้ ที่ฉันยังคงอยู่ที่นี่ก็เพราะอยากจะซึมซับทุกช่วงเวลาไปจนถึงวินาทีสุดท้ายก็เท่านั้น”

“คุณติดหนี้ธนาคารเท่าไหร่ครับ” ขุนพันเอ่ยถามทั้งที่รู้เรื่องจากคนสนิทที่ให้ตามสืบมาหมดแล้ว

“20 กว่าล้านค่ะ” เขมมิกาบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกเครียดนิดๆ